เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 2

ทันใดนั้นกระบี่ในมือของเจี้ยนเฉินเริ่มที่จะควบคุมตัวมันเอง มันเหมือนกับว่ากระบี่ยาวเล่มนี้มีชีวิตจิตใจของมันเอง กระบี่ได้พุ่งตรงไปยังต๊กโกวคิ้วป่ายราวกับสายฟ้าฟาด ด้วยความเร็วสูงมาก ๆ

ความเร็วของกระบี่นั้นน่าเหลือเชื่ออย่างมาก ตอนที่ต๊กโกวคิ้วป่ายตั้งรับนั้นกระบี่ก็ได้มาถึงลำคอของเขา กระบี่เล่มนี้มีปราณกระบี่ที่รุนแรงไม่ธรรมดานัก ต๊กโกวคิ้วป่ายตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวขณะที่กระบี่ได้เจาะทะลวงคอของเขา หลังจากสิ้นสุดการโจมตี หมอกได้ปรากฎขึ้นที่ด้ามจับของกระบี่ หมอกนั้นหมุนวนกลางอากาศชั่วครู่ ก่อนที่กระบี่จะกลับมาสู่มือของเจี้ยนเฉิน

หลุมขนาดเท่ากำปั้นปรากฏขึ้นช้า ๆ ตรงบริเวณกลางของลำคอของต๊กโกวคิ้วป่าย ปลายกระบี่ได้ขยายบาดแผลออกในขณะที่มันแทงผ่านคอต๊กโกวคิ้วป่าย บาดแผลได้ขยายตัวขึ้น ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่กระบี่เล่มบางจะสามารถสร้างบาดแผลใหญ่ขนาดนั้นได้

ดวงตาของต๊กโกวคิ้วป่ายเบิกกว้างขณะที่เขาจ้องมองกระบี่อย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่มองเห็น หลังจากนั้นมันได้เห็นการกระทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เขาได้ขยับปากอย่างช้า ๆ พยายามที่จะพูดบางอย่าง แต่โชคร้ายที่ลำคอของเขาได้ถูกแทงทะลุทำให้เขาพูดไม่ออก ด้วยการมองครั้งสุดท้ายอย่างไม่อยากเชื่อและสยอง เขาได้ทรุดลงบนพื้นและไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกเลย

เจี้ยนเฉินจับกระบี่ของเขาเงียบ ๆ ก่อนที่เขาจะมองไปยังศพของต๊กโกวคิ้วป่าย เสียงสำลักลมหายใจได้ออกมาจากปากของเขา มันเป็นลางร้าย เขาไม่คิดว่าในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เขาสามารถที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเทพกระบี่ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไร้ค่า ขณะที่ตัวของเขาเองใกล้จะจบสิ้นลง

เขาถอนหายใจออกมา ตาของเจี้ยนเฉินค่อย ๆ พร่ามัวลงเรื่อย ๆ แม้ว่าเขาได้ทะลวงได้เพิ่มขีดความสามารถแก่ร่างกายเขาแล้ว มันเป็นการยากที่จะหลีกหนีความตายพ้นได้ โดยเฉพาะเมื่ออวัยวะภายในถูกแทงเช่นนี้

หลังจากนั้นไม่นาน เจี้ยนเฉินได้ตกตายตามต๊กโกวคิ้วป่ายไปยังภพหน้า ร่างของเขาร่วงหล่นสู่พื้นและได้ตกลงสู่เหว

หลังจากที่เจี้ยนเฉินร่วงหล่นไป บริเวณที่เขาและต๊กโกคิ้วป่ายได้ร่วงไปนั้นเกิดการสั่นสะเทือนอย่างมาก มันเหมือนกับยอดเขาที่มีรูปร่างคล้ายกระบี่เกิดเสียงดังออกมา ได้สั่นสะเทือนถึงสวรรค์และได้แยกออกจากกัน ก้อนหินขนาดใหญ่และก้อนหินอื่น ๆ ได้ร่วงหล่นสู่เชิงเขา เกิดหิมะถล่มในทุกทิศทาง ท้องฟ้าได้เปลี่ยนเป็นสีม่วงและสีเขียว และสวรรค์กับปฐพีได้ส่องสว่าง สีต่าง ๆ สลับสับเปลี่ยนไปมาและผสมผสานกันจนกลายเป็นภาพที่งดงามยิ่ง มันน่าเสียดายที่เจี้ยนเฉินและต๊กโกวคิ้วป่ายต่างไม่รอดชีวิตที่จะได้เห็นมันภายหลังจากนี้……

ภายในคฤหาสน์ที่หรูหราและกว้างใหญ่ ภายในห้องได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ด้านนอกห้องกลุ่มคนได้รวมตัวกันอยู่ มีชายหนุ่มผู้เดินไปมาอย่างกระสับกระส่ายที่หน้าประตู ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขาดูอายุราวสักสามสิบปีและเขามีออร่าที่สูงส่ง แม้ว่าเขายังอายุไม่น้อย ผู้อื่นก็สามารถเห็นได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นชายหนุ่มรูปงามในอดีต เขาได้สวมชุดฉางเป่าเงินลายทองซึ่งทำให้เขาดูหล่อเหลายิ่งขึ้น และให้ความรู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าของคฤหาสน์ ใบหน้าของเขาดูเด็ดเดี่ยว แม้แต่คิ้วยังขมวดเข้าหากันจนแน่น

ห่างออกไป 3 เมตรจากห้อง กลุ่มคนสามสิบคนตั้งแต่หนุ่มยันแก่ ต่างยืนเรียงรายอย่างกระวนกระวาย ผู้ที่อาวุโสของกลุ่มนี้อยู่ในวัย 60-70 ปี ด้วยผมสีขาวและใบหน้าเหี่ยวย่น อย่างไรก็ตาม แม้อายุของเขาเป็นเช่นนี้ แต่ดวงตาของพวกเขานั้นสามารถทำให้ผู้คนสั่นไหวราวกับแสงจากพระเจ้าที่ซึ่งประหัตประหารผู้คน จำนวนผู้คนที่หวาดกลัวว่าจะโดนพวกเขาทำร้ายนั้นมากมาย ดังนั้นผู้คนจึงไม่สามารถที่จะปฏิบัติต่อเขาเหมือนคนแก่ที่อ่อนแอไปได้เสียทั้งหมด แต่ชายวัยกลางคนที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์ด้วยพละกำลังของพยัคฆ์และมังกรผสานกัน และคนของเขาอายุราว ๆ 30-40 ปี ดูภูมิฐานและดวงตาไม่ได้บอกถึงสิ่งใด ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว มันชัดเจนว่ากลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มของคนสามัญทั่วไป

และภายในห้องที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ได้ยินเสียงของหญิงสาวที่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นมา

“ฮูหยิน เบ่งต่อไปเจ้าค่ะ ทารกกำลังจะออกมาแล้ว ข้าขอย้ำอีกครั้งว่า ทารกกำลังจะออกมาแล้วเจ้าค่ะ…” หญิงสูงวัยกล่าวด้วยน้ำเสียงซึ่งเต็มไปด้วยความร้อนใจ ผู้ที่ได้ยินเสียงนี้สามารถบอกได้ว่าเจ้าของเสียงเป็นหญิงสูงวัย

ภายนอกห้อง ชายวัยกลางคนผู้ที่กำลังเดินไปมาด้วยความวิตกกังวลได้ตัวแข็งทื่อ และพูดอย่างเร่งรีบว่า “ไฮ้!…..นี่ผ่านมาทั้งวันทั้งคืนแล้ว หยุนเอ๋อร์ยังไม่คลอดอีกหรือ หากยืดเยื้อมากกว่านี้ ข้ากลัวว่าหยุนเอ๋อร์อาจจะประสบปัญหาก็ได้” แม้กระทั่งเสียงของชายผู้นี้ยังเต็มไปด้วยความกังวลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

“นายท่าน อย่าได้เป็นกังวลมากนัก ฮูหยินจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน ท่านลืมแล้วหรือว่าฮูหยินเป็นถึงเซียนผู้เชี่ยวชาญแสง” ผู้อาวุโสผมขาวพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ แต่ใบหน้าของเขายังไม่อาจซ่อนความเป็นกังวลไว้ได้

“เอ๊ะ…” เจ้าของคฤหาสน์ในชุดฉางเป่าเริ่มถอนหายใจออกมาอีกคราซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความกังวลและกระวนกระวายบนใบหน้าไม่ได้ลดลงไปแม้แต่น้อย

ในที่สุด หลังจากที่หลาย ๆ คนได้รออยู่ข้างนอกกว่าหนึ่งชั่วยาม เสียงตื่นเต้นได้ออกมาจากภายในห้อง “นายท่าน นายท่าน! ฮูหยินหยุนเอ๋อร์คลอดแล้ว! นางคลอดบุตรอย่างปลอดภัย! และยังเป็นถึงทารกเพศชาย !” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดังก้องไปทั่วบ้าน

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายวัยกลางคนที่กำลังรอด้วยท่าทีกังวลได้กลายเป็นอ้าปากค้าง ความวิตกกังวลบนใบหน้าของเขาได้ถูกแทนที่ด้วยความปิติยินดี เขาเดินมาอย่างเป็นสุข เขาไม่รู้จะพูดคำใดออกมาในตอนนี้ และเขาเปิดประตูอย่างรวดเร็วราวกับว่าไม่มีประตูอยู่แต่แรก ความเร็วของเขานั้นไม่น่าเชื่อ ไม่มีชายคนใดที่จะสามารถดึงประตูได้เร็วเท่าที่เขาได้กระทำลงไป

ชายวัยกลางคนได้มาอยู่ข้างเตียงในชั่วอึดใจและนั่งลงข้าง ๆ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงสตรีที่นอนอยู่บนเตียง “หยุนเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง? เจ้าทำได้ดีมาก” แม้ว่าเขาจะตื่นเต้นแต่น้ำเสียงของเขายังคงอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความกังวล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ