เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 199

ตอนที่ 199: ทะลวงผ่านอีกครั้ง

พริบตาเจี้ยนเฉินก็อยู่ในหมู่บ้านหวางแห่งนี้มาเดือนหนึ่งแล้ว ในเวลาที่ผ่านมานี้ เจี้ยนเฉินไม่เคยออกมาจากห้องของเขาเลย เขาเลือกที่จะใช้เวลาทั้งวันในห้องเพื่อบ่มเพาะอย่างสงบ ทุก 2-3 วันหรือบางครั้งก็ทุก 4 วันเขาจะออกมาทานอาหารพร้อมกับครอบครัวรอสโก้ แต่นอกเหนือจากนี้ เขาจะอยู่แต่ในบ้านและหลังจากที่เขาทานอาหารเสร็จแล้วเขาก็ยังคงบ่มเพาะต่อไป โอกาสที่จะออกไปจากหมู่บ้านนั้นยิ่งยากยิ่งขึ้น

หลังจากที่ใช้เวลาครึ่งเดือนในการบ่มเพาะ พลังเซียนของเจี้ยนเฉินก็มีความแข็งแกร่งมากขึ้นจากการที่ใช้แกนอสูรไปมากมายและหมดไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เขายังคงมีแกนอสูรระดับ 3-4 อีกมากมายในเข็มขัดมิติที่เขาได้ฆ่าเซียนผู้เชี่ยวชาญหลังจากที่เขากลับไปที่เมืองฟินิกซ์ ด้วยแกนอสูรที่มากมาย เขาไม่ต้องกลัวว่าจะต้องออกไปหามันอีก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีแกนอสูรระดับ 5 อยู่ในแหวนมิติของเขา ซึ่งมันดีกว่าแกนอสูรระดับ 4 นับร้อยอันรวมกันเสียอีก เขาสามารถใช้พวกมันตัดผ่านไปเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ

ตอนนี้เจี้ยนเฉินอยู่ในขั้นสุดยอดของเซียนผู้เชี่ยวชาญแล้ว สิ่งเดียวที่ขวางไม่ให้เขายกระดับไปยังเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษคือม่านที่ขวางกั้นบาง ๆ

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ เจี้ยนเฉินไม่กล้าที่จะหยุดบ่มเพาะ เมื่อลืมตาจะเห็นได้ถึงความสงบอยู่ในสายตาของเขาและมีอารมณ์ที่เบาบางกระจายออกมา มันต้องใช้เวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนที่เขาจะทะลวงผ่าน มันเป็นความอับอายมากที่สิ่งอันตรายที่หลบซ่อนอยู่ในร่างกายของเขาขัดขวางการตัดผ่านของเขา ทันทีที่เขาตัดผ่านไปเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เขาจะกลับไปแก้แค้นตระกูลเทียนซ่งในเมืองเวคก็เป็นได้

สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เจี้ยนเฉินทำร่างกายให้สงบและนำแกนอสูรระดับ 4 กว่า 10 ชิ้น ออกมาจากเข็มขัดมิติและวางไว้ที่ตักของเขาเพื่อเริ่มการบ่มเพาะ

เพราะว่าเขาอยู่ในจุดวิกฤติก่อนที่เขาจะทะลวงผ่าน เขาต้องการพลังมากกว่านี้ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่มีเวลามากพอที่จะเอาแกนอสูรออกมาจากเข็มขัดมิติตลอดเวลา เพราะงั้นเขาจึงต้องเอามันออกมาพร้อมกันทีเดียว

เมื่อเตรียมการเสร็จสิ้น เจี้ยนเฉินก็ถือแกนอสูรระดับ 4 ไว้ในมือแต่ละข้างและเริ่มหลับตาทำสมาธิ

หลับตาและอีกวันก็ผ่านพ้นไปสำหรับเจี้ยนเฉิน บ่ายวันถัดมา รอสโก้และฮูหยินรวมทั้งลูก ๆ ของเขาก็มารวมตัวกันเพื่อทานอาหารกลางวัน

นี่เจี้ยนเฉินเอาแต่บ่มเพาะมากเกินไปแล้ว เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว เขายังออกมาทุก ๆ 3-4 วันหรือมากกว่านั้นเพื่อมาทานอาหาร ข้าไม่รู้ว่าเขาอดทนมันได้อย่างไร และมันก็ผ่านมา 4 วันแล้วที่เขาไม่ได้ออกมาจากห้องแม้แต่ก้าวเดียว ไอ๊หยา! ข้ากังวลว่าเขาจะฝึกหนักจนล้มป่วย ฟางฮุ่ยมองไปที่ประตูห้องเจี้ยนเฉินที่ปิดอยู่พร้อมกับใบหน้าที่แสดงความกังวลออกมา

รอสโก้หัวเราะกับคำพูดของนาง ฟางเอ๋อ เจ้าไม่เคยสัมผัสกับพลังเซียน แต่มันเป็นพลังที่เหลือเชื่อและลึกลับ เจี้ยนเฉินฝึกหนักกว่าข้าอย่างน้อย ๆ ก็ร้อยเท่า แต่เขาก็ยังไม่ได้ฝึกจนบาดเจ็บ สำหรับการไม่กินอาหารนั้นไม่จำเป็นต้องพูดเลย ในทวีปเทียนหยวนผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งจริง ๆ นั้นสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องกินอาหารอย่างน้อย 10 วันโดยไม่มีปัญหา ตัวข้าเองบางครั้งก็ไปไหนโดยไม่ต้องกินอะไรกับสหาย อย่างน้อย 5 วันและยังมีเรี่ยวแรงเหลือพอที่จะต่อสู้กับพวกโจรอีก

ฟางฮุ่งย่นจมูกด้วยความรังเกียจ เจ้าก็คือเจ้า และเจี้ยนเฉินก็คือเจี้ยนเฉิน อย่าลืมว่าตอนนั้นเจ้าอายุ 30 ปีเข้าไปแล้ว เจี้ยนเฉินเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัย 20 ปีที่มีร่างกายไม่ได้ก่ำยำล่ำสัน ร่างกายของเขาจะมาเทียบกับเจ้าในเวลานั้นได้อย่างไร ?

รอสโก้ถอนหายใจและกล่าวว่า ฟางเอ๋อ เจ้าไม่เคยเดินทางไปทั่วทวีป ดังนั้นเจ้าเลยไม่รู้ว่าพวกเขาทำงานกันอย่างไร ให้ข้าอธิบายกับเจ้าหน่อย ความแข็งแกร่งของผู้คนไม่ได้นับตามอายุ อาจจะมีคน 2-3 คนที่มีความสามารถ แต่ก็ไม่อาจควบกลั่นพลังเซียนให้มาเป็นอาวุธเซียนได้หลังจากผ่านมาทั้งชีวิต และคน 2-3 คนนั้นก็ยังเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ พวกเขามีแม้กระทั่งทรัพยากรแต่ก็ไม่อาจไปสูงได้มากกว่านี้

ยกตัวอย่างหมู่บ้านหวางของเรา หลังจากผ่านมา 100 ปี คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็เป็นแค่เซียนระดับสูงเท่านั้น สำนักหลายแห่งในทวีปเทียนหยวนมีมาตรฐานอยู่ที่เซียนระดับสูงเป็นอย่างน้อยหากจะจบการศึกษา มีคนหลายคนที่อายุไม่ถึง 30 ปีก็มีความแข็งแกร่งเท่ากับหัวหน้าหมู่บ้านของเรา

ฟางฮุ่ยพยักหน้าราวกับว่านางเข้าใจ แม้ว่าสิ่งที่เจ้าพูดถูก แต่ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินก็ไม่อาจบอกได้มากนัก เขายังเด็กเกินไป

ขณะที่รอสโก้กำลังจะเปิดปากอธิบายให้ฟางฮุ่ยอีกครั้ง ก็เกิดลมหมุนออกมาจากห้องของเจี้ยนเฉินทำให้ฝุ่นทรายบินไปทั่วทุกหนทุกแห่งรวมทั้งโต๊ะอาหาร

บัดซบ มีลมกรรโชกที่แรงอย่างนี้ได้อย่างไร ? รอสโก้ตะโกนก่อนที่จะเดินไปปิดประตู

ฮือออออ….ฮือออ…ท่านพ่อ ท่านแม่ มีผงเข้าตาข้า ข้ามองไม่เห็น ! รั่วจื่อเอามือปิดหน้า มีน้ำตาไหลออกมาพร้อมกับร้องไห้

ฟางฮุ่ยรับไปหารั่วจื่อทันทีและปลอบนางว่า เงียบ ไม่ต้องร้อง แม่มาแล้ว ให้แม่ช่วยเจ้าเอาผงออกจากตา ลืมตาขึ้นช้า ๆ

รอสโก้มองกลับไปที่โต๊ะซึ่งทุกจานตอนนี้เต็มไปด้วยฝุ่นอย่างสับสน ก่อนที่เขาจะพูดกับครอบครัวของเขาอย่างจริงจัง พวกเจ้าอยู่ที่นี่ก่อนข้าจะไปตรวจสอบดู ลมพายุนี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน สิ่งเหล่านี้มีลางว่าอาจจะเป็นอันตราย รอสโก้เดินไปเปิดและปิดประตูอย่างไวออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว

ด้านนอกลมพายุที่เกิดขึ้นอย่างกระทันทำให้ทุกที่เต็มไปด้วยฝุ่นที่บินไปทั่ว ลอยขึ้นไปบนฟ้าและบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้มันไม่อาจมีแสงส่องลงมาได้เว้นแต่ประกายจาง ๆ เสื้อผ้าบางส่วนที่แขวนไว้ด้านนอกต่างก็ลอยขึ้นไปบนอากาศและโบกไปมา แม้แต่กระเบื้องบนหลังคาก็ถูกยกขึ้นเล็กน้อยในขณะที่กระท่อมเก่า ๆ ถูกทำลายจากพายุ

เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้มีพายุอย่างกะทันหัน…

นี่มันเป็นเรื่องน่าแปลกจริง ๆ มันเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรงมาก…

จากที่ไกล ๆ ผู้ชายทุกคนในหมู่บ้านหวางต่างก็ออกมาจากบ้านและเต็มไปด้วยความสับสน

รอสโก้มองไปรอบ ๆ ก่อนที่สายตาของเขาจะมองไปยังห้องเล็ก ๆ ที่เจี้ยนเฉินอยู่ ดวงตาของเขาหรี่ลงเมื่อเขาตระหนักได้ว่าฝุ่นละอองที่ปลิวออกมานั้นออกมาจากห้องของเจี้ยนเฉิน

หลังจากที่เดินทางมาหลายปี รอสโก้สามารถที่จะรู้และสรุปได้อย่างรวดเร็ว ต้องขอบคุณประสบการณ์ของเขาในฐานะเซียนผู้เชี่ยวชาญ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง เขาเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะทำให้เกิดพายุขึ้น เป็น..เป็นไปได้หรือไม่ ? ลมพายุเหล่านี้เกิดจากการที่เจี้ยนเฉินบ่มเพาะ ความคิดนี้ทำให้หัวใจของรอสโก้ลังเล จริง ๆ แล้วเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเมื่อมองดูผลลัพธ์เหล่านี้ เมื่อ 10 ปีก่อนตอนที่เขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ เขาก็เคยมีประสบการณ์อย่างนี้แต่น้อยมาก เขาไม่อาจเชื่อได้เลยว่าเจี้ยนเฉินจะไปไกลกว่าเขาในเส้นทางสายนี้

ข้าต้องเข้าใจผิดเป็นแน่ที่คิดว่าเจ้าหนูนี่จะทะลวงเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ เขาอาจจะกลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษแล้วตอนนี้ รอสโก้คิด แม้ว่าเขาจะเป็นคนพิการ แต่ประสบการณ์มากพอที่จะเข้าใจสิ่งที่เจี้ยนเฉินเป็นอยู่ในตอนนี้

ดูนั่นทุกคน ลมมาจากทางทิศนั้น เสียงหัวหน้าหมู่บ้านตะโกนออกมาพร้อมกับชี้นิ้วออกไป

เมื่อได้ยินอย่างนั้นทุกคนก็มองไปตามทางที่นิ้วได้ชี้ออกไปก่อนที่จะตระหนักว่ามันคือบ้านของเจี้ยนเฉิน หัวหน้าหมู่บ้านพูดถูก มีลมออกมาจากทิศทางนั้น ! แค่มองดู มันเป็นฝุ่นมากมายกระจายออกมาจากที่นั่น

งั้นก็ไปเร็ว ๆ เลย !

ใช่แล้ว งั้นก็ไปดูกันว่ามันเกิดอะไร…

ท้ายที่สุดกลุ่มคนจำนวนหนึ่งก็มุ่งไปที่หน้าห้องของเจี้ยนเฉิน ทันทีที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รอสโก้ก็รีบเข้ามาขวางพวกเขาไว้ หัวหน้าหมู่บ้าน จะดีที่สุดที่เราจะไปที่อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนเจี้ยนเฉิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ