เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 294

ตอนที่ 294: มดสังหารเทพ

หลังจากนั้น หมิงตงก็อยู่ที่เทวสถาน และแม้ว่าหมิงตงจะอ้อนวอน เจี้ยนเฉินก็ปฏิเสธที่จะอยู่ต่อ ผู้เฒ่าทั้งสองพาเจี้ยนเฉินไปส่งที่ประตูมิติและเขาก็กลับออกมายังเทือกเขาที่เต็มไปด้วยหมอกพิษ

หลังจากที่จัดแจงกับตัวเองแล้ว เจี้ยนเฉินก็เดินออกไปจากหุบเขา ในตอนที่เขากำลังจะออกจากบริเวณนั้น เจี้ยนเฉินก็ลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะกลับไปที่หุบเขาเพื่อตั้งกระโจมในจุดที่เปลี่ยว ๆ เขาเปลี่ยนแผนเพื่อที่จะฝึกฝนอย่างสงบสักพัก

หุบเขามีสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างดี มันสวยงามและเงียบสงบ นอกเหนือไปจากพวกผีเสื้อที่บินไปมาระหว่างดอกไม้แล้ว ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกเลย พื้นที่อื่นรอบรอบหุบเขา หมอกพิษก็กระจายไปบนท้องฟ้าและย้อมให้ทั่วทั่วไปสีชมพู เมื่อมีหมอกสีชมพูล้อมหุบเขาอยู่ ทำให้ไม่มีใครเข้ามาที่หุบเขานี้ มันเหมือนว่าหมอกพิษนี้กำลังปกป้องหุบเขาเอาไว้

พิษนี้รุนแรงมากและไม่มีผู้เข้าแข่งขันคนไหนที่จะเข้ามาในหุบเขานี้ได้ นอกเหนือไปจากนั้น ที่นี่ยังมีประตูมิติที่นำไปหาเทวสถานนั้นได้ ใครก็ตามที่ต้องการที่จะไปที่เทวสถาน จำเป็นที่จะต้องได้รับอนุญาตจากนายท่านของเทวสถานก่อน ดังนั้น เจี้ยนเฉินจึงรู้สึกผ่อนคลาย ไม่มีใครจะมารบกวนเขาได้ในขณะที่เขาฝึกฝน ดังนั้นเขาจึงเริ่มทำสมาธิลึกเพื่อที่จะฝึกฝน

ภายในปราณของเจี้ยนเฉิน จิตวิญญาณกระบี่ก็กำลังโคจรอยู่รอบ ๆ หินหลากสี พลังงานแปลก ๆ ก็เปล่งรัศมีออกมาจากหินอย่างต่อเนื่องและผสมกลมกลืนเข้ากับจิตวิญญาณกระบี่ พวกมันโตขึ้นทุกวินาทีในขณะที่พวกมันดูดซับแสงเข้าไป กระบวนการนี้ยาวนานมาก และถ้าไม่สังเกตดีดีก็จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง

ภายในภูเขา เจี้ยนเฉินใช้เวลาเกือบ 10 เดือนในการฝึกฝน ในระหว่างสองสามเดือนที่นั้น เจี้ยนเฉินได้ใช้เวลาฝึกฝนอยู่ในกระโจมของเขาและฝึกเพลงกระบี่ของเขาท่ามกลางหมู่ดอกไม้ ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้เพิ่มไปอย่างก้าวกระโดดมาก ในขณะที่เขาสามารถใช้พลังเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมันเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาไปได้หลายเท่า

เวลาของการแข่งขันรอบแรกกำลังจะจบลงในเวลาไม่ถึงสองเดือน เจี้ยนเฉินได้ฝึกฝนในขณะที่รอให้หมิงตงกลับมา แต่ตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้วที่เขาจะรอได้ เขาต้องใช้เวลาที่เหลือในการเก็บสะสมป้าย

เจี้ยนเฉินมาถึงที่ประตูมิติและมองไปที่ริ้วแสงลึกลับบนพื้นก่อนที่จะถอนหายใจยาวออกมา หลังจากที่เก็บสิ่งของของเขาหมดแล้ว เขาก็ออกจากหุบเขาไป

เจี้ยนเฉินใช้เวลาทั้งวันในการสังเกตดูรูปแบบริ้วแสงของประตูมิติ แต่เพราะว่ามันเป็นรูปแบบที่ลึกลับมาก เขาจึงยอมแพ้ มันเป็นการออกแบบที่ซับซ้อนและดูเหมือนเป็นความลึกลับของธรรมชาติ มันเหมือนว่าริ้วแสงแต่ละเส้นกำลังดึงกฎของธรรมชาติอยู่ซึ่งเป็นสิ่งลึกลับที่เจี้ยนเฉินไม่เข้าใจ

หลังจากที่ออกจากหุบเขาเล็ก ๆ ไปแล้ว เจี้ยนเฉินก็เดินทางผ่านหมอกพิษไปเพื่อกลับตามทางไปยังจุดแรกที่เขาและหมิงตงได้เข้ามา

เนื่องจากมีหมอกพิษ ภูเขาจึงค่อนข้างแห้งแล้งและมีพืชอยู่ไม่เท่าไรเท่านั้น นานนานทีเจี้ยนเฉินจะไปพบกับพืชพิษเข้า แต่มันก็หาได้ยากมาก

ในขณะที่เขาเดินไปตามเทือกเขามา 1 ชั่วยาม เสียงกรอบแกร๊บหลายเสียงก็ดังมาแต่ไกลไกล

หลังจากที่ได้ยินเสียง เจี้ยนเฉินก็หยุดเคลื่อนไหวและหันไปทางต้นเสียงทันทีด้วยสายตาที่เคร่งเครียด เนื่องจากหมอกที่หนา เขาจึงเห็นได้ไกลไม่เกิน 100 เมตรเท่านั้น

เจี้ยนเฉินเห็นเงาดำที่อยู่ในสายตาของเขาอย่างรวดเร็ว เงานั้นเหมือนคลื่นพร้อมทั้งมีเงาเคลื่อนที่อยู่ในคลื่นนั้น

เจี้ยนเฉินมองไปที่ร่างดำแล้วใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป มีมดตัวหนึ่งขนาดเท่าหัวแม่มือ และในอากาศยังมีมดที่มีปีกหลายตัวขนาดเท่ากำปั้นกำลังบินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“พวกนั้นคือมดสังหารเทพ ! ” เจี้ยนเฉินตะกนออกมาก่อนที่จะวิ่งหนีไปอย่างไม่ลังเล

มดสังหารเทพเป็นที่รู้จักกันดีภายในทวีปเทียนหยวน พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่แปลกซึ่งไม่ใช่สัตว์อสูรซะทีเดียว มดสังหารเทพเพียงตัวเดียวนั้นไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไรนัก แต่ตอนที่พวกมันรวมกลุ่มกัน แม้แต่เซียนสวรรค์ที่ถูกพวกมันล้อมยังต้องตาย ดังนั้น ถ้าเซียนปฐพีเหมือนเจี้ยนเฉินเจอมดล้อมเขา เขาคงไม่มีโอกาสรอดชีวิตแน่

มดสังหารเทพเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพิษมากและต้านทานพิษหลายแบบ มีพิษไม่กี่อย่างที่สามารถทำอันตรายให้กับมันได้ และผิวหนังของพวกมันยังหนามากและแข็งเหมือนเหล็กกล้า คนที่อ่อนแอจะไม่สามารถฆ่าพวกมันได้แม้แต่ตัวเดียว นอกเหนือไปจากนั้น มดสังหารเทพพวกนี้ยังสามารถกลืนกินพลังเซียนได้อีก ดังนั้น การใช้พลังเซียนเพื่อที่จะปกป้องตัวเองก็ไม่เป็นผลกับมดพวกนี้

เจี้ยนเฉินจำหนังสือที่อ่านเกี่ยวกับพวกมันได้ แต่ละเล่มเห็นพ้องกันว่า ทางที่ดีที่สุดที่จะรับมือกับพวกมันก็คือการหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พิษของมดสังหารเทพมีผลทำให้ชามาก ในตอนที่ถูกมันกัด พิษจะหมุนเวียนไปทั่วร่างและทำให้รู้สึกอ่อนแอ คนที่ถูกกัดจะไม่สามารถหนีได้และทำได้แค่รอให้มดสังหารเทพสวาปามร่างของคนที่ถูกกัดจนกระทั่งไม่เหลือแม้กระทั่งกระดูก

หากถูกกัด โอกาสที่จะรอดชีวิตนั้นไม่มีเลย เว้นเสียแต่จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น

เจี้ยนเฉินบินออกไปจากเทือกเขาเร็วราวกับมีไฟไล่หลังมา เขาไม่อยากจะสู้กับมดสังหารเทพหลายพันตัวนั้น

ที่ด้านหลัง ฝูงมดสังหารเทพได้รู้ถึงตัวตนของเจี้ยนเฉินแล้วและเริ่มที่จะไล่ตาม ทั้งฝูงพุ่งเข้ามาทางเข้าด้วยท่าทางที่คนที่ได้ยินยังต้องขนหัวลุก ในอากาศมดมีปีกขนาดเท่ากำปั้นเคลื่อนที่มาได้เร็วกว่าตอนที่อยู่บนดิน พวกมันไล่ตามเจี้ยนเฉินมาด้วยความเร็วที่เร็วกว่าที่เจี้ยนเฉินเคลื่อนที่มาก

เจี้ยนเฉินเร่งความเร็วมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้แล้ว การที่ต้องบินผ่านเทือกเขานั้น เขาได้พยายามที่จะเร่งความเร็วขึ้น แต่แม้ว่าเขาจะมีความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อได้เป็นเซียนปฐพี สภาพสูงชันของภูเขาที่เจี้ยนเฉินไม่คุ้นเคยที่จะทำให้เขาเพิ่มความเร็วได้ ซึ่งไม่มีทางที่เขาจะเร็วไปกว่าฝูงมดที่บินมาทางเขาเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ