หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1118

สรุปบท ตอนที่ 1118: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1118 – หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

บท ตอนที่ 1118 ของ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Jaroen อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เรื่องบาดหมางของทั้งสอง ยากจะอธิบาย

“คุณงามความดีของลู่เจาเจานั้น ยิ่งใหญ่กว่าฟ้า”

“เทพหันชวนจะตราหน้านางว่าเป็นมารร้ายได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ ไม่กลัวฟ้าดินลงโทษหรือไง?”

สีหน้าของหันชวนเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย แววตาดุร้าย เขาพยายามระงับโทสะ “ตอนนี้นางอยู่นอกสามดินแดนแล้ว ทั้งบัญชีการเกิดการตายก็ไม่มีนาง และบัญชีเทพเจ้าในแดนเทพก็ไม่มีนางเช่นกัน”

“ถ้านางไม่ใช่มารร้ายแล้วจะเป็นอะไร?”

“ชิ้นส่วนทั้งร่างของนางล้วนถูกสร้างขึ้นจากชิ้นส่วนของศิษย์ทั้งหลาย นางไม่ใช่มารร้ายแล้วจะเป็นอะไรได้อีก?”

“ท่านเซียนหลิงเซียว โปรดอย่าหลงใหลนางจนขาดสติ!”

หันชวนเห็นคนในฝูงชนเริ่มเคลื่อนไหว เซียนบางคนก็ออกมาพูดแทนศิษย์ เส้นเลือดที่หน้าผากของเขาเต้นตุบ ๆ…

ทำไมกัน?!

เกิดอะไรขึ้น?

คนเหล่านี้ล้วนเป็นเทพเจ้าที่มีเรื่องบาดหมางกับลู่เจาเจา ทำไมถึงออกมาพูดแทนกันหมด?!! หันชวนคิดว่าจะได้รับการเห็นด้วย แต่กลับพบกับอุปสรรคเข้าซะแล้ว

ทั้งๆ ที่คนที่มาในวันนี้ ล้วนเป็นศัตรูของนางทั้งนั้น

“เทพน้อยไม่เห็นด้วย”

“เทพน้อยก็ไม่เห็นด้วย”

“ขออภัย เทพน้อยไม่อาจเห็นด้วย”

หันชวนโกรธมากจนหน้าอกของเขาสั่นเทา และมือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็กำแน่นเล็กน้อย มาถึงวันนี้ เขาไม่มีทางถอยแล้ว

เขาและลู่เจาเจา อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้มานานแล้ว

ที่ชั้นนอกสุด เย่ว์เหล่ากำลังถักเชือกแดงเส้นหนึ่งให้หนาเท่าเชือกป่าน “ข้าไม่เชื่อหรอก ว่าจะผูกด้ายแดงของเด็กสาวคนนั้นไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เย่ว์เหล่าไม่สนใจเรื่องบ้านเมืองเลยสักนิด สิ่งที่เขาสนใจคือการแก้ปมด้ายแดงต่างหาก

ผูกด้ายแดงมาเป็นหมื่นปี สุดท้าย ก็เจอคนที่ผูกไม่ได้

ช่างเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงของเขาเสียจริง!

“สาวน้อย ช่วยหยิบให้ข้าหน่อย” เย่ว์เหล่าในชุดแดงสะกิดเด็กสาวในชุดแดงข้างๆ เบาๆ เด็กสาวกอดกระบี่ ขมวดคิ้วมองไปที่กลางสนาม

ลู่เจาเจาไม่แม้แต่จะมอง รับเส้นด้ายมาโดยไม่สนใจ

เย่ว์เหล่าใช้เวลาไม่นานในการถักทอเส้นด้ายจำนวนมากให้เป็นเชือกสีแดงที่หนากว่าเส้นผมเปีย

“ข้าขอผูกเชือกแดงนี้ที่มือของเจ้าเพื่อลองหน่อยได้ไหม? เส้นนี้ค่อนข้างหนา ข้ากลัวว่าจะผูกไม่ได้ เด็กสาวที่มาขอพรเนื้อคู่กับข้า เพิ่งอายุสี่ห้าขวบ ข้ากลัวว่าจะผูกให้นางไม่ได้” เย่ว์เหล่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

ลู่เจาเจาไม่ได้หันกลับมา เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ

เย่ว์เหล่าดีใจมาก รีบผูกเชือกแดงที่หนาเท่าหัวแม่มือเข้ากับข้อมือของนาง

ตามหลักแล้ว เมื่อเชือกแดงถูกผูกปม มันจะรัดเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ

แต่ทันทีที่เขาผูกปมให้กับเชือกแห่งพรหมลิขิต เชือกแห่งพรหมลิขิตที่หนาเท่ากับนิ้วมือ ก็ขาดสะบั้นลงในมือของเขา

นับตั้งแต่วันที่จู๋มั่วหนีงานแต่งงาน เผ่ามังกรก็ปิดประตูวังมังกรทุกวัน... อ้อ ถูกลู่เจาเจาไล่ออกจากวังมังกร ตอนนี้อาศัยอยู่ในถ้ำมังกรแล้ว…

พวกเขาหลบอยู่ในถ้ำมังกรทุกวันไม่กล้าออกไปไหน

วันนี้ได้ยินท่านเซียนหันชวนเรียก จึงกล้าแอบออกมา

แต่ก็ยังคงหลบอยู่หลังสุดของฝูงชน ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเผ่าหงส์ ใครจะรู้ว่าเผ่าหงส์จะส่งคนไปเฝ้าทุกที่ รอแค่ให้พวกเขาโผล่ออกมา

ราชามังกรลูบเคราด้วยรอยยิ้ม “ทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด เป็นความเข้าใจผิดทั้งนั้น”

“เจ้าจู๋มั่วนี่มันนิสัยเสียจริงๆ แค่หยิบของไปแล้วยังหนีออกจากบ้านอีก พวกเผ่ามังกรกำลังพยายามตามหาเขากลับมา เมื่อเจอตัวแล้วจะต้องพาเขาไปขอโทษเผ่าหงส์แน่นอน”

“ให้เขาคุกเข่าตั้งแต่ถ้ำมังกรไปจนถึงเขตเผ่าหงส์ ให้เทพทั้งสามดินแดนได้รับรู้ จะต้องให้เผ่าหงส์หายแค้นให้ได้!”

“เจ้าเด็กนั่นมันโง่เขลาเบาปัญญา หวังว่าเผ่าหงส์จะให้อภัย” ราชามังกรรู้ดีว่าตัวเองผิด ปกติชอบทำตัวหยิ่งยโสต่อหน้าเผ่าหงส์ แต่ตอนนี้ไม่กล้าแล้ว

ได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิด

เพราะของวิเศษถูกพวกเขาใช้ไปแล้ว!!

จะเอาอะไรไปคืน?

“โง่เขลาเบาปัญญาเหรอ? เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ต่างหาก! งานแต่งที่เขาจัดในแดนมาร เขาไม่ได้ส่งบัตรเชิญให้พวกเจ้าหรือ?”

“มันน่าขันจริงๆ แต่งภรรยาน้อยข้างนอกแต่ส่งบัตรเชิญไปให้บ้านภรรยาหลวง” ราชาหงส์เยาะเย้ย ถ้าลูกสาวไม่ส่งจดหมายมาบอกให้เผ่าหงส์อยู่นิ่งๆ

เกรงว่าเผ่าหงส์คงทุบหัวราชามังกรไปแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์