“จริงสิ” เจเรมี่พยักหน้า “เชื่อฉันเถอะ”
น้ำเสียงของเขาทุ้มลึกแต่อ่อนโยน เมเดลีนมองไปยังเขาขณะที่ทำอะไรไม่ถูก หลังจากนั้นไม่นานนัก เธอก็กลับมารู้สึกตัวและผลักแขนเขาออกอย่างไม่พอใจ
“จำคำพูดของตัวเองไว้ให้ดี อย่าให้ฉันต้องเกลียดนายไปมากกว่า” เธอสะบัดหน้าหนีและเดินออกไปหลังจากที่พูดจบ
ในขณะที่เจเรมี่กำลังดูเมเดลีนเดินจากไป จู่ ๆ เขาก็รู้สึกปวดร้าวทรมานในใจของเขา ภายในใจของเขาถูกครอบครองด้วยความรักของเมเดลีน และความชื่นชมในดวงตาของเธอที่เคยมีให้กับเขา แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นอดีตไปแล้ว ในตอนนี้พวกมันกลายเป็นความทรงจำที่แสนเลือนรางเท่านั้น…
คืนนั้น เมเดลีนนอนไม่หลับ
เธออดทนรอไม่ไหวที่จะได้เห็นลูกที่ถูกขโมยไป
เธอจินตนาการถึงใบหน้าของเด็กคนนั้น เธอจะมีลักษณะเป็นอย่างไรนะ?
แน่นอนว่า เด็กผู้หญิงคนนั้นจะต้องน่ารักมากแน่ ๆ
ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอจะเกลียดเจเรมี่มาก แต่เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเป็นคนที่หน้าตาดูดีและโดดเด่นมาก เธอเองก็ดูสวยโดดเด่นไม่แพ้กัน ดังนั้น ด้วยการรวมยีนส์ของพวกเขาเข้าด้วยกัน เป็นไปไม่ได้เลยที่ลูกของพวกเขาจะออกมาหน้าตาไม่ดี
อย่างไรก็ตาม เมเดลีนเองคิดไม่ถึงเลยว่า เจเรมี่จะรู้ว่าเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่
ในตอนนั้นเขารู้ไหมว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่?
ถ้าหากเขารู้ แล้ววันนั้นเขาโปรยอะไรตรงหน้าเธอที่สุสาน?
พฤติกรรมที่โหดร้ายและกดขี่ข่มเหงของเขา ยังคงวนเวียนอยู่ในใจของเธอ มันคล้ายกับว่าเขาดูเหมือนไม่ได้แสร้งทำ
ถ้าอย่างนั้นในตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เมเดลีนผล็อยหลับไปพร้อมกับคำถามที่มีอยู่มากมายในหัวของเธอ
วันถัดมา
เขายังคงดูสงบในขณะที่พูดเรื่องเกี่ยวกับความจริงที่ว่า เขาได้ถูกปลดออกจากทุกสิ่งในบริษัทและไม่เหลืออะไร
จากนั้นเจเรมี่ก็ยิ้มออกมา “ผมไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับคำแถลงการณ์ เรื่องการสูญเสียความน่าเชื่อถือในแวดวงธุรกิจของผม ส่วนสถานการณ์อันยุ่งเหยิงในช่องทางออนไลน์ ผมว่าข่าวลือจะหยุดลงเมื่อมาถึงผู้มีปัญญา”
เขาให้ตอนนี้ยังคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่ได้ดูตกใจหรือกังวลใจเลยสักนิด
“คุณวิทแมนคะ เมื่อไม่นานมานี้ เมเรดิธ ครอว์ฟอร์ด ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมถึงสองครั้งเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อน เธอเป็นคนรักของคุณ ดังนั้นคุณวางแผนที่จะจ้างทนายสู้คดีให้เธออย่างไรบ้างคะ?”
“ฉันได้ยินมาว่า หลังจากที่เมเรดิธ ครอว์ฟอร์ดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพยายามฆ่า คุณเองก็ไม่เคยไปเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง แม้ว่าเธอจะทำสิ่งเลวร้ายมามากมาย แต่เธอก็ยังเป็นคนที่ให้กำเนิดลูกรชายของคุณ อีกอย่างเธอก็ใช้ชีวิตอยู่กับคุณมาเป็นเวลาหลายปี ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์ต่างเรียกคุณว่า คนไร้หัวใจ เพราะฉะนั้น คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างคะ?”
สายตาของเจเรมี่กำลังขุ่นเคือง เมื่อต้องเผชิญกับคำถามจากนักข่าว “เมเรดิธ ครอว์ฟอร์ดได้ลงมือสังหารผู้คน ดังนั้นสมควรแล้วที่เธอจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าผมเคยมีความสัมพันธ์กับเธอมาก่อน แต่ผมไม่เคยชอบเธอ นับประสาอะไรหากจะพูดถึงว่ารัก” เขาพูดออกมา ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็อ่อนลงราวกับลมที่ลูบไล้อย่างอ่อนโยนในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังเมเดลีนซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในใจของผม เธอคนนั้นคือภรรยาของผม เมเดลีน ครอว์ฟอร์ด ไม่สิ ชื่อจริงของเธอคือ เอวลีน มอนต์โกเมอรี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...