หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 15

“ใช่แล้ว คุณลุง ที่นี่พวกคุณนั่งไม่ได้นะครับ!” สวี่ฉังหย่วนกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“เพราะอะไร” สวี่เจี้ยนกงกล่าว

สวี่ฉังหย่วน “ตรงนี้เป็นที่นั่งสำหรับกลุ่มพนักงานดีเด่น ถ้าพวกคุณนั่งตรงนี้ พนักงานเหล่านี้ก็จะไม่มีที่นั่งน่ะสิ!”

“งั้น...งั้นพวกเราไปนั่งที่ด้านหน้าก็ได้...” สวี่เจี้ยนกงกล่าว

สวี่ฉังหย่วนกล่าว “พวกคุณอย่าเข้าใกล้คุณปู่เลยจะดีกว่า คุณปู่จะได้ไม่ต้องโมโห”

สวี่เจี้ยนกงรีบกล่าว “แล้วจะให้พวกเรานั่งที่ไหน”

“โน่นไง ตรงนั้น!” สวี่ฉังหย่วนชี้ไปยังทางออก ตรงนั้นมีโต๊ะที่ดูซอมซออยู่ตัวหนึ่ง

โต๊ะตัวนี้เป็นโต๊ะที่เตรียมไว้ให้กับเหล่าคนงานที่ทำงานที่นี่

สวี่เจี้ยนกงตกตะลึง ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นญาติพี่น้องสายตรงของตระกูลสวี่ พวกเขาต้องไปนั่งร่วมโต๊ะกับคนงานเหล่านั้นจริงๆ เหรอ พวกเขาสู้พนักงานของบริษัทไม่ได้เลยงั้นเหรอ

“นี่...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...”ฟังฮุ่ยร้องไห้ออกมาเพราะปกปิดความรู้สึกเอาไว้ไม่ไหว

ในขณะนั้นเอง คุณปู่สวี่หย่งฉิ้งก็เดินเข้ามา

“เจี้ยนกง พวกแกมาแล้วเหรอ!” น้ำเสียงของสวี่หย่งฉิ้งดูเย็นชา

“พ่อ!” สวี่เจี้ยนกงกับฟังฮุ่ยรีบยืนขึ้นทันที น้ำเสียงของเขาตื่นตระหนก แถมยังดูตื่นเต้น

หลายปีมานี้ สวี่หย่งฉิ้งไม่สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามาพูดคุยกับพวกเขาด้วยตัวเอง

สวี่หย่งฉิ้งพยักหน้า “ในเมื่อมาแล้ว ก็ไปนั่งด้วยกันเถอะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับพวกแกนิดหน่อย!”

สวี่เจี้ยนกงกับฟังฮุ่ยมองตากันครู่หนึ่ง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คุณปู่จะมอบหมายงานสำคัญให้กับพวกเขาแล้วใช่ไหม

พวกเขาตามคุณปู่ไปยังที่นั่งหลัก ตรงนี้มีคนนั่งอยู่หลายคน

ในนั้นมีชายอ้วนพุงพลุ้ยที่หน้าตาอัปลักษณ์อยู่คนหนึ่ง เมื่อชายคนนั้นเห็นสวี่ปั้นซย่า สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความลามก

สีหน้าของสวี่ปั้นซย่าเปลี่ยนไป เธอหยุดฝีเท้าลงและเกือบจะหันหลังเดินจากไป

เมื่อสวี่หย่งฉิ้งเดินมาถึงชายอ้วนพุงพลุ้ย เขาก็นั่งลงทันที จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจี้ยนกง ฉันจะแนะนำให้แกรู้จักสักหน่อย คนนี้คือผู้จัดการจ้าวแห่งเซิ่งหยวนกรุ๊ป เขาเป็นผู้ดูแลการจัดซื้อของเซิ่งหยวนกรุ๊ป”

ดวงตาของสวี่เจี้ยนกงกับฟังฮุ่ยเป็นประกายวิบวับ เซิ่งหยวนกรุ๊ปเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ขนาดใหญ่ของเมืองก่วงหยาง

บริษัทของตระกูลสวี่ต้องการร่วมงานกับเซิ่งหยวนกรุ๊ป หรือพูดอีกอย่างว่า ผู้จัดการจ้าวนี้ สามารถควบคุมชะตากรรมของบริษัทตระกูลสวี่ได้นั่นเอง!

“ผู้จัดการจ้าว สวัสดีครับ สวัสดี!” สวี่เจี้ยนกงทักทายอย่างสุภาพ

“ครับ!” ผู้จัดการจ้าวกำลังสูบซิการ์ ใบหน้าของเขาหยิ่งยโส สายตาของเขาจับจ้องมาที่สวี่ปั้นซย่า

“การร่วมงานกับเซิ่งหยวนกรุ๊ปในครั้งนี้ มีอัตราความก้าวหน้าที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่” น้ำเสียงของสวี่หย่งฉิ้งท้อแท้เล็กน้อย “โครงการนี้มีมูลค่าถึงห้าสิบล้าน ปั้นซย่าเป็นคนดูแลมาโดยตลอด แต่ผู้จัดการจ้าวบอกว่า ปั้นซย่าไม่ค่อยใส่ใจโครงการนี้สักเท่าไหร่ มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ”

สวี่เจี้ยนกงรีบมองไปยังสวี่ปั้นซย่า สวี่ปั้นซย่ากัดฟันแน่นขนัด ใบหน้ากลายเป็นสีแดงก่ำ จากนั้นเธอก็ก้มหน้าและเงียบขรึม

“มันเกิดอะไรขึ้น” สวี่เจี้ยนกงกล่าว

สวี่ปั้นซย่ากล่าวเบาๆ “เขา...เขาให้หนูไปเที่ยวพักผ่อนกับเขา...”

แสงเย็นวาบผ่านเข้ามาในดวงตาของหลินมั่วทันที ผู้จัดการจ้าวคนนี้ สมควรตายจริงๆ!

สวี่เจี้ยนกงตะลึงงัน พวกเขาล้วนเป็นผู้ใหญ่ จึงเข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งที่เธอพูดหมายความว่าอะไร

“คุณสวี่ ผมคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ ผมให้คุณไปทำงานที่ต่างจังหวัดกับผมต่างหาก!”

ผู้จัดการจ้าวกล่าวอย่างช้าๆ “โครงการนี้มีความสำคัญมาก ปีนี้มีมูลค่าห้าสิบล้าน ในปีต่อๆ ไปก็มีมูลค่าอย่างน้อยสามสิบล้าน ถ้าหากร่วมงานกันสำเร็จ ก็จะได้ทำงานร่วมกันอย่างน้อยห้าปี มูลค่าเกือบสองร้อยล้านเชียวนะ ผมต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษอยู่แล้ว”

“ผมเป็นคนรับผิดชอบการจัดซื้อของเซิ่งหยวนกรุ๊ป ถึงอย่างไรก็ต้องรับผิดชอบต่อเซิ่งหยวนกรุ๊ป ผมต้องเห็นวัสดุและการผลิตสินค้าของพวกคุณด้วยตาของตัวเองก่อน ผมถึงจะตัดสินใจได้ แบบนี้ไม่ถูกต้องหรือครับ”

ใบหน้าของสวี่ปั้นซย่าแดงก่ำ เธอกล่าวเบาๆ “ถ้าอย่างนั้น...ฉันส่งคนที่บริษัทไปสำรวจกับคุณก็ได้ แต่คุณ...คุณไม่เห็นด้วยเอง...”

“คุณสวี่ ถ้าคุณทำแบบนี้ก็แปลว่าคุณไม่บริสุทธ์ใจน่ะสิ!” ผู้จัดการจ้าวกล่าวอย่างเยือกเย็น “ผมออกหน้าด้วยตัวเอง แต่คุณกลับส่งพวกลูกกระจ๊อกไปสำรวจเป็นเพื่อนผมงั้นเหรอ นี่คุณดูถูกผมหรือว่าดูถูกเซิ่งหยวนกรุ๊ปของพวกเรากันแน่”

จู่ๆ สวี่ปั้นซย่าก็พูดไม่ออก สวี่หย่งฉิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ปั้นซย่า ผู้จัดการจ้าวพูดถูก โครงการใหญ่ขนาดนี้ ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในฐานะที่แกเป็นผู้ดูแลโครงการ แกต้องเข้าหาผู้จัดการจ้าวด้วยตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่แกควรทำ!”

“คุณปู่คะ หนู...หนูไปกับเขาไม่ได้...”สวี่ปั้นซย่ารีบกล่าว “เขา...เขา...”

“ทำไมถึงจะไปไม่ได้!” สวี่เจี้ยนผิงเดินเข้ามา พลันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “ปั้นซย่า แกต้องรับผิดชอบโครงการของบริษัท แกจะทำแบบนี้เพื่อบริษัทอย่างนั้นเหรอ ปฏิบัติต่อลูกค้าด้วยท่าทีแบบนี้ แกจะทำให้ลูกค้าเชื่อใจแกได้ยังไง”

สวี่ปั้นซย่ารีบกล่าว “แต่ว่าเขา...เขามีเจตนาที่ไม่ดี...”

“หุบปาก!” สวี่ฉังหย่วนเดินเข้ามา จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่โกรธเคือง “สวี่ปั้นซย่า พี่กล้าพูดกับผู้จัดการจ้าวแบบนี้ได้ยังไง พี่คิดว่าคุณปู่ใจกว้างกับครอบครัวพี่มากใช่ไหม พี่ถึงได้กล้าดีขนาดนี้”

“อ้าว ประธานสวี่ คุณทำแบบนี้ทำไม” ทันใดนั้นผู้จัดการจ้าวก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณสวี่เธอยังเด็ก มีอารมณ์โกรธเล็กน้อยถือว่าปกติ เอาอย่างนี้ดีไหม ผมมีห้องส่วนตัวที่นี่ ค่อนข้างเงียบสงบ คุณสวี่ พวกเราสองคนไปคุยเรื่องร่วมงานกันที่นั่นเป็นไง”

สีหน้าของสวี่ปั้นซย่าเปลี่ยนไป ผู้จัดการจ้าวทำเกินไปหรือเปล่า ชวนเธอเข้าห้องต่อหน้าทุกคนเนี่ยนะ

แต่ทว่า สวี่หย่งฉิ้งกลับไม่โกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย แถมเขายังพยักหน้าทันที “ผู้จัดการจ้าว คุณเป็นคนที่มีเมตตาจริงๆ แถมยังใจกว้างกับคนหนุ่มสาวอีกด้วย ปั้นซย่า ยังไม่รีบขอบคุณผู้จัดการจ้าวอีก แล้วก็อย่าลืมมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้จัดการจ้าวด้วยล่ะ แกต้องเจรจาโครงการนี้ให้สำเร็จ!”

“คุณปู่...” สวี่ปั้นซย่าร้อนใจ นี่เป็นการผลักเธอเข้าขุมนรกไม่ใช่หรือไง

“พอได้แล้ว คุณปู่พูดขนาดนี้แล้ว พี่ก็ไปเถอะ” สวี่ฉังหย่วนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่ครับ สู้ๆ นะ โครงการของบริษัทขึ้นอยู่กับครั้งนี้ของพี่แล้ว”

ถ้าหากโครงการนี้เจรจาได้สำเร็จ ทรัพย์สมบัติของตระกูลสวี่ต้องเพิ่มเป็นสองเท่าอย่างแน่นอน ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าผู้จัดการจ้าวหมายถึงอะไร แต่พวกเขากลับไม่โกรธเคืองเลยสักนิด

การเสียสละของสวี่ปั้นซย่าหมายถึงอะไรในสายตาของพวกเขา? การเสียสละของสวี่ปั้นซย่า สามารถแลกกับโครงการที่มีมูลค่าเกือยสองร้อยล้านได้ มันคุ้มมากเลยนะ!

“คุณสวี่ ไปกันเถอะ!” ผู้จัดการจ้าวหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์

ใบหน้าของสวี่ปั้นซย่ากลายเป็นสีแดงก่ำ เธอกล่าวด้วยความโมโห “ฉันไม่ไป!”

“ไม่ไป!” ใบหน้าของผู้จัดการจ้าวเย็นเฉียบในทันที “พูดแบบนี้ แปลว่าคุณสวี่ไม่ค่อยสนใจร่วมงานกับพวกเราสินะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็จะไม่คุยอีกต่อไป!”

ผู้จัดการจ้าวลุกขึ้นเพื่อจะกลับไป แต่สวี่หย่งฉิ้งรีบดึงเขาไว้ “ประธานจ้าว อย่าโกรธเลย คุณยกโทษให้เธอเถอะ เดี๋ยวผมจะเกลี้ยกล่อมเธอเอง!”

“ปั้นซย่า แกทำอะไรน่ะ” สวี่หย่งฉิ้งจ้องสวี่ปั้นซย่าด้วยความโกรธ “ฉันจะบอกแกไว้นะ ถ้าแกเจรจาโครงการนี้ไม่สำเร็จ แกก็ต้องไสหัวออกไปจากบริษัท ส่วนเงินของบริษัทที่แกโอนย้ายไปที่อื่น แกก็ต้องชดใช้อย่างน้อยสามล้าน ตอนนี้แกจะชดใช้ค่าเสียหายหรือจะไปกับผู้จัดการจ้าว แกก็เลือกเอาเอง!”

สวี่ปั้นซย่าตกตะลึง พวกเขาต้องการให้เธอไปยังหนทางแห่งความอับจนนี่นา!

เธอมองไปยังพ่อแม่ ใบหน้าของสวี่เจี้ยนกงกลายเป็นสีแดงก่ำ ฟังฮุ่ยกำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่นขนัด ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

แต่ว่าพวกเขาก็ไม่มีวิธีแก้ปัญหาเลยสักนิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา