มาเดลีนบอกความจริงกับเธออีกครั้ง
ในขณะที่เอโลอิสรับฟังเธอ โดยไม่แสดงความโกรธออกมา ตรงกันข้าม เธอกลับยิ้มออกมาอย่างเรียบง่าย
“วีล่า ควินน์ ฉันรู้ว่าเธอกำลังวางแผนทำอะไร เธอพยายามปลุกปั่นให้ฉันไม่ลงรอยกับเมอร์ ฉันเป็นแม่ที่แท้จริงของเธอ ฉันรู้ดีที่สุดว่าเธอเป็นลูกสาวของฉันหรือไม่ อย่าคิดที่จะสร้างความแตกแยกระหว่างเรา!”
หลังจากที่เอโลอิสพูดจาหนักแน่น เธอจับมือของแจ็คสันพาเขาเดินจากไป
“บางครั้งสิ่งที่คุณเห็นก็ไม่จำเป็นต้องเป็นความจริงเสมอไป” มาเดลีนพูดใส่หลังเอโลอิส
“คุณนายมอนต์โกเมอรี ถ้าในอนาคตคุณไม่อยากเสียใจในอนาคตต่อไปอีกล่ะก็ คุณควรที่จะคิดและพิจารณาดูอีกครั้งว่าคนที่เสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน มีอะไรบางอย่างคล้ายคลึงกับคุณบ้าง”
เอโลอิสหยุดเดิน จากนั้น เธอได้ยินเสียงของมาเดลีนพูดดังขึ้นและชัดเจนกว่าเดิม
“ตอนที่ฉันยืนอยู่นอกห้องพักฟื้นของเมเรดิธ ฉันเคยได้ยินโรสพูดว่าลูกสาวตัวจริงของคุณตายไปแล้ว”
“หุบปาก!”
เอโลอิสหันหลังกลับไปด้วยความโกรธแค้น สายตาที่เธอใช้มองมาเดลีนเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“วีล่า ควินน์ วันนี้เป็นฤกษ์งามยามดีของงานแต่งลูกสาวฉัน ฉันไม่อยากจะพูดจาสาปแช่งเธอหรอกนะ แต่ว่า ถ้าหากเธอยังยืนยันที่จะใส่ร้ายลูกสาวของฉันอยู่ ฉันจะไม่ให้อภัยเธอเด็ดขาด!”
หลังจากที่เอโลอิสพูดเตือนเธออีกครั้ง เธอหันหลังแล้วเดินจากไป
หนามในใจมาเดลีนทิ่มแทงเธอให้เจ็บปวดอย่างแผ่วเบา
‘หนูอยู่ตรงหน้าคุณแม่แท้ ๆ ทำไมคุณแม่ถึงไม่มีความรู้สึกของสายสัมพันธ์อยู่เลย? เราเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ทำไมคุณแม่ถึงรู้สึกไม่ได้ถึงสายสัมพันธ์นั้นเลย?’
ขณะที่มองไปที่แผ่นหลังของคนเป็นแม่ มาเดลีนก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก เธอหันหลังแล้วเดินจากตรงนั้นไป
เหมือนกับว่าเป็นการปะทะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ระหว่างฝ่ายตรงข้าม ในทันทีที่เธอหันหน้าเพื่อเดินไปทางอื่นในจังหวะเดียวกันนั้น เธอเห็นเมเรดิธยืนถือช่อดอกไม้ขณะสวมชุดสีขาวในตอนที่เธอเดินมาข้างหน้า
ทันทีที่เธอเห็นมาเดลีน เมเรดิธรีบเดินให้เร็วขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอกว้างมากกว่าเดิม
“คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ยว่าเธอจะมาปรากฏตัวที่นี่” เมเรดิธยิ้มและพูดจาอย่างกับคนคุ้มคลั่งออกมา ความเกลียดชังมีให้เห็นในสายตาเธอ “วีล่า ควินน์ เธอจะมีความละอายสักเล็กน้อยจะได้ไหม?”
มาเดลีนยิ้มช้า ๆ “การจะมีความรู้สึกละอายนั้นจำเป็นต้องมีจิตสำนึก ไม่ใช่แบบเธอ คุณครอว์ฟอร์ด เธอมันไร้ยางอายอย่างสิ้นเชิง”
“... ” เมเรดิธหน้าตึงทันที “วีล่า ทำไมเธอถึงแสร้งทำเป็นเข้มแข็งอยู่ได้ตอนนี้? ฉันกับเจเรมี่จะกลายเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายคนทั่วโลกจะเป็นสักขีพยานให้กับเรา ส่วนเธอ ตรงกันข้าม…”
เมเรดิธเชิดหน้าขึ้นแล้วตะคอก
“เธอทำได้แค่ไสหัวไป”
“ไม่คิดว่าทุกอย่างจะจบลงหลังจากเธอแต่งงานกับเจเรมี่แล้วงั้นเหรอ?” มาเดลีนเอ่ยถามอย่างช้า ๆ และเมื่อเธอเห็นสีหน้าของเมเรดิธที่เปลี่ยนไป เธอได้ยิ้มเยาะออกมา “ตอนนั้น มาเดลีนก็แต่งงานกับเจเรมี่เช่นกัน แต่ฉันคิดว่าเธอรู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนท้าย”
“หืม นี่เธอกล้าเปรียบเทียบฉันกับผู้หญิงสารเลวคนนั้นได้ยังไง? ผู้หญิงคนนั้นไม่มีค่าพอที่จะมาจูบแม้แต่รองเท้าฉันด้วยซ้ำ!” เมเรดิธกลอกตาไปมา “เจเรมี่เกลียดมาเดลีนมาก จนทำให้เธอสมควรตาย ไม่เหมือนกับฉัน เจเรมี่รักฉันมากกว่าสิบปี! เขาอยากแต่งงานกับฉันมาตั้งนานแล้ว!”
หลังจากที่เมเรดิธพูดจบ เอมี่ ผู้ช่วยของเธอ วิ่งไปแจ้งบางอย่างกับเธอ
“คุณครอว์ฟอร์ดคะ คุณวิทแมนมาถึงแล้ว”
ดวงตาของเมเรดิธสว่างขึ้นวูบวาบ “เข้าใจละ ไปเตรียมตัวกัน”
“ได้เลยคะ” เอมี่ตอบรับอย่างรู้งานและเธอมองไปที่มาเดลีนก่อนจะเดินจากไป
เมเรดิธเผยรอยยิ้มที่ดีที่สุดของตัวเองก่อนจะมองไปที่มาเดลีนในขณะที่เธอรู้สึกพึงพอใจกับตัวเองเป็นอย่างมาก “ฉันจะเริ่มพิธีแต่งงานกับเจเรมี่เร็ว ๆ นี้ เธอควรจับตาดูให้ไว้ให้ดีล่ะ วีล่า ควินน์”
หลังจากที่เธอพูดจบ เสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ข้างหลังในขณะที่เธอหันหลังกลับไปดู
“เจเรมี่” เมเรดิธเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนหวาน จากนั้น เธอได้ยกชุดเพื่อเดินไปหาเจเรมี่
มาเดลีนมองหน้าเขาโดยที่ไม่ตื่นเต้นเลย “เจเรมี่”
เธอยิ้มแบบเขินอายในขณะที่มองผู้ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ