แค่เพียงคำพูดสั้น ๆ นั้นก็ได้ตัดผ่านหัวใจของเมเดลีนราวกับคมดาบที่มองไม่เห็น
เธอมองตามเจเรมี่ที่หันหลังจากไปโดยไม่ลังเล และไม่แม้แต่จะปรายหางตาของเขามาที่เธอเลยสักนิด
'เจเรมี่ นี่คุณเชื่อทุกคำโกหกที่เย็นชานั่นของฉันจริง ๆ งั้นเหรอ'
“เหมือนว่าเขาไม่ได้รักคุณมากเท่าที่ผมคาดคิดไว้นะ” เฟลิเป้พูดด้วยรอยยิ้มนุ่มนวล “ผมมีธุระที่ต้องคุยกับลูกค้าคนสำคัญ คุณหาอะไรรองท้องก่อนได้เลย เดี๋ยวผมกลับมา”
จากนั้นเฟลิเป้ก็ได้ออกไปทันที ปล่อยให้เธอยืนงงอยู่กับที่ทั้งอย่างนั้น
เธอเดินไปยังโต๊ะจัดเลี้ยงซึ่งมีเครื่องดื่มวางเรียงรายอยู่มากมาย ก่อนจะหยิบไวน์แดงขึ้นมาหนึ่งแก้ว และเริ่มดื่มอีกครั้ง
ถึงอย่างนั้น เธอไม่สามารถรู้สึกถึงรสหวานของไวน์ชั้นเลิศได้ มีเพียงความขมเท่านั้นที่เธอรับรู้ไปถึงขั้วหัวใจ
“เอวลีน มอนต์โกเมอรี ไม่ใช่เหรอ?”
“เธอเป็นผู้หญิงของคนไหนกันแน่? เธอเพิ่งแต่งงานกับเจเรมี่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเองไม่ใช่เหรอ? แล้ววันนี้ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้หญิงของเฟลิเป้ อาของเจเรมี่ได้ล่ะ?”
“ครอบครัวคนรวยมีแต่เรื่องยุ่งเหยิง ฉันยังได้ยินมาอีกนะว่าเจเรมี่และเฟลิเป้ตัดขาดความสัมพันธ์ฉันอาหลานกันเพื่อมาแย่งเธอ ตอนนี้พวกเขาดูเป็นมิตรแค่ภายนอกก็เท่านั้นแหละ แต่ในใจทั้งคู่หมางเมินกันจะตาย”
“ชิ ให้ตายสิ ความงามคือหายนยะที่แท้จริง ว่าก็ว่าเถอะผู้หญิงน่ะยิ่งสวยเท่าไหร่ ก็ยิ่งใจร้ายเท่านั้น!”
“ใช่ แล้วดูเธอสิ ดูเหมือนจิ้งจอกก็ไม่ปาน”
หลังจากได้ยินเสียงซุบซิบว่าร้ายทั้งหมดนั้นแล้ว
เมเดลีนอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปพร้อมกับแก้วไวน์มือด้วยท่วงท่าที่คงไว้ซึ่งความสง่างาม ก่อนจะเผชิญหน้ากับพวกผู้หญิงที่กำลังมองและดูถูกเธอต่าง ๆ นานา
“ฉันเข้าใจความหมายที่พวกเธอกำลังจะสื่อนะ ถ้าจะชมว่าฉันสวยแค่ไหนก็บอกมาตรง ๆ เลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมไปอ้อมมาให้น่ารำคาญเลย ทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าใบหน้าของนางพญาจิ้งจอกสวยงามแค่ไหน”
“...”
“...”
ผู้หญิงสองสามคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นถึงกับอับอายเมื่อได้ยินเสียงเธอ พวกเธอพากันบ่นพึมพำอย่างหัวเสีย ขณะที่เดินจากไป
เมเดลีนไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอโกรธผู้หญิงพวกนั้นหรือเป็นเพราะอะไรกันแน่ ที่จู่ ๆ หน้าอกเธอก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
“...”
เธอไม่คาดคิดว่าเจเรมี่จะแนะนำเธอในลักษณะนี้ เมเดลีนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“คุณนั่นเอง คุณมอนต์โกเมอรี คนที่ยังกุมหัวใจของเจเรมี่เอาไว้ ” อีเวตต์ยิ้มออกมาพลางยกมือขึ้นเพื่อจับแขนของเจเรมี่ “คุณมอนต์โกเมอรี คุณสวยมากจริง ๆ ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” เมเดลีนเหลือบมองไปยังแขนที่เกี่ยวกันไว้แน่นและยิ้มออกมาจาง ๆ แต่ภายในอกของเธอกลับรู้สึกคับแน่นและท้องของเธอเองก็รู้สึกปั่นป่วนมากขึ้น
“งั้นฉันไม่รบกวนพวกคุณสองคนแล้ว ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ” เธอหาข้ออ้างและเดินหนีจากตรงนั้นทันที อันที่จริง เธอไม่ต้องการเห็นเจเรมี่จู๋จี๋กับผู้หญิงคนอื่นเลยจริง ๆ
ถึงแม้เธอจะบอกว่าไปห้องน้ำ แต่ความจริงเธอกลับวิ่งไปที่ระเบียงเพื่อรับลมแทน ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถบรรเทาอาการอึดอัดไม่สบายตัวของเธอให้ทุเลาลงได้เลยสักนิด
ความรู้สึกคลื่นไส้ที่มากขึ้นปั่นป่วนมากเกินกว่าที่เมเดลีนจะทนไหว และอดไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมา
หลังจากสำรอกออกมาสองสามครั้ง เธอก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
เธอเอามือสัมผัสท้องตัวเองและคาดเดาสถานการณ์ภายในใจอย่างลุกลี้ลุกลน ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยก็ได้ดังขึ้นข้างหลังเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...