ตอน ตอนที่ 1190 จาก หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 1190 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติกโบราณ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ ที่เขียนโดย Jaroen เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“ข้าไม่เห็นด้วย”
“ใช่แล้ว ผู้ใหญ่บ้าน พวกเราก็ไม่เห็นด้วย!”
“ได้ยินมาว่าในสำนักศึกษาไม่เพียงแต่จะมีนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่สอนหนังสือให้ฟรี แต่ยังมีผู้บำเพ็ญตนสอนศิลปะให้อีกด้วย ขอเพียงได้เรียนรู้เล็กน้อย ภายภาคหน้าก็สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตได้ เรื่องดีๆเช่นนี้จะยกให้กับนางคนไร้ค่าได้อย่างไร? พวกนางมีสิทธิ์อะไร? ในภายภาคหน้าก็ต้องแต่งงานออกไปและกลายเป็นคนนอกไป ข้าไม่เห็นด้วยหรอกนะ” ทุกคนล้วนปฏิเสธด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ได้ยินว่าหากมีนักปราชญ์สอนหนังสือให้ แม้แต่บัณฑิตข้างนอกยังยอมจ่ายเงินสองพันตำลึงเพื่อแย่งที่นั่งเข้าไปเรียนเลยน่า
ส่วนการฝึกบำเพ็ญตนหรือ?
พวกเขาไม่กล้าที่จะคิดเลย
เมื่อครั้งที่ศิลปะการบำเพ็ญตนถูกเผยแพร่ออกมา ผู้คนเกือบทั้งหมดต่างพากันฝึกบำเพ็ญตน แต่ผู้ที่สามารถทะลวงข้อจำกัดและก้าวเข้าสู่เส้นทางของการฝึกบำเพ็ญตนได้อย่างถ่องแท้นั้นกลับมีน้อยมาก
แต่ถ้ามีคนที่สามารถทำได้สักคนสองคนก็ล้วนถูกทางการรับตัวไปหมด และก็ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในทันที
เรื่องแบบนี้พวกเขาไม่กล้าที่จะคิดเลย
ถ้าหากมีใครทำได้สักคน นั้นก็หมายความว่าคนหนึ่งได้ดี คนทั้งหมูบ้านก็พลอยได้หน้าไปด้วย เกรงว่าคงจะเดินยืดอกในเมืองเล็ก ๆ ได้อย่างภาคภูมิ
“แต่เรื่องนี้เป็นราชโองการมาจากเมืองหลวง ถ้าหากตรวจสอบจนเจอก็เป็นความผิดทางอาญาฐานหลอกลวงเบื้องสูง” ผู้ใหญ่บ้านยังคงลังเลอยู่เล็กน้อย
“บัณฑิตข้างนอกต่างแย่งกันจนตีกันหัวจะแตกเพื่อที่จะได้เข้าไปเรียน หรือว่าท่านจะมอบโอกาสนี้ให้กับเด็กผู้หญิงไร้ค่านั้นจริง ๆ งั้นหรือ?”
“แต่ว่าข้าก็พอมีวิธีอยู่วิธีหนึ่ง”
“หากคนที่รับสมัครคือเด็กผู้หญิง เช่นนั้นเด็กที่อายุไม่เท่าไรก็ยากที่จะแยกแยะเพศของเด็กออกได้ ขอเพียงจงเป่า และเทียนเจ๋อของพวกเราแต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิงก็เรียบร้อยแล้ว”
“นี่คือสำนักศึกษาหญิงเชียวนะ หรือว่าจะต้องทำถึงขนาดถอดกางเกงออกเพื่อตรวจสอบงั้นหรือ?”
“และคนที่พาเด็กผู้หญิงไปส่งที่สำนักศึกษาก็เป็นผู้ใหญ่บ้านที่เป็นคนรับประกันให้ ขอเพียงพวกเราปิดปากทั้งหมู่บ้าน และพวกเด็ก ๆ ไม่ทำอะไรให้จับพิรุธเจอก็ได้แล้ว อีกอย่างเด็กผู้ชายน่ะมีค่ามาก หรือว่าจะต้องทำเพื่อนางไร้ค่านั่นโดยการทำร้ายลูกชายของพวกเรางั้นหรือ?”ชายคนนั้นพูดด้วยท่าทีเหมือนว่าสมเหตุสมผลแล้ว
“ข้าอยากเข้าเรียน ข้าอยากเข้าเรียน...พวกท่านปล่อยข้านะ ข้าอยากเข้าเรียน...” เจาตี้ที่เดิมทีพาดตัวแอบฟังอยู่ที่มุมกำแพง แต่เมื่อเห็นว่าทุกคนพยายามหาคนไปแทนที่เด็กผู้หญิง นางจึงร้องไห้โฮในทันที
แต่ทว่ากลับมีคนมาปิดปากเอาไว้แน่น เพราะกลัวว่าจะปลุกแขกอันทรงเกียรติที่มาพักอยู่ข้างๆให้ตกใจตื่น
คนเกือบทั้งหมู่บ้านมารวมตัวกันอยู่ที่ศาลบรรพชน และในตอนนี้ผู้เฒ่าวั่งก็จ้องเขม็งไปที่นางหนึ่งที “เจ้ามันตัวซวยฆ่าชีวิตพ่อของเจ้า ยังคิดจะไปเรียนอีกหรือ ถุย”
“ผู้ใหญ่บ้าน ที่บ้านของข้าไม่มีลูกชาย เช่นนั้นข้าก็ขายส่วนที่เป็นของเจาตี้ให้กับเด็กผู้ชายในหมู่บ้านคิดว่าอย่างไร?”
หญิงสาวที่อยู่ข้างหลังกัดฟันแน่น “ท่านแม่ เจาตี้เป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของท่านพี่ ถ้ายังไงให้เจาตี้เข้าเรียน เจาตี้ เพี๊ยะ...”
ฮูหยินเฒ่าหันมาตบหน้านางอย่างแรงหนึ่งที ตบจนหญิงสาวที่โดนตบถึงกลับเซเล็กน้อย
หลังจากที่นางคลอดลูกออกมาก็ไม่ได้อยู่ไฟแม้แต่วันเดียว เดิมทีสภาพร่างกายของนางก็อ่อนแออยู่แล้ว
“ไสหัวไป!”
จากนั้นก็หันไปมองผู้ใหญ่บ้าน“ ข้ามีเพียงคำขอเพียงอย่างเดียว เงินต้องเป็นของข้า!”
“รอข้าเรียนจนมีความสามารถกลับก่อนเถอะ ข้าจะให้เจาตี้มาเป็นม้าให้ข้าขี่ ฮ่า ๆ ๆ ๆ...”
‘เด็กผู้หญิง’ หลายคนเลิกคิ้วอย่างชอบใจ
เพิ่งจะพูดเสร็จก็มีเสียงดังมาจากข้างๆศาลบรรพชน
ผู้ใหญ่บ้านตวัดตามอง ‘เด็กผู้หญิง’ บนเกวียนวัวหนึ่งที และพวกเขาก็นั่งลงบนเกวียนอย่างว่านอนสอนง่ายทันที หน้าอกของเจาตี้กระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด และมีน้ำตาคลออยู่ในดวงตาแต่ก็ไม่กล้าหลั่งออกมา
“เจาตี้ ได้ยินว่าสำนักศึกษาหญิงเปิดรับสมัคร ทำไมเจ้าไม่ไปด้วยเล่า?” เซี่ยอวี้โจวเอ่ยถาม
เจาตี้อยากจะเปิดปากพูด แต่ผู้ใหญ่บ้านก็รีบแย้งตอบทันที “ที่บ้านยังต้องเหลือคนเอาไว้ทำงานบ้านน่ะ ที่บ้านของเจาตี้ได้ส่งพี่สาวมาแล้ว และนี่คือคนที่ย่าของนางส่งมา...” เขาชี้ไปที่ ‘เด็กผู้หญิง’ ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
‘เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ’ คนนั้นส่งยิ้มให้ แต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะกลัวว่าจะถูกจับได้
“แขกอันทรงเกียรติทั้งหลายพักผ่อนให้เต็มที่เลยขอรับ ถ้าจะออกเดินทางก็ออกไปได้ตามสบาย ผู้น้อยขอพาพวกเด็ก ๆ ไปรายงานตัวก่อน” พูดจบเขาก็ลากเกวียนวัวออกไป
พวกลูกสวรรค์ทั้งหลายที่อยู่บนเกวียนวัวก็เดินออกจากหมู่บ้านไปด้วยการเหยียบหัวของเด็กผู้หญิงในหมู่บ้าน
และเพราะกลัวว่าเจาตี้จะพูดอะไรพล่อย ๆ อีกชาวบ้านจึงตะโกนขึ้นว่า “เจาตี้ยังไม่กลับบ้านอีกหรือ ท่านย่าของเจ้ากำลังเรียกหาเจ้าอยู่นะ”
แต่เจาตี้กลับหันไปมองเจาเจา และมองดูกระโปรงสวย ๆ และรองเท้าสีชมพูที่สะอาดสะอ้านคู่นั้น
ชาวบ้านรู้สึกร้อนใจเล็กน้อย จึงจ้องเขม็งนางอย่างแรงหนึ่งที “เจาตี้ ยังไม่รีบกลับไปอีก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...