หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 4275

แม้ว่าทหารรักษาการณ์ของฝ่ายลอเร้นซ์จะมีขีดความสามารถส่วนตัวด้อยกว่าเขตสาม

แต่ความสามารถในการทำงานเป็นทีมของพวกเขากลับทิ้งห่างเขตสามไปมาก

ถึงยังไงพวกเขาฝึกฝนความสามารถนี้มาโดยตลอด

แต่ถ้าคนของตัวเองใช้วิธีการรบแบบนี้บ้าง อย่าว่าเเต่จะร่วมมือกันได้หรือไม่เลย

แค่ไม่ตีกันเองก็บุญโขเล้ว

หนำซ้ำจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดก็คือกุหลาบดำ

ก่อนหน้านี้หลังจากกุหลาบดำถูกซุ่มโจมตี ก็สูญเสียลูกน้องฝีมือดีไปหลายหมื่นคน

ในฐานะที่เป็นกองกำลังเดียวในเขตสามที่เชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืน ความเสียหายในครั้งนั้นจึงมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ในขณะที่คนตาย อาวุธปืนจำนวนมากก็สูญหายไปในสมรภูมิด้วย

นี่เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่เเล้ว

ถึงเเม้ว่าตอนนี้กองกำลังอื่นๆของพวกเขาจะสามารถจัดตั้งหน่วยรบต่างๆได้ เเต่กองกำลังพลสนับสนุนอาวุธปืนก็ไม่เพียงพอ

ภายใต้อิทธิพลของหลายปัจจัย สงครามยังไม่เริ่ม

โดยรวมแล้วเขตสามก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบเสียแล้ว

ทันใดนั้นเอง ผู้นำกลุ่มอำนาจหลายคนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาพร้อมกัน

“เรื่องมาถึงขั้นนี้เล้ว พวกเรากลับไปคิดหาวิธีกันก่อนเถอะ!”

หลังจากข้อเสนอของหวังจั่งซิ่ง ผู้นำกลุ่มอำนาจหลายคนก็ถอยร่นออกมาจากพื้นที่สังเกตุการณ์

…

ทางด้านหลินมั่ว ทันทีที่เข้ามา ก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่ไม่ปกติ

ภายใต้การสอบถามของเขา หวังจั่งซิ่งก็เล่าสถานการณ์ที่ปรากฏให้ฟังอีกครั้ง

“พวกเราสามารถบุกโจมตีโดยตรง และทำลายค่ายหลักของพวกเขาได้ไหม”

เพียงเเต่ข้อเสนอนี้เพิ่งถูกเสนอขึ้นมา ก็ถูกหวังจั่งซิ่งปฏิเสธทันที

“ไม่ได้ผล!”

“คูซิสคนนี้รับมือยากจริงๆ พวกเขาเฝ้าป้องกันการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของเราไว้นานแล้ว”

“ตอนนี้หน้าค่ายลอเร้นซ์เต็มไปด้วยทุ่งระเบิด อยากจะบุกผ่านไปได้ก็มีเเต่ต้องเอาชีวิตเข้าเเลก”

ก่อนการรบ หวังจั่งซิ่งได้ส่งหน่วยลาดตระเวนจำนวนมากออกไป

แต่ข้อมูลที่ได้รับกลับไม่สู้ดีนัก

การปะทะกันโดยตรงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้เปรียบที่สุดของเขตสาม เเทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

เมื่อได้ยินดังนั้น หลินมั่วก็พอจะเข้าใจความตั้งใจของอีกฝ่ายแล้ว

เมื่อเทียบกับวิธีการรบแบบปะทะโดยตรงของเคร้กก่อนหน้านี้

เด็กผู้หญิงอายุไม่ถึงสิบขวบจะออกรบ นี่มันเรื่องเหลวไหล

“คุณหลิน ศิษย์คนนี้ของคุณช่างเป็นคนตลกเสียจริง

“เด็กคนนี้ไม่ได้ล้อเล่น!”

หลินมั่วลูบผมยาวสลวยของอู๋เหิ่น พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“ช่วงนี้ ผมตั้งใจจะให้เขาติดตามคุณไปร่วมรบด้วยกัน”

เมื่อพูดคำนี้ออกมา หม่าปังเต๋อก็ยืนตะลึงงันอยู่กับที่ทันที

ให้ตายสิ เอาจริงดิ

เมื่อได้สติ เขาก็รีบส่ายหน้าอย่างแรง

“ไม่ได้ ไม่ได้”

“ในสนามรบสถานกรณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ถ้าผมดูแลไม่ทันแล้วเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมา”

“ผมท่านหม่าคงบาปหนาเกินเยียวยา!”

หม่าปังเต๋อไม่ยอมตกลงเด็ดขาด

นี่คือศิษย์เพียงคนเดียวของหลินมั่วบนเกาะนรกแห่งนี้

ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมา เขาคิดว่าเอาชีวิตตัวเองไปชดใช้ก็ยังไม่พอ