เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 463

ตอนที่ 463: ข่ายอาคมพรางตา(2)

เจี้ยนเฉินรีบข้ามเขตแดนระหว่างอาณาจักรไปและสุดท้ายเขาก็มาถึงภูเขาที่สวยงามในวันที่สามของการเดินทาง เทือกเขาขนาดใหญ่นี้กว้างใหญ่ไพศาลและยอดเขาก็ทะลุเมฆถึงครึ่งเขา

เทือกเขาแห่งนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คิด มีพลังงานจากโลกมากมายประมาณ 2-3 เท่าจากปกติ แม้จะไม่มีแกนอสูรมันก็ยังเป็นสถานที่ดีในการบ่มเพาะ ในสถานที่นี้สามารถบ่มเพาะเร็วขึ้นเป็น 2 เท่าด้วยความพยายามเพียงกึ่งเดียว

เจี้ยนเฉินลอยขึ้นไปบนภูเขาหลายร้อยเมตรก่อนที่จะมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง บางครั้งเขาก็นำแผนที่ขึ้นมาเทียบ ขณะที่เขาหาทางเข้าของถ้ำ

หลายนาทีต่อมาเจี้ยนเฉินก็ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง แม้ว่าแผนที่จะระบุว่าถ้ำของเซียนผู้คุมกฏจะอยู่ในเทือกเขานี้ แต่ก็ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรและไม่อาจระบุที่ตั้งของถ้ำได้

เจี้ยนเฉินมองไปยังถื้นที่เหล่านั้นอีกครั้งและจดจ่ออยู่ในใจ เขาวางแผนที่จะใช้องค์ประกอบลมห่อหุ้มร่างของเขาทำให้เขาบินอยู่บนอากาศได้ ในเวลาเดียวกันเขาก็เปล่งสัมผัสของเขาออกมา มันครอบคุมโดยมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 กิโลเมตรตามมาด้วยความละเอียดละออที่จะพยายามค้นหาทางเข้าหรือเบาะแสร่องรอยใด ๆ ก็ตามที่มุ่งหน้าไปยังถ้ำลับ

ไม่นานเจี้ยนเฉินก็สังเกตถึงความลึกใจภูเขา จู่ ๆ เขาก็ได้สังเกตเห็นว่ามีบ้านไม้แปลก ๆ นับร้อยกระจายอยู่รอบ ๆ และมีหอคอยสูง 15 เมตรตั้งอยู่ตรงกลาง ที่ด้านบนสุดของหอคอยเขียนอักษรอยู่สามคำ – อารามจิตพิสุทธิ์ !

ภายในเทือกเขายังมีสำนักลึกลับอยู่อีก ? เจี้ยนเฉินสงสัยอย่างมากและเริ่มบินไปยังอาคารต่าง ๆ

เช่นเดียวกันที่เจี้ยนเฉินเข้ามาใกล้อารามจิตพิสุทธิ์ก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าดังมาตามอากาศ แขกมาจากแดนไกล ช่างน่ายินดีนัก ! สาวกทั้งหลายให้การต้อนรับเขา

ทันทีที่เขาพูดประตูบ้านก็พลันเปิดออกมาพร้อมกับมีคนที่สวมใส่เสื้อผ้าทุกประเภท ทั้งชายและหญิงต่างก็มีอายุและมีรอยยิ้มประดับดาอยู่บนใบหน้าของพวกเขาและมีกลิ่นอายที่มีชีวิตชีวาอยู่รอบ ๆ ตัวของพวกเขา

ในเวลาเดียวกันผู้เฒ่าชุดขาวก็บินออกมาจากหอคอย ผู้เฒ่าที่ถักเปียยาวข้างหนึ่งและดูเป็นผู้วิเศษยืนอยู่บนอากาศที่ให้บรรยากาศว่าเขาเป็นตัวตนของผู้บ่มเพาะที่เป็นอมตะ

เจี้ยนเฉินลอยอยู่ห่างจากฝูงชน 500 เมตรพร้อมกับใบหน้าที่สงสัยราวกับว่าเขาพยายามคิดว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อไป การปรากฏตัวของเขาได้แพร่ไปยังผู้คนมากมายของอารามจิตพิสุทธิ์และการปรากฏตัวของเขา พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาได้อย่างไม่ผิดพลาด

มีคนไม่มากนักในสำนักนี้ ประมาณ 60 คน นอกจากผู้เฒ่าที่มีผมยาวแล้ว ยังมีเซียนสวรรค์อีกคนหนึ่งที่ปะปนอยู่ในฝูงชน ขณะที่เหลือกว่าครึ่งเป็นเซียนปฐพีและที่เหลือก็เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษหรือต่ำกว่า

นักเดินทาง ถ้าเจ้าผ่านทางมา เชิญมาพูดคุยกับพวกเรา อารามจิตพิสุทธิ์ ซักครู่ เซียนสวรรค์ที่ลอยอยู่ด้านหน้าพูดทั้งรอยยิ้ม

เจี้ยนเฉินหัวเราะและพูด เราไม่รู้จักกันเลย ท่านยังไม่รู้ว่าข้าเป็นคนดีหรือคนชั่ว แต่ท่านยังเชิญข้าหลังจากที่ข้ากับท่านพึ่งเจอกันครั้งแรก ท่านจะให้ข้าเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ ?

ผู้เฒ่าหัวเราะก่อนที่จะใช้มือลูบเครา อารามจิตพิสุทธิ์ อ่าาา อารามจิตพิสุทธิ์ ชื่อนี้หมายความว่าพวกเรามีหัวใจที่บริสุทธิ์โดยไม่มีแม้กระทั่งความปรารถนาใด ๆ ด้วยเหตุนี้อารามจิตพิสุทธิ์ของเราจึงไม่ได้ไร้ความปราณีและเราก็ไม่ปรารถนาสิ่งของต่าง ๆ เหมือนกับสำนักอื่น ๆ สาวกของเราบ่มเพาะอย่างเก็บตัว เราเลยไม่มีศัตรู สหายเอ๋ย เจ้าคิดมากไปแล้ว

เมื่อได้ยินอย่างนี้การแสดงของเจี้ยนเฉินก็พลันกลายเป็นความสงสัยที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา เขาเดินทางในทวีปเทียนหยวนมานานแล้วและได้พบกับคนทุกประเภท แต่คนที่ใจดีอย่างบริสุทธิ์ใจและมีความต้องการเล็กน้อยอย่างนี้ เขาพูดได้อย่างมั่นใจได้เลยว่าเขาไม่เคยพบใครที่เป็นแบบนี้มาก่อน

หากเป็นอย่างนั้น เพื่อไม่ทำให้พวกท่านลำบากใจข้าจะรับคำเชิญ เจี้ยนเฉินตกลงขณะที่ป้องหมัดก่อนที่จะตามพวกเขาเข้าไปในอาราม

ภายใต้ความคิดทั่ว ๆ ไปของเจี้ยนเฉินนั้น พื้นที่ของอารามจิตพิสุทธิ์นี้ไม่มีส่วนใหนเป็นความลับเลย อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกประหลาดใจคือผู้เฒ่าคนนี้พูดจาด้วยความสัตย์ซื่ออย่างแท้จริงและอารามของพวกเขาก็ข้นแค้นอย่างยิ่ง ยกตัวอย่างคือเขาไม่เห็นสาวกคนใดมีเข็มขัดมิติหรือแหวนมิติพวกนี้เลย ไม่มีแกนอสูร ไม่มีอาหารแปลก ๆ หรือไข่มุกส่องแสง หรือแม้แต่หินล้ำค่า แม้กระทั่งสิ่งที่เป็นพื้นฐานการดำรงชีพอย่างข้าวก็ไม่อาจมีให้เห็นได้

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพูดถึงสาวกของนิกาย เจี้ยนเฉินก็เห็นว่าพวกเขาล้วนบริสุทธิ์มาก พวกเขาไม่มีความต้องการใด ๆ แต่ละคนมีกลิ่นอายละทางโลก

เมื่อรู้อย่างนี้เจี้ยนเฉินแทบจะไม่เชื่อสายตาของเขา ความรู้สึกนี้เหมือนกับว่าเขาอยู่ในต่างโลก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ