เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1326

ตอนที่ 1326 – หวนคืน

ทุกคนที่ซ่อนตัวอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์นั้นพลุ่งพล่านด้วยความโกรธ พวกเขาโกรธ แต่ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อระบายความโกรธของพวกเขา พวกเขาทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อยเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียนราชาตระกูลเต๋า และถ้าพวกเขาทำตัววู่วามเกินไป มันจะง่ายมากสำหรับพวกเขาที่จะตาย

” ข้าสงสัยว่าเมื่อไรผู้คุมกฎจะกลับมา ถ้าผู้คุมกฎกลับมาเขาจะต้องทำให้ตระกูลเต๋าจ่ายค่าตอบแทนอย่างแน่นอน” ผู้อาวุโสของเผ่าเต่ากล่าว เขารู้สึกชื่นชมจากส่วนลึกของหัวใจของเขาต่อเจี้ยนเฉินเพราะเขาจะไม่มีวันลืมว่าเผ่าที่เสื่อมถอยนั้นกลับพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การนำของเจี้ยนเฉิน เหตุผลที่ว่าทำไมเผ่าถึงครอบครองผู้เชี่ยวชาญระดับ 16 ดาวได้ถึง 5 คน นั่นเป็นเพราะเจี้ยนเฉิน มันไม่เกี่ยวอะไรกับเผ่าเลย

ฉิงยี่หยวนเลิกคิ้วและเย้ยหยัน นางหัวเราะเยาะ” เต๋าเจิ้งเทียนมีโถงศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่รู้ว่าโถงศักดิ์สิทธิ์นั้นแข็งแกร่งแค่ไหน คนที่ไม่ใช่เซียนจักรพรรดิไม่สามารถปะทะกับพวกมันได้ ต้องยอมรับว่าความสามารถของเจี้ยนเฉินนั้นน่าประทับใจอย่างมากและเขามีพลังอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เขายังไม่สามารถทำอะไรกับเต๋าเจิ้งเทียนได้เนื่องจากเขามีโถงศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าเขาจะจัดการกับเต๋าเจิ้งเทียนด้วยตัวของเขาเอง เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเต๋าเจิ้งเทียน ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้เขาจะไร้ประโยชน์แม้ว่าเขาจะกลับมาก็ตาม”

“เราเชื่อในตัวท่านผู้คุมกฎ ท่านผู้คุมกฎนั้นฉลาด เขาเป็นความหวังเดียวของเรา ตราบใดที่มีท่านผู้คุมกฎอยู่ เผ่าของเราจะสามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้” กลุ่มผู้คนในเผ่าซึ่งได้ยินฉิงยี่หยวนพูดถึงเจี้ยนเฉินอย่างชัดเจนจากบริเวณใกล้เคียงและลุกขึ้นยืนทันทีก่อนคำรามออกมา เขาปกป้องผู้คุมกฎเป็นอย่างมาก

ใช่ ถูกต้องแล้ว ท่านผู้คุมกฎของเรามีพลัง เขาเป็นคนฉลาด ตอนนี้เผ่าของเรากลายเป็นเช่นนี้เพียงเพราะไม่มีท่านผู้คุมกฎอยู่ หากมีท่านผู้คุมกฎอยู่ ข้าเชื่อว่าเผ่าของเราจะสามารถจัดการกับปัญหาใด ๆ ภายใต้การนำที่ชาญฉลาดของเขา”

“ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ได้อธิบายทุกอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นหรือ ? เราไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากท่านผู้คุมกฎ เฉพาะเมื่อท่านผู้คุมกฎอยู่กับเราเท่านั้นที่เราจะมีพลังมากขึ้น หากปราศจากท่านผู้คุมกฎเราก็ไม่มีอะไร”

มีคนพูดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาปกป้องเจี้ยนเฉินเป็นอย่างมากและตำหนิฉิงยี่หยวน พวกเขาทุกคนมีความจงรักภักดีต่อผู้คุมกฎอย่างหน้ามืดตามัว แม้แต่ความคิดและความเชื่อของพวกเขาก็ได้รับผลกระทบมาจากเจี้ยนเฉินโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเห็นความจงรักภักดีอย่างบ้าคลั่งในสายตาของคนในตระกูล ฉิงยี่หยวนลูบหัวนางด้วยความเจ็บปวด นางส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และบ่น “เจ้าหมดหนทาง ข้าไม่เข้าใจว่าเจี้ยนเฉินโน้มน้าวใจผู้คนมากมายได้อย่างไร เขาอยู่ในเผ่านานแค่ไหนกันเชียว”

ด้านนอก เต๋าเจิ้งเทียนและเซียนราชาคนอื่น ๆ ยังคงยั่วยุ พวกเขาใช้ทุกอย่างเพื่อพยายามบังคับให้ผู้คุมกฎออกมา แต่หลังจากทำงานหนักมาหลายวันพวกเขาก็ไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของเจี้ยนเฉิน

ในขณะเดียวกัน เต๋าเจิ้งเทียนและคนอื่น ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มสงสัยตัวเอง พวกเขาเดาแล้วว่าเป็นไปได้อย่างยิ่งที่เจี้ยนเฉินไม่ได้อยู่หรือเขาอยู่ในการกักตัวบ่มเพาะ

“อยู่ที่นี่กันต่อไปเถอะ แม้ว่าผู้คุมกฎของเผ่าเต่าไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาอาจได้รับข้อความจากใครบางคนนานมาแล้ว เขาอาจจะกลับมาเร็ว ๆ นี้” เต๋าเจิ้งเทียนนั่งอยู่ด้านบนสุดของโถงศักดิ์สิทธิ์ เขาจ้องไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดด้วยดวงตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่ง เขามั่นใจอย่างยิ่ง

ในขณะนี้ เสียงลมดังขึ้น ร่างสองร่างพุ่งมาจากระยะไกลอย่างรวดเร็ว

สำหรับเซียนราชา ร่างสองร่างที่เข้าใจในมิตินั้นไม่ลึกซึ้งมากนัก แต่ความเร็วของมันนั้นน่าทึ่งเพราะมันไม่ช้ากว่าเซียนราชา แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับ 16 ดาวบางคนก็ไม่สามารถเดินทางได้เร็วเท่ากับพวกเขา

ในพริบตาทั้งสองคนก็หยุดลงระหว่างสองโถงศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุดใบหน้าของพวกเขาก็ปรากฏให้เห็นในขณะนั้น หนึ่งในนั้นคือชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัยยี่สิบของเขา เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวและหล่อเต็มไปด้วยความเป็นชาย ดวงตาของเขาแหลมคมเหมือนกระบี่และการจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขาจะทำให้ดวงตาของผู้สังเกตการณ์บาดเจ็บ

อีกคนเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก ผิวของเขาเป็นสีทองและเปล่งประกายด้วยความแวววาวของโลหะจาง ๆ ดูเหมือนว่าเขาจะทำจากมาทองคำและส่วนที่สะดุดตาที่สุดของเขาคือศูนย์กลางระหว่างคิ้วของเขา จริง ๆ แล้วมีรอยประทับรูปขวานอยู่ตรงนั้น