หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 351

ใบหน้าของผู้อาวุโสเฮ่อเต็มไปด้วยความรู้สึกเคารพนบนอบ “ในบรรดาคนที่ปู่เคยพบเจอมา หรือแม้กระทั่งได้ยินมา คุณหลินเป็นผู้ที่มีทักษะทางการแพทย์ดีที่สุด!”

“สิ่งมีชีวิตทั้งหมด จะเป็นหรือตายล้วนขึ้นอยู่กับเขา!”

“เขาสามารถควบคุมความเป็นความตายของผู้คน หลานคิดว่าเขามีสิทธิ์อะไรล่ะ”

เฮ่อเชียนเสวี่ยตกตะลึง เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าหลินมั่วจะมีทักษะทางการแพทย์ที่น่าทึ่งเช่นนี้

“ในเมื่อเขามีทักษะทางการแพทย์แบบนี้ ทำไม...ทำไมเขาถึงยอมเป็นลูกเขยแต่งเข้า แล้วทำไมถึงยอมเป็นแค่พนักงานทำความสะอาดในโรงพยาบาลล่ะคะ”

ผู้อาวุโสเฮ่อตอบกลับเสียงเบา “ผู้ทรงความรู้บนโลกใบนี้ มักจะทำในสิ่งที่ผู้คนคาดไม่ถึงเสมอ”

"เสวี่ยเอ๋อร์ ปู่เลี้ยงดูหลานมาแบบตามใจมากเกินไป จนหลานกลายเป็นคนที่ไม่เห็นคนอื่นในสายตา!"

“ปู่จะบอกหลานอย่างนี้แล้วกัน"

"ด้วยศักยภาพของคุณหลิน ภายในสิบปี ความสำเร็จของเขาจะไม่ด้อยไปกว่าคุณหนานแน่นอน!"

"ที่ปู่ให้หลานไปรับรองเขา ก็คือความเห็นแก่ตัวที่สุดของปู่”

“ไม่คิดเลยว่า หลานจะทำให้มันวุ่นวายแบบนี้”

“เฮ้อ หวังว่าคุณหลินจะไม่โกรธปู่นะ!”

เฮ่อเชียนเสวี่ยตกตะลึง และใช้เวลาสักพักใหญ่ก่อนที่เธอจะพูดต่อด้วยเสียงเบา "คุณปู่ ถึงแม้ว่าหนูจะยังไม่มีคนที่หมายปอง แต่คุณปู่ก็ไม่ควรทำแบบนี้นะคะ"

“เขา...เขาแต่งงานแล้ว ทำไมปู่ถึงจับคู่หนูกับเขาอีก”

“ผู้อาวุโสเฮ่อส่ายหน้า “การแต่งงานของเขากับสวี่ปั้นซย่าเป็นเพียงแค่พิธีการบังหน้าเท่านั้น

“ตอนนั้นคุณหลินต้องการช่วยชีวิตน้องสาว จึงต้องแต่งเข้าบ้านตระกูลสวี่เพื่อแลกกับเงินหนึ่งแสน”

“ทั้งสองคนแต่งงานกันมาสามปี แต่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ”

“การแต่งงานครั้งนี้ ยังไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดลงเมื่อไหร่”

“ถ้าหากว่าหลานได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเขาก่อน หลานก็จะได้พบกับคู่ครองที่ดีไม่ใช่หรือ”

“หลานนี่นะ คบแต่พวกลูกเศรษฐี แต่กลับพลาดบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

“หรือไม่ นี่ก็อาจจะไม่ใช่โชคชะตาของหลาน!”

ในใจของเฮ่อเชียนเสวี่ยรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่เธอก็ยังพูดอย่างไม่ยอมแพ้ “ถ้าโชคชะตานำพาอย่างนั้น ก็ดีแล้วค่ะ”

“ในสถานที่แบบนี้ เขายังทำร้ายร่างกายคนตามใจชอบ ใช้กำลังอย่างป่าเถื่อน ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยสักนิด”

ดูมาถึงตรงนี้ เฮ่อเชียนเสวี่ยก็ยังรู้สึกโมโห อยากจะเข้าไปตบหญิงสูงศักดิ์คนนั้นเองด้วยซ้ำ

ไม่แปลกใจที่หลินมั่วลงมือกับเธอ หากเป็นคนอื่น ก็ไม่มีใครทนดูได้เช่นเดียวกัน

หลังจากนั้น เธอก็เรียกวีดิโอเหตุการณ์ของชายสวมแว่นขึ้นมาตรวจสอบต่อ

โชคดีที่สถานที่แห่งนี้ใช้กล้องและอุปกรณ์บันทึกเสียงคุณภาพระดับสูง

นอกจากนี้ ณ ตำแหน่งที่ทั้งสองยืนคุยกันก็มีกล้องวงจรปิดพอดี แถมยังสามารถบันทึกเสียงพูดคุยกันได้อย่างชัดเจน

เมื่อได้ฟังคำพูดทั้งหมดของชายสวมแว่น เฮ่อเชียนเสวี่ยรู้สึกโกรธจนตัวสั่น

ชายสวมแว่นคนนี้เป็นคนประเภทชอบฉวยโอกาสตีให้ตายก็สมควรแล้ว!

หลังจากปิดวิดีโอ ในใจของเฮ่อเชียนเสวี่ยเต็มไปด้วยความรู้สึกละอายใจ

ในที่สุดเธอก็เข้าใจสิ่งที่คุณปู่พูด

หากเราไม่ได้ประสบกับเรื่องราวที่คนอื่นประสบมา ก็ไม่ควรไปตัดสินเขา

หากคุณไม่รู้ว่าคนอื่นประสบกับอะไรมา คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่เขาทำ!