เอโลอิสเต็มใจที่จะช่วยลูกสาวของตัวเอง แต่เมื่อได้ยินลูกสาวพูดออกมาแบบนั้นทำให้เธอทุกข์ใจกว่าเดิม
“เมเรดิธ ไม่ต้องกลัวนะ แม่ของลูกจะไม่มีทางยอมให้ลูกถูกรังแกง่าย ๆ แบบนี้แน่นอน! ฟังทางนี้ทุกคน ฉันอยากให้ทุกคนได้รู้ว่านายน้อยวิทแมนคนนี้ที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากที่สุดในเกลนเดล แต่แท้จริงแล้วเป็นผู้ชายไม่แยแสอย่างแท้จริง และที่สำคัญผู้หญิงคนนี้ชื่อ วีล่า ควินน์ เธอเป็นจิ้งจอกน่ารังเกียจและไร้ยางอายที่สุด!”
แขกทุกคนอ้าปากค้าง!
ทุกคนต่างตกใจเมื่อได้ยินที่เอโลอิสพูด
หลังจากที่ทุกคนได้รับข่าวสารที่ได้ยินมาแบบนั้น เหมือนกับว่า วีล่า ควินน์ เข้าไปยุ่งแทรกแซงความสัมพันธ์ระหว่างเจเรมี่และเมเรดิธ เป็นผลให้เมเรดิธถูกทอดทิ้งไปไหนที่สุด
“คุณแม่คะ อย่าพูดแบบนั้น! ทั้งหมดมันเป็นความผิดหนูเองไม่เกี่ยวอะไรกับเจเรมี่และคุณวีล่าเลยซักนิด ไปกันเถอค่ะ!” เมเรดิธร้องไห้ ทำหน้าตาน่าสงสาร
หลายคนเริ่มเข้าข้างเธอ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขารู้เพียงน้อยนิดระหว่างความสัมพันธ์ของเมเรดิธและเจเรมี่แต่ดูเหมือนว่าวีล่าจะเข้ามาเป็นมือที่สามของความสัมพันธ์
แขกส่วนใหญ่ในงานค่อนข้างหดหู่กับเรื่องเมเรดิธและพวกเขาต่างพากันดูถูกมาเดลีน
เจเรมี่เห็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัวที่ถูกเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เขาหันหน้ามาทางมาเดลีนอย่างกังวล
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” เขายกมือขึ้นปัดแก้มเธอเบา ๆ ด้วยนิ้วของเขา
มาเดลีนยิ้มออกมาอย่างสง่างามพร้อมกับท่าทีที่สงบ “ฉันจะเป็นอะไรมากได้ไงกันแค่ถูกตบแค่นี้เอง? ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นนะ” เธอยิ้มให้เขา ก่อนจะมองเอโลอิสและเมเรดิธ และในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกได้ถึงความกดดันจากสายตาที่ดูถูกและเหยียดหยามเธอที่มาจากคนอื่นรอบข้าง
“คุณนายมอนต์โกเมอรี ทุกคนต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำและพูดออกมาแบบนั้น คุณตบหน้าฉันต่อหน้าคนมากมายอย่างไม่มีเหตุผลและยังเรียกฉันว่าจิ้งจอกอีกต่างหาก ดังนั้นคุณควรให้คำอธิบายที่มันสมเหตุสมผลกับสถานการณ์ตอนนี้หน่อยได้ไหม?”
เธอยิ้มเบา ๆ สายตาแห่งความหยิ่งผยองของเธอกำลังกวาดมองไปรอบ ๆ ผู้คนที่สงสัยตั้งคำถามกับเธอ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “การถูกกล่าวหาผิด ๆ เป็นเรื่องที่น่าเบื่อที่สุดในชีวิตฉันเลยรู้กันบ้างไหม”
เธอพูดคำพวกนั้นออกมาอย่างมีความหมายอยู่ข้างใน
“กล่าวหาผิด?” เอโลอิสยิ้มให้เธอด้วยความดูถูก “ฉันพูดอะไรผิดเหรอ? ที่หาว่าเธอเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์! ก็เธอมันโหดร้าย ใจร้าย ไร้ยางอายขนาดนี้!”
“คุณแม่คะ ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ไปกันเถอะ เรายั่วยุเธอไม่ได้ เพราะหนูไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่โหดร้ายแบบนั้นอีกแล้ว ทุกครั้งที่หนูหลับตาก็ยังเห็นมันอยู่เสมอ พวกเขารังแกหนูทีละคน ทีละคน มันเจ็บปวดจริง ๆ ค่ะ…” เมเรดิธร้องไห้ออกมาจนไหล่สั่นก่อนที่เธอจะหยุดพูด แต่เธอยังแอบยิ้มในใจเพื่อหวังว่าเอโลอิสจะทำให้เรื่องทุกอย่างแย่ลงไปกว่านี้
เอโลอิสยิ่งทุกข์ใจมากและกอดเมเรดิธแน่น เธอรูปหลังลูกสาวสุดที่รักตัวเองเบา ๆ เป็นการปลอบเธอ
เมื่อได้ยินคำพูดของเมเรดิธที่แฝงไปด้วยความหมาย ผู้คนรอบข้างก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจและแสดงท่าทีออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...