หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 202

“คุณย่าจ้าว เข้าใจผิดแล้วครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”

“คุณย่าจ้าว พวกเราก็แค่หยอกล้อเท่านั้น!”

“ประธานสวี่ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ คุณช่วยพูดกับคุณย่าจ้าวหน่อย อย่าได้ถือสาพวกเราคนรุ่นหลังเลย!”

คนหนุ่มสาวเหล่านี้ขอโทษซ้ำไปซ้ำมา ความหยิ่งผยองอวดดีก่อนหน้านี้ได้หายไปหมดแล้ว

สวี่ปั้นซย่ารู้สึกงุนงง เมื่อก่อนนี้ สถานะอย่างเธอ ทำได้เพียงแหงนหน้ามองผู้คนตรงหน้า

แต่เวลานี้กลับมีสิทธิ์ทัดเทียมกับคนเหล่านี้เพราะเธอเป็นลูกบุญธรรมของคุณยายจ้าว

ถึงขนาดที่คนเหล่านี้ยังต้องขอโทษเธออย่างนอบน้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าฝันมาก่อน!

เวลานี้เอง โจวเจ๋อที่ยืนอยู่ด้านหลังมาตลอดก็ตะโกนขึ้นอย่างขุ่นเคือง “คุณย่าจ้าว คุณฟังผิดแล้ว”

“พวกเราไม่ได้ว่าประธานสวี่หยามเกียรติงานเลี้ยง คนที่พวกเราพูดถึงคือไอ้หน้าอ่อนคนนั้นต่างหาก”

“คุณย่าจ้าว คุณเองก็เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มจัดงานเลี้ยงนี้ด้วย คุณคิดว่าการให้คนไร้ประโยชน์ที่เกาะผู้หญิงกินมาร่วมงานเลี้ยงอวิ๋นติ่ง เป็นการลบหลู่ทุกท่านที่มางานเลี้ยงนี้หรือไม่”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หนุ่มสาวของสิบตระกูลใหญ่ต่างพากันดีใจ

ใช่แล้ว เปลี่ยนไปพูดเรื่องหลินมั่ว ก็น่าจะรอดแล้ว

สวี่ปั้นซย่าเป็นบุตรสาวบุญธรรมของคุณยายจ้าว พวกเขาไม่สามารถล่วงเกินได้ งั้นก็หันมารังแกหลินมั่วสิ

อย่างนี้ละก็จะสามารถทำให้เรื่องราวก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องถูกต้อง แล้วยังขับไล่หลินมั่วออกไปได้ด้วย

อย่างไรเสีย จุดประสงค์หลักของพวกเขาคือการขับไล่หลินมั่วไปเพื่อไม่ให้เขามาหลอกล่อซ่งจื่อหลาน

รีบไล่เขาออกไปจะดีที่สุด

เมื่อข้างกายสวี่ปั้นซย่าไม่มีใครแล้ว พวกเขาจะได้ฉวยโอกาสนี้เข้าหาเธอ

ก่อนหน้านี้สวี่ปั้นซย่าเป็นเพียงประธานบริษัทเล็กๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสายตา พวกเขาก็แค่อยากจะเล่นด้วยเฉยๆ

แต่สวี่ปั้นซย่าในเวลานี้เป็นลูกสาวบุญธรรมของคุณยายจ้าว หากสามารถแต่งเธอมาเป็นสะใภ้ได้ ก็สมควรแก่ฐานะอยู่!

ฉับพลันนั้น เป้าหมายของทุกคนก็เบี่ยงไปที่หลินมั่ว

คุณยายจ้าวก็มึนงงเช่นกัน

สวี่ปั้นซย่าเป็นลูกสาวบุญธรรมของเธอ เธอออกโรงปกป้องก็เป็นสิ่งที่สมควรแล้ว

ทว่า หากเธอไปปกป้องเขยแต่งเข้า มันออกจะไม่ถูกไม่ต้อง

สิ่งที่โจวเจ๋อพูดก็ถูกต้อง การปล่อยให้ลูกเขยแต่งเข้าที่วันๆ ไม่ทำอะไรมาร่วมงานเลี้ยงอวิ๋นติ่ง ดูจะไม่เหมาะสมจริงๆ

คุณนายจ้าวคิดคำนวณอยู่ในใจอย่างรวดเร็วว่าควรจะทำอย่างไรดี

ซ่งจื่อหลานเองก็ดูกังวลด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะคิดหาวิธีได้ ทันใดนั้น ที่หน้าประตูก็มีเสียงดังลอยมา “คุณหวงหย่งเฟิงมาแล้ว!”

ทุกคนในห้องตกตะลึงทันทีที่ได้ยิน

หวงหย่งเฟิงเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงในเมืองก่วงหยาง มีสมญานามเป็นลูกน้องมือหนึ่งของหนานป้าเทียน

อิทธิพลของเขาอยู่เหนือกว่าใครในสิบตระกูลใหญ่ ในเมืองก่วงหยาง ไม่มีใครหน้าไหนกล้าทำให้เขาขุ่นเคือง

เช่นเดียวกับหนานป้าเทียน งานเลี้ยงอวิ๋นติ่งทุกครั้ง เขาจะได้รับเทียบเชิญ

แต่...พวกเขาไม่เคยเข้าร่วมสักครั้ง

วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น

พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรืออย่างไร

หวงหย่งเฟิงมาร่วมงานเลี้ยงอวิ๋นติ่งจริงๆ หรือ

ยิ่งไปกว่านั้น เขามาด้วยตัวเอง ไม่ได้ส่งภรรยาหรือลูกชายมาเป็นตัวแทนแต่อย่างใด

ทุกคนต่างหันมามองหวงหย่งเฟิงที่สวมชุดสูทรองเท้าหนังเดินเข้ามา

“ลุงหวง...” หลี่เหิงรีบปราดเข้าไปทักทาย และยื่นมือออกไปพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะ...”

หวงหย่งเฟิงไม่สนใจ เดินผ่านหลี่เหิงตรงไปหาหลินมั่ว

เขาทักทายคุณยายจ้าวก่อน แล้วจึงหันไปหาหลินมั่ว พลางพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “น้องหลิน คุณมาถึงเร็วจัง!”

“ประเดี๋ยวพวกเรานั่งด้วยกันนะครับ จะต้องดื่มด้วยกันสักหน่อยแล้ว”

คราวนี้ ทุกคนในงานเลี้ยงก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง

หวงหย่งเฟิงผู้ไม่เคยสนใจใครจากสิบตระกูลใหญ่ และกับคุณยายจ้าวก็ทักทายพอเป็นพิธีเท่านั้น

แต่กับหลินมั่ว กลับกระตือรือร้นขนาดนี้

นี่มันอะไรกัน

ทำไมหวงหย่งเฟิงถึงได้สุภาพกับเขยแต่งเข้าที่เกาะเมียกินคนนี้ได้ขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่ทุกคนจะเข้าใจ มีเสียงมาจากหน้าประตูอีกครั้ง “ทะ...ท่านหนานป้าเทียน...มาถึงแล้ว!”

เสียงสั่นสะท้านของโฆษกแสดงให้เห็นว่าเขาตกใจและตื่นเต้นแค่ไหน!

ผู้คนในงานเลี้ยงตกอยู่ในความโกลาหล สมองของทุกคนว่างเปล่า

เอกะราชาแห่งก่วงหยางก็มาร่วมงานเลี้ยงอวิ๋นติ่งด้วยจริงๆ หรือ

ถือเป็นเกียรติประวัติอันสูงสุดสำหรับงานเลี้ยงอวิ๋นติ่งในค่ำคืนนี้แล้วใช่หรือไม่ 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา