หลังจากได้เห็นฉากที่หลินมั่วกอดกับนักปราชญ์หญิงตุนหวงกับตาตัวเองทำเอาหลายวันมานี้ไป๋รั่วถึงกลับไม่สบายใจจนกินข้าวกินปลาไม่ลง เพราะส่วนหนึ่งกำลังสงสัยว่าเรื่องที่เขาพูดกันว่าหลินมั่วเป็นคนที่มีครอบครัวอยู่แล้วนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ถ้าหากเป็นเรื่องจริง และเพราะอะไรถึงได้ไปกะหนุงกะหนิงกับผู้หญิงคนอื่นอีก
แม้ว่าจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ในใจของเธอก็รู้สึกว่าหลินมั่วไม่ใช่คนเจ้าชู้ประตูดินแบบนั้น
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดคำถามตามมาอีกหนึ่งข้อ ว่าถ้าหากเรื่องที่ว่าเขามีครอบครัวแล้วเป็นเพียงเรื่องโกหก นั่นก็หมายความว่าหลินมั่วแค่รังเกียจเธอจากใจจริง จึงพูดออกมาโดยไม่คิดอะไร แค่อยากจะหาข้ออ้างเพื่อปฏิเสธเธอเท่านั้น
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ไป๋รั่วหรงยิ่งรู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้น
ด้วยอารมณ์เช่นนี้เธอจึงชักดาบยาวในมือออกมา ขณะที่เธอกำลังร่ายรำเพลงดาบ แสงเย็นเฉียบของคมดาบก็แผ่กลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ออกมา
ถ้าหากหลินมั่วอยู่ตรงนั้นด้วยก็คงจะจำเพลงดาบนี้ได้ ใช่แล้ว มันคือเพลงดาบที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตระกูลไป๋
เพลงดาบเนี่ยอี
ศิลปะการต่อสู้ซั่นโส่วของตระกูลไป๋ถ่ายทอดให้แก่ทายาทผู้ชายในตระกูลและต้องถ่ายทอดสู่ทายาทสายตรงเท่านั้น ไม่ถ่ายทอดให้แก่ทายาทสายรอง และเพลงดาบเนี่ยอีก็เป็นเพลงดาบเฉพาะที่ถ่ายทอดให้ทายาทผู้หญิงสายตรงของตระกูลไป๋
แม้ว่ากระบวนท่าจะแตกต่างกัน แต่หลักการพื้นฐานมีความคล้ายคลึงกัน โดยทั้งหมดล้วนมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าที่หลากหลาย และการระเบิดพลังระยะใกล้
น่าเสียดายที่เพลงดาบแบบนี้ไม่เหมาะสมกับผู้ชาย
กลับมาที่ไป๋รั่วหรง ขณะที่เธอกำลังกวัดแกว่งดาบยาวอย่างต่อเนื่องอยู่นั้น ปราณกระบี่จาง ๆ ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นรอบ ๆ ตัว และเพราะเธอมีความคับแค้นอยู่ในใจ จึงทำให้ทุกกระบวนท่าของดาบมีกลิ่นอายเย็นยะเยือกออกมา
“จงหักซะ”
หลังจากส่งเสียงคำรามเบา ๆ แสงเย็น ๆ ก็วาบผ่านก่อนที่ต้นไม้ข้างตัวไป๋รั่วหรงที่มีลำต้นหนาพอกับน่องขาต้นนั้นก็หักออกเป็นสองส่วน และรอยที่หักออกจากกันนั้นเรียบเนียนอย่างมาก
“ยินดีด้วยนะหรงหรง คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้เธอไม่เพียงแต่ร่างกายจะฟื้นตัวขึ้นแล้ว แต่ยังดูสวยมากยิ่งขึ้น และทักษะการใช้ดาบก็ก้าวหน้าขึ้นอย่างมากเช่นกัน”
แม้ว่าไป๋เฉียนเอ๋อร์จะมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าและยังชื่นชมไป๋รั่วหรงไม่หยุดปาก แต่ในใจกลับสั่นเทาไปด้วยความอิจฉาริษยา
และเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำชมของไป๋เฉียนเอ๋อร์ ไป๋รั่วหรงกลับพูดอย่างใจเย็นว่า
“บางทีอาจจะเป็นเพราะโชคเข้าข้างล่ะมั้ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
ราคาภาพตอนแรกบอก 2 ล้าน 5 แสน ต่อเหลือ 2 ล้าน ตอนท้ายบอก 2 แสน เพิ่มเป็น 6 แสน 555...
นิยายจีนร่วมสมัย อ่านก็ให้ได้สิ่งดีๆมากมาย...
นิยายที่มีแต่คนปัญญาอ่อน...
อัพหน่อยแอด ไม่อัพหลายวันแล้ววว...
เซี่ยวซิงปัง ตายไปแล้วยังจะมาคุยได้อีก ตัวละครผิดนะ...
คือคนจีนมีนเป็นแบบนี้จริงๆใช่มั้ย ดูถูกคนอื่นเป็นนิจ หลงตัวเอง แล้วก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ยิ่งอ่านยิ่งน่ารำคาญทั้งเรื่องทั้งเรื่องไม่มีห่าไรเลยพระเอกเกินให้คนดูถูกไปทั่ว พ่อแม่นางเอกก๋หน้าเงิน นางเอกก็นอกจากรักพระเอกแล้วไม่มีอะำรเลยนอกจากสร้างปัญหา เด่วคนนั้นจ้อง คนนี้ต้อง ให้พระเอกมาคอยกำจัด วนไปวนมา อ่านแค่สี่สิบตอนก็เอียนละ ไม่รู้จริงๆนิยายจีนมันเป็นแบบนี้ทุกเรื่องจนคิดว่านี่คือนิสัยจริงๆของคนจีนไปแล้วนะนี่...
อัพวันละ 20 ตอนเหมือนเดิมก้ดีนะแอด 🥺...
รอตอนใหม่นะครับ...
ยังรออยู่นะครับ...
ไม่อัพหลายวันแล้วครับแอดดดดด...