เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 19

Chaotic Sword God ตอนที่ 19 ความไม่สะดวก

ชั่วพริบตา สามวันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าสามวันจะเป็นเวลาไม่นานนัก แต่เจี้ยนเฉินก็คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อมในสำนักคากัตมากขึ้น ภายในระยะเวลาสามวันที่ผ่านมา เจี้ยนเฉินเข้าชั้นเรียนในวันแรก เวลาที่เหลือนั้น เขาใช้เวลาทั้งหมดสองวันในการบ่มเพาะพลังในห้องของเขาหรือเดินอย่างไม่มีจุดหมายไปที่หอหนังสือ

เนื่องจากความจริงที่ว่าหลักสูตรการสอนของอาจารย์ในสำนักนั้นหมุนเวียนเกี่ยวกับวิธีการเอาตัวรอดเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายและทักษะบางอย่างที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดในพื้นที่ เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่คุ้มค่าที่จะเรียนรู้ เขาเป็นคนพเนจรในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ ด้วยประสบการณ์ของเขา เขาสามารถสอนอาจารย์ได้ว่าควรจะสอนในชั้นเรียนเช่นไร

ด้วยประสบการณ์ต่อสู้และทักษะการเอาตัวรอดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลก เขาจะสามารถสอนทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ได้ด้วยตัวของเขาเอง ขณะที่ประสบการณ์ของอาจารย์ในด้านการต่อสู้ยังไม่มากพอด้วยซ้ำหากนำมาเปรียบเทียบกับเจี้ยนเฉิน

เช้าวันรุ่งขึ้น เจี้ยนเฉินใส่เครื่องแบบของสำนักและมุ่งหน้าตรงไปที่หอหนังสือหลังจากทานอาหารที่ห้องอาหาร สำนักแห่งนี้หละหลวมมากเกี่ยวกับการเรียนในชั้นเรียน ถ้าใครอยากจะเข้าร่วมพวกเขาก็สามารถเข้าร่วมได้ หากไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คนส่วนมากเป็นชนชั้นสูงและเป็นเด็กที่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยซึ่งเรียนหนังสือมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นความรู้ของพวกเขาก็เพียงพอที่จะเทียบเท่ากับอาจารย์บางคนเลยก็ว่าได้ แต่สิ่งที่พวกเขาขาดคือประสบการณ์ ดังนั้นการเรียนรู้ในชั้นเรียนจึงมีแต่ลูกศิษย์สามัญที่ยากจนซึ่งเข้าร่วม สำหรับพวกมัน มันเป็นเรื่องยากมากที่ชนชั้นสูงจะเข้าร่วมชั้นเรียน และถ้ามีก็เป็นเพียงแค่ชนชั้นสูงบางคนเท่านั้น

ในที่สุดก็มาถึงชั้นที่ 1 ของหอหนังสือ เจี้ยนเฉินหยิบหนังสือออกมาไม่กี่เล่มและเริ่มที่จะอ่านพวกมันด้วยความกระตือรือร้นบริเวณโต๊ะสำหรับอ่านหนังสือ

หอหนังสือของสำนักคากัตกว้างขวางมากเลยทีเดียว และพวกมันเต็มไปด้วยหนังสือหลากหลายมากมาย มันมหาศาลยิ่งกว่าหอหนังสือในคฤหาสน์เจียงหยาง และเจี้ยนเฉินสามารถหาหนังสือหลายเล่มที่ไม่สามารถพบได้ที่บ้าน ซึ่งช่วยให้เขาเข้าใจโลกในระดับที่ดีขึ้น

ตอนนี้หนังสือในมือเจี้ยนเฉินเป็นหนังสือแนะนำเกี่ยวกับสัตว์อสูรทั้งหมดที่สามารถพบได้ในทวีปเทียนหยวน มีอสูรหลายชนิดที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรที่เดินหรือบินได้ จำนวนของสายพันธุ์มีมากกว่า 1,000 ชนิดที่หนังสือเล่มนี้กล่าวถึง และสำหรับสัตว์อสูรที่ไม่ได้อยู่ภายในส่วนลึกที่สุดของเทือกเขาสัตว์อสูร แต่พวกพวกมันอยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรอันไร้ที่สิ้นสุด นั่นคือพื้นที่ซึ่งแม้แต่คนที่แข็งแกร่งมากที่สุดยังประสบปัญหาที่จะไปเยือนมัน

ขณะที่เจี้ยนเฉินก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ ลูกศิษย์หญิงอายุ 16-17 ปีก็เดินผ่านประตูเข้ามา เด็กสาวคนนั้นเป็นคนที่น่ารักเป็นพิเศษและนางยังสวมเครื่องแบบของสำนัก ผมยาวและสวยงามของนางถูกเกล้าอย่างดี ผมหางม้าเล็ก ๆ ของนาง ทำให้ใบหน้าของนางจะดูดีและงดงามยิ่งขึ้น แต่ใบหน้าของนางหยิ่งมากทีเดียว เพียงมองครั้งเดียวก็บอกได้ว่านางมาจากตระกูลชั้นสูง

เด็กสาวคนนี้แท้จริงแล้วคือกาดิซิ่วหลีจากตระกูลกาดิ

กาดิ ซิ่วหลี เข้ามาในหอหนังสือและเดินไปที่ชั้นวางหนังสือ ขณะที่กำลังตั้งใจเดินเอาหนังสือในมือของนางกลับไปอ่านที่บริเวณอ่านหนังสือ นางเหลือบมองลูกศิษย์คนอื่น ๆ ที่กำลังอ่านหนังสือ แต่ช่วงเวลาที่ตาของนางกวาดมองไปยังบริเวณนั้น นางเห็นด้านหลังของเจี้ยนเฉินทำให้นางหยุดทันที นางยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความประหลาดใจ

กาดิ ซิ่วหลี เพ่งมองไปที่ด้านหลังของเจี้ยนเฉิน แววตาของนางสั่นไหวด้วยอารมณ์บางอย่าง เพียงแค่คิดถึง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นางถูกจับขาและถูกเหวี่ยงออกมาจากเวทีการประลองโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนาง ทำให้นางรู้สึกโกรธเป็นอย่างยิ่ง เหตุการณ์นี้เป็นความอัปยศอดสูที่ไม่น่าจดจำ ยิ่งนึกถึงเรื่องนี้ใบหน้าของนางก็เป็นสีแดงด้วยความโกรธ ก่อนที่นางจะทำเสียงขึ้นทางจมูก นางไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะอ่านหนังสือ นางโยนมันไว้ข้าง ๆ และประทับตราเดินออกจากหอหนังสือ ขณะเดียวกันก็กัดฟันพูดออกมาว่า เจียงหยาง เซียงเทียน แน่นอนว่าข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นในสักวัน!

แต่เจี้ยนเฉินไม่ได้สังเกตเห็นกาดิ ซิ่วหลี เลยสักนิด ตั้งแต่เขาทุ่มความสนใจทั้งหมดไปในการอ่านหนังสือ ซึ่งไม่มีใครจะกล้าก่อปัญหาในหอหนังสือ ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจ

หลังจากกาดิ ซิ่วหลี ออกจากหอหนังสือ นางก็ไปหาพี่รองของนางทันที กาดิเหลียงฝึกวิทยายุทธของเขาอยู่ตามลำพังในป่า

เห็นกาดิ ซิ่วหลีเดินเข้ามา กาดิเหลียงยุติการเคลื่อนไหวของเขาและหัวเราะ น้องสาม เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้ากำลังจะไปหอหนังสือหรอกหรือ ? ทำไมเจ้าถึงมาหาข้าที่นี่? ในใจของเขายังคงเต็มไปด้วยความรักอย่างสุดซึ้งต่อน้องสาวของเขา

กาดิ ซิ่วหลี เดินไปหาเขาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง พี่รอง ท่านไม่ได้บอกหรือว่าท่านจะช่วยข้าสอนบทเรียนให้กับเจียงหยางเซียงเทียน?

หลังจากที่ได้ยินชื่อเจียงหยางเซียงเทียน รอยยิ้มบนใบหน้าของกาดิเหลียงก็หายไปทันทีและใบหน้าของเขากลับกลายเป็นมืดครึ้ม เขาครุ่นคิดถึงการแข่งขันของลูกศิษย์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาและนับตั้งแต่ที่เขาพ่ายแพ้อย่างย่อยยับต่อลูกศิษย์ผู้มีพลังเซียนระดับแปด กาดิเหลียงจะไม่มีวันลืมความรู้สึกในวันนั้น ลูกเตะนั้นสร้างความอับอายขายหน้าให้กับเขาเป็นอย่างมาก

กาดิ ซิ่วหลีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง พี่รอง เจียงหยางเซียงเทียนอยู่ในหอหนังสือ ในวันนี้ พวกเราควรจะไปที่นั่น และสอนบทเรียนให้กับเขา !

ใช่ แน่นอน เวลานี้เราจะเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน! มากับข้า น้องสาม กาดิเหลียงเริ่มที่จะเดินทางไปหอหนังสือด้วยความมุ่งมั่น ไม่มีทางที่เขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ต่อเจี้ยนเฉินได้ เขาโทษการพ่ายแพ้อของเขาในวันก่อนว่ามันเกิดจากความประมาทของเขา เป็นเพราะเขาออมมือไว้ทำให้เขาได้พ่ายแพ้ให้กับเจี้ยนเฉิน และที่ยิ่งไปกว่านั้นกาดิเหลียงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ