แน่นอนว่าถ้าอีกฝ่ายกล้าลงมือจริง ๆ พ่อหนุ่มกล้ามโตคนนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะปอดแหกอย่างแน่นอนเพราะแม้แต่คนปกติธรรมดาทั่วไปสามถึงห้าคนก็ยังไม่สามารถทำอะไรเขาได้ นับประสาอะไรกับกลุ่มคนเแคะที่ผอมแห้งตรงหน้านี้กัน
แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันทีและขณะที่กำลังหลบตัวไปด้านข้าง เสี่ยวเจี้ยก็คว้าข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ได้
และเมื่อพ่อหนุ่มกล้ามโตต้องการจะหดแขนกลับ ก็พบว่าข้อมือถูกบีบเอาไว้แน่นเสียแล้ว ไม่ว่าเขาจะพยายามออกแรงมากแค่ไหนก็ยังไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
ในขณะที่อีกฝ่ายค่อย ๆ ออกแรงมากขึ้น ความเจ็บปวดจากข้อมือก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
“แกแม่งมันสิ ปล่อยข้าสิวะ ปล่อย”
ขณะที่พูดอยู่ก็ยกฝ่ามือขึ้นเพื่อที่จะตบหน้าเสี่ยวเจี้ยน
ในตอนนั้นนั่นเอง ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตัวเขาก็เคลื่อนไหวตัวขึ้นมากะทันหัน รอจนกระทั่งฝ่ามือของพ่อหนุ่มกล้ามโตตบลงมา
ทันใดนั้นแขนข้างที่เขาตบมาก็รู้สึกเหมือนตีเข้ากับแผ่นเหล็ก เขาเจ็บปวดจนหน้าตาบิดเบี้ยวร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว และตอนที่แขนของพ่อหนุ่มกล้ามโตกำลังดึงกลับออกจากไหล่ของเขา
ผู้อาวุโสก็ยิ้มอย่างมีเมตตา และหยิบเงินสดปึกหนึ่งออกมา
“พ่อหนุ่มน้อย ตอนไหนควรใจกว้างกับคนอื่นก็ควรจะใจกว้างต่อกัน นี่คือเงินสองหมื่นหยวน น่าจะเพียงพอให้คุณซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ได้อยู่นะ เสี่ยวเจี้ย ปล่อยเขาไปเถอะ”
“พวกแกจำไว้ให้ดี!”
เขาดึงแขนกลับมาและรับเงินสดไป
พ่อหนุ่มกล้ามโตนวดข้อมือที่บวมขึ้นมา และพูดทิ้งท้ายอย่างอาฆาตและรีบเดินหนีออกไปจากทีเกิดเหตุทันที
“อาจารย์ลุง...”
เสี่ยวเจี้ยทำสีหน้าไม่ยินยอมและกำลังจะเอ่ยอะไรขึ้นมาแต่ผู้อาวุโสก็ยกฝ่ามือขึ้นเพื่อห้ามปรามไม่ให้เขาบ่นอะไร
หากดูจากการเผชิญหน้าที่ธรรมดา ๆ ในครั้งนี้ก็สามารถรู้ได้เลยว่าผู้อาวุโสและชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นเหล่านี้ มีศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาเลย
สิ่งที่นักสู้ทั่วไปต้องการแสวงหาก็คือความก้าวหน้าที่ทะลุระดับสูงสุดแต่เหตุผลที่คนเป็นหมออย่างพวกเขามาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้
ประการแรกก็เพื่อต้องการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ประการที่สองก็เพื่อการต้องการรักษาประสาทสัมผัสของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
ต้องเข้าใจว่าศาสตร์ทางการแพทย์แผนจีนนั้น การวินิจฉัยชีพจรและการฝังเข็มต้องใช้เทคนิคขั้นสูงมาก
หากตอนที่ฝั่งเข็มเกิดพลาดท่า มีโอกาสที่จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
“ตอนที่ควรให้อภัยก็ต้องให้อภัย ในเมื่อทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว ก็ไม่ต้องไปเอาเรื่องต่ออีก พวกเราฝึกฝนวิชาแพทย์ไม่เพียงแต่ต้องฝึกฝนทักษะเพียงเท่านั้น แต่ยังต้องมีหัวใจเอื้ออารีอีกด้วย!ตอนนี้ทักษะทางการแพทย์ของคุณประสบความสำเร็จแล้ว แต่ว่าจิตใจของคุณยังห่างชั้นอยู่นัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
เซี่ยวซิงปัง ตายไปแล้วยังจะมาคุยได้อีก ตัวละครผิดนะ...
คือคนจีนมีนเป็นแบบนี้จริงๆใช่มั้ย ดูถูกคนอื่นเป็นนิจ หลงตัวเอง แล้วก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ยิ่งอ่านยิ่งน่ารำคาญทั้งเรื่องทั้งเรื่องไม่มีห่าไรเลยพระเอกเกินให้คนดูถูกไปทั่ว พ่อแม่นางเอกก๋หน้าเงิน นางเอกก็นอกจากรักพระเอกแล้วไม่มีอะำรเลยนอกจากสร้างปัญหา เด่วคนนั้นจ้อง คนนี้ต้อง ให้พระเอกมาคอยกำจัด วนไปวนมา อ่านแค่สี่สิบตอนก็เอียนละ ไม่รู้จริงๆนิยายจีนมันเป็นแบบนี้ทุกเรื่องจนคิดว่านี่คือนิสัยจริงๆของคนจีนไปแล้วนะนี่...
อัพวันละ 20 ตอนเหมือนเดิมก้ดีนะแอด 🥺...
รอตอนใหม่นะครับ...
ยังรออยู่นะครับ...
ไม่อัพหลายวันแล้วครับแอดดดดด...
นิยายเรื่องนี้....อ่านไปไม่กี่ตอน...พ๊อตเรื่องสร้างพระเอกเป็นหมาตัวหนึ่ง...เท่านั้น...ไม่มีศักสรี อะไรเลย...โคตรโง่....ยอมให้คนอื่นกดขี่....หรือคนเขียนเองเป็นแบบนี้ครับ...งง...
นิยายไร้สาระของแท้...
นิยายน้ำเน่า...
นิยายขยะ คนแตงก็ขยะ...