เข้าสู่ระบบผ่าน

หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1270

มารร้ายในใจกำลังปะทุขึ้นมาแล้ว เขาไม่อาจระงับมันไว้ได้อีกต่อไป

"เจ้าห้ามปรากฏตัวต่อหน้านางเด็ดขาด! ห้าม!” ดวงตาของเขาฉายแววหวาดกลัว เขาไม่อาจให้อาจารย์ทราบถึงความคิดต่ำช้าในใจของตนเป็นอันขาด!

ทว่าทันใดนั้น แสงสีแดงวาบขึ้นมาเบื้องหน้า ทุกอย่างพร่ามัวไปหมด

เขารู้สึกสูญเสียความสามารถในการควบคุมร่างกายของตัวเองทันที เป็นเหมือนเพียงผู้ยืนสังเกตการณ์คนหนึ่งเท่านั้น

จิตมารเข้าครอบงำร่างกายของเขาเสียแล้ว!

เสวียนอวี้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่ รัศมีอันตรายแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก้าวเดินไปที่ลาน เสวียนอวี้ถูกกักขังอยู่ในเบื้องลึก ทำได้เพียงมองจิตมารที่ก้าวเข้าไปในลานเท่านั้น

ลู่เจาเจานอนเอนกายพิงเก้าอี้และโยกไปมา กระโปรงสีเขียวพลิ้วไหวเบาๆ ไปตามลม

เสวียนอวี้ไม่พูดอะไร และเดินตรงไปที่ห้องครัว

ตั้งแต่ภูเขาสัจธรรมเริ่มมีศิษย์ ลู่เจาเจาก็สร้างครัวเล็กๆ บนภูเขา และแน่นอนว่านางทำอาหารไม่เป็น

เป็นเหล่าศิษย์ที่ทำอาหารกินกันเอง

และทำเผื่อให้นางด้วย

หลังจากนั้น ห้องครัวเล็กๆ นั้นก็ว่างเปล่าลงไปตั้งแต่เหล่าศิษย์ต่างฝึกตนด้วยการอดอาหาร จนกระทั่งภายหลัง เมื่อเสวียนอวี้เลิกอดอาหารไปครึ่งปี ห้องครัวเล็กๆ นั้นก็มีเพียงเสวียนอวี้ใช้อยู่คนเดียว

อย่างไรก็ตาม เขาจะทำให้ลู่เจาเจาทานเสียเป็นส่วนใหญ่

“เฮ้ อาจารย์อดอาหารมานานแล้ว ข้าไม่กินหรอก” นางลืมตามองไปยังผู้ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในห้องครัวเล็กๆ แล้วเอ่ยเสียงดัง"

เพียงไม่นาน ภายในบริเวณลานก็มีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่ว

ลู่เจาเจาแอบสูดดมกลิ่นอาหารเบาๆ หอมจัง

จิตมารยืนอยู่หน้าเตา แล้วหยิบสุราเก่าแก่หนึ่งพันปีออกมาจากถุงเก็บของ จนทำให้เสวียนอวี้ตะโกนโหวกเหวกในจิตสำนึกของตนว่า “เจ้าจะทำอะไร สำนักกระบี่ห้ามดื่มเหล้าเด็ดขาด นางไม่ดื่มหรอก!”

“แถมอาจารย์ก็ดื่มไม่เก่งด้วย แค่หยดเดียวก็เมาแล้ว”

จิตมารหัวเราะเยาะออกมา “ต้องลองดูสักตั้งถึงจะได้สาวสวยกลับไปครอบครอง คิดว่าข้าเป็นเหมือนเจ้าหรือ ที่แอบซ่อนตัวใกล้ๆ นางมาสิบกว่าปี แม้แต่มือก็ยังไม่ได้จับเลยสักครั้ง”

“แค่หยดเดียวก็เมา ดีสิ เมาก็ดี”

“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะมอมเหล้านาง นางเป็นถึงปรมาจารย์นักกระบี่ ใครจะมอมเหล้านางได้เล่า นี่คือไวน์ข้าว มันมีกลิ่นหอมหวาน และไม่ทำให้เมา…”

ดวงตาของจิตมารเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แม้จะเป็นสุราข้าว แต่ก็หมักจากธัญพืชทิพย์ ทั้งยังเติมสมุนไพรลงไปอีกมากมาย รสชาติของมันหวานลิ้น แต่เมื่อดื่มเข้าไปแล้วสามารถทำให้เมาได้

เขาทำบัวลอยข้าวหมากเอาไว้มากมาย และยังทำปูดองเหล้า จากนั้นก็จัดขึ้นโต๊ะพร้อมกับของว่าง

“เสวียนอวี้รู้ว่าท่านไม่สนใจเรื่องปากท้อง แต่พรุ่งนี้เสวียนอวี้จะต้องผ่านการทดสอบจิตใจเป็นครั้งที่สอง บางที นี่อาจจะเป็นมื้อสุดท้ายที่เสวียนอวี้จะทำให้ท่านก็ได้"

"ท่านลองชิมดูสิ... ปูดองเหล้าตัวนี้รสชาติหอมหวาน ท่านน่าจะยังไม่เคยกิน" เขาตักบัวลอยข้าวหมากใส่ชามเล็กๆ แล้วส่งให้ลู่เจาเจา

แล้วค่อยๆ แกะเนื้อปูให้นาง

ลู่เจาเจากระแอมเบาๆ “อาจารย์ไม่อยากกิน แต่เห็นเจ้าพูดขนาดนี้แล้ว อาจารย์จะกินหน่อยก็แล้วกัน”

หลังจากที่นางทานไปหนึ่งชาม ก็รู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าว ราวกับว่าร่างกายกำลังร้อนระอุไปทั้งตัว และเมื่อกินปูดองเหล้าไปสองตัว ก็เริ่มมองเห็นเป็นภาพซ้อน

“ร้อนจัง...” นางเช็ดเหงื่อออก ดวงตาที่สดใสบริสุทธิ์เวลานี้กลับเริ่มมึนงงสับสน

ดวงตาเปล่งประกายคล้ายกับจะคลอไปด้วยน้ำตา

“เสวียนอวี้ เจ้าอยู่นิ่งๆ สิ เหตุใดจึงส่ายไปมา...ข้าเวียนหัวไปหมดแล้ว”

เสวียนอวี้ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ จากนั้นก็ก้าวเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ "ท่านเหนื่อยแล้ว ข้าจะพาท่านเข้าไปพัก"

มือทั้งสองของเขาสัมผัสไปที่ไหล่ของนาง ฝ่ามือก็ร้อนผ่าว

เขาค่อยๆ ประคองตัวนางเข้าไป ขณะนี้นางรู้สึกเหมือนอุณหภูมิในห้องร้อนขึ้นเรื่อยๆ

“เจ้าออกไปให้พ้น! ไอ้สารเลว! ออกไปเดี๋ยวนี้! ห้ามทำอะไรไม่สุภาพกับนางนะ!” ในส่วนลึกของจิตสำนึก เสวียนอวี้กำลังตะโกนด้วยความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ดวงตาของจิตมารแสดงความดูถูกเหยียดหยาม

ข้าไม่เหมือนเจ้าเสวียนอวี้คนขี้ขลาด อยากได้ผู้หญิงคนไหนก็ต้องกอดเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ให้เป็นของข้าเพียงผู้เดียว!

เขาเอามือแตะบ่าของลู่เจาเจาเบาๆ และโน้มตัวเข้าใกล้ “ท่านเหนื่อยแล้ว ข้าจะช่วยท่านคลายชุดออกเพื่อพักผ่อน แล้วจะนวดให้ท่านสบายตัวหน่อยดีไหม” มือทั้งสองของเขาสั่น และมีเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผาก มือของเขาบีบนวดที่บ่าของนาง และค่อยๆ ลูบไล้ลงมา

ขณะที่มือของเขาเลื่อนลงมาที่แขน นางก็จับมือของเขาไว้

สาวน้อยขมวดคิ้วมองเขา “พักผ่อนหรือ ข้ารู้สึกว่ายังกระฉับกระเฉงอยู่ ข้ายังไม่อยากพัก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์