ตอนที่ 1014 – ตอนที่ต้องอ่านของ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ตอนนี้ของ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนติกโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1014 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
สิ่งที่เจาเจาให้ความสำคัญ ย่อมไม่มีสิ่งใดที่ด้อย!
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่ได้!”
“ข้าไม่ได้ชี้แนะการฝึกตนของเจ้า แค่คุยเล่นสองสามประโยคเท่านั้น เราไม่มีเหตุปัจจัยต่อกัน และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งนั้น”
“เจ้าไปซะ!” ชายหนุ่มสะบัดแขนเสื้อ
เซี่ยอวี้โจวยืนงุนงงอยู่หน้าประตู จากนั้นประตูก็ปิดดังปัง
“เขาดูเหมือนกลัวจะมีความเกี่ยวข้องกับข้า? ถึงข้าจะโง่ไปหน่อย แต่ก็ไม่น่าจะถึงต้องต่อต้านขนาดนี้รึเปล่า?” เซี่ยอวี้โจวใจกว้าง ไม่คิดมาก เขารีบกลับห้องไปฝึกวิชาต่ออย่างร่าเริง
แปลกจัง เขาบอกว่าตอนฝึกตนจะมองเห็นแสงสีต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนของพลังวิญญาณ แต่ทำไมเขาถึงมองไม่เห็นอะไรเลย?
เซี่ยอวี้โจวไม่ได้ยอมแพ้ เขาทำนายอยู่ทั้งคืน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังคงคลุมเครือราวกับถูกบางสิ่งกีดขวางเอาไว้
เซี่ยอวี้โจวก้มหน้าด้วยความสิ้นหวัง
ในตอนเช้า
“โอ้ เจ้าหนูมนุษย์ ได้ยินว่าเจ้ากำลังฝึกวิชาหรือ? แล้วเจ้าสัมผัสถึงพลังวิญญาณได้หรือยัง?” แขกที่กำลังทานอาหารถามด้วยรอยยิ้ม มนุษย์ที่บริสุทธิ์เช่นนี้ หาได้ยากในแดนศักดิ์สิทธิ์
บรรพบุรุษของเราสืบเชื้อสายมาหลายปี ก็ต้องมีสายเลือดที่สั่นไหวบ้างล่ะ
เซี่ยอวี้โจวโกรธจนปากเบี้ยว
ดวงตากลอกไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจตั้งแผงเล็ก ๆ ตรงทางเข้า เพื่อฝึกดูดวง
ตอนที่ลู่เจาเจาตื่นขึ้นมา ก็มีกระบี่ไม้ไผ่วางอยู่ข้างหน้าต่างแล้ว 16 เล่ม
“ว้าว…” ด้านบนยังสลักลวดลายเอาไว้อีกด้วย เมื่อกำไว้ในมือ ก็สัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่
ไผ่ในป่าไผ่สีม่วงได้รับการหล่อเลี้ยงจากควันธูป และมีพลังแห่งสายฟ้า จึงเหมาะมากสำหรับการฝึกฝนเพลงกระบี่
แม้กระบี่ไม้ไผ่จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีพลังอยู่บ้าง
ลู่เจาเจาส่งกระบี่ไม้ไผ่เข้าไปในมิติ และให้คำแนะนำอีกสองสามคำก่อนจะจากไป
ตอนที่พึ่งลงมา กำลังถือชามกินได้ไม่กี่คำ ก็เห็นคนมุงอยู่หน้าประตูเต็มไปหมด
ลู่เจาเจาชอบเรื่องชาวบ้านอยู่แล้ว ก็เลยถือชามเบียดเข้าไป
อาศัยความตัวเล็กคล่องแคล่ว นางจึงสามารถเบียดตัวเข้าไปได้
แต่ไม่นึกเลยว่า...
คนที่นั่งอยู่ข้างในจะเป็นเซี่ยอวี้โจว!!
เซี่ยอวี้โจวทำหน้าเคร่งขรึม กำลังคลำกระดูกให้สาวงามที่อยู่ตรงหน้า และดูลักษณะคิ้วตาของนาง
ผู้ฝึกหญิงสาวหน้าตาสวยงามดูวิตกกังวล “ท่านอาจารย์น้อย ท่านบอกข้าหน่อย ข้ากับเขายังมีโอกาสคืนดีกันอีกไหม?”
เซี่ยอวี้โจวพยักหน้าอย่างสุขุม “ข้าดูลักษณะคิ้วตาของเจ้าแล้ว เจ้าเป็นคนที่มีวาสนาดี วางใจเถอะ พวกเจ้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน ฟ้าสร้างมาคู่กัน ต้องได้คืนดีกันแน่นอน!!”
ผู้ฝึกหญิงสาวมีสีหน้ายินดี นางล้วงหยิบศิลาวิญญาณออกมาจากกระเป๋าสองสามก้อน แล้วจากไปอย่างมีความสุข
ผู้คนมุงดูอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าของพวกเขาแสดงความสงสัย
เด็กหนุ่มคนนี้ไม่มีพลังวิญญาณใด ๆ แผ่ออกมาเลย ดูก็รู้ว่าเป็นคนธรรมดา
ขอทานข้างถนนพูดขึ้นว่า “เจ้าลองทำนายให้ข้าหน่อยสิว่า เมื่อไหร่ข้าจะได้โชคลาภก้อนใหญ่! ถ้าเจ้าทำนายแม่น ข้าจะช่วยโฆษณาให้เจ้าเป็นไง?” ขอทานมีสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม ในแววตามีความเยาะเย้ยอยู่บ้าง
“ทำนายให้ข้าด้วยคน!”
เซี่ยอวี้โจวสะบัดแขนเสื้อ พลางปฏิเสธอย่างสุขุม “การสอดรู้ความลับแห่งสวรรค์จะทำให้ชีวิตสั้นลง ไม่ทำนายแล้ว ไม่ทำนายแล้ว”
สะบัดแขนเสื้อ ปิดทองหลังพระ
ลู่เจาเจา!!
นี่ แบบนี้ก็ได้เหรอ!!
เมื่อออกไปข้างนอก ต้องสร้างตัวตนด้วยตัวเอง!!
“เจ้าจุยเฟิง เจ้าจุยเฟิง เจ้าไม่มีวันสู้ข้าได้หรอก!” เซี่ยอวี้โจวทำปากจู๋ใส่จุยเฟิ่งขนแดง
“ตอนนี้ข้าคือเทพหมอดู!”
“เฮ้ๆๆ เจ้าสุนัขบ้า กล้ากลอกตาใส่ข้าเหรอ!”
“นี่เจ้ายังเคารพกฎอยู่ไหม!” เซี่ยอวี้โจวรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตัวเองถูกจุยเฟิงดูถูก เขาจึงโกรธจนหน้าแดงก่ำ
คิดว่าข้าทำง่ายหรือไง!
เพื่อที่จะได้หน้า ข้าเสียไปตั้งสามร้อยศิลาวิญญาณ!
ยังต้องตามตื๊อผู้ชายคนนั้นเกลี้ยกล่อมตั้งสองวันสองคืน เกลี้ยกล่อมจนปากเปียกปากแฉะกว่าจะสำเร็จ!
ชื่อเสียงทั้งหมดนี้ ข้าสมควรได้รับ!
“ข้ายังไม่ได้ว่าเจ้าเลย จุยเฟิง เจ้าฉวยโอกาสตอนเจาเจาไม่อยู่บ้าน แอบหนีออกไปบ่อยๆ เจ้าไปไหนมา” เซี่ยอวี้โจวอยากจะจับจุยเฟิง แต่ถึงแม้จุยเฟิงจะอ้วน แต่ร่างกายก็ว่องไวทีเดียว จับไม่ได้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...