“ยังกระฉับกระเฉงอย่างนั้นหรือ อย่างนั้นเรามาเล่นอะไร เพื่อระบายพลังงานหน่อยดีไหม"
เสวียนอวี้เดินเข้ามาประคองมือของลู่เจาเจา
มือของนางไม่เหมือนมือของนักกระบี่เลยสักนิด ทั้งที่เป็นถึงปรมาจารย์นักกระบี่ แต่กลับไม่มีรอยหยาบกร้านเลย ตรงกันข้าม มันช่างนุ่มนวลราวกับปุยฝ้าย
ดวงตาของนางค่อนข้างพร่ามัว จู่ๆ ก็ยิ้มอย่างสดใสออกมา ทำให้เสวียนอวี้ถึงกับมองตาค้าง
“เล่นสนุกหรือ ข้ามีอะไรสนุกๆ อยู่นะ...” ตอนนี้นางสวมเพียงชุดด้านในเท่านั้น ทันทีที่นางยกมือขึ้น กระบี่เจาหยางในมือก็ส่งเสียงหึ่งๆ
เสวียนอวี้ชาไปทั้งตัว เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วมองกระบี่เจาหยางด้วยความหวาดระแวง
“ไปๆๆ…” ลู่เจาเจาบ่นพึมพำ ใบหน้าแดงก่ำ ไม่เหมือนกับเซียนกระบี่เจาหยางผู้เลื่องลือเลยสักนิด
แต่กลับดูเหมือนเด็กสาวน่ารักอ่อนต่อโลกคนหนึ่ง
เมื่อพูดจบ นางก็ดึงเขาออกจากภูเขาสัจธรรมทันทีโดยไม่รอให้เสวียนอวี้ตอบตกลงเลย
ราวกับดาวตกที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า
พริบตาเดียวก็มาถึงประตูสวรรค์ทางทิศใต้แล้ว
เสวียนอวี้มองนางด้วยความตกตะลึง ดูเหมือนเขาจะคาดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้
“อา...อาจารย์ เราลงไปกันเถอะ ไม่ต้องเล่นแล้วก็ได้...” เสวียนอวี้รู้สึกขนลุก ไม่ใช่แล้ว นี่มันไม่ปกติ ใครมันเมาแล้วจะขึ้นมาแดนเทพกันเนี่ย!!
เขาเห็นลู่เจาเจาคว้ากระบี่วิญญาณในมือขึ้นมา ยิ้มกว้าง แสดงท่าทางองอาจผ่าเผยออกมาอย่างชัดเจน
จนเสวียนอวี้สับสนทำอะไรไม่ถูก
"เจ้าเล่นไม่เป็น เดี๋ยวข้าพาเจ้าเล่นเอง!” เขามองดูนางชูกระบี่ชี้ตรงไปที่ประตูสวรรค์หวังจะโค่นล้มทวยเทพประตูสวรรค์ทิศใต้ลงไปกับพื้น
"เจ้า...ไปบอกมหาเทพว่า ข้า...ลู่เจาเจา..."
“มาที่สวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้ว...ข้าจะมานั่งที่บัลลังก์มหาเทพ!
“ให้เขากลัวจนตัวสั่นไปเลย...ฮ่าๆๆๆ...” เมื่อพูดจบแล้ว ก็ยังยืนเท้าสะเอวพร้อมกับหัวเราะอย่างหยิ่งผยอง
เสวียนอวี้กุมขมับ กลืนน้ำลายลงคออย่างแรง ไม่นะ...นางทำแบบนี้มันล่วงละเมิดเกินไป นี่เรื่องปกติหรือ
เสวียนอวี้เริ่มรู้สึกเสียใจ และพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้นางลงไปยังแดนมนุษย์
แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว
ลู่เจาเจาเปลี่ยนไปราวกับคนละคน นางบุกขึ้นมาบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ปั่นป่วนบนแดนเทพจนวุ่นวายไปหมด และขโมยเตาหลอมโอสถแปดทิศของไท่ซ่างเหล่าจวิน แถมยังบอกว่าจะเอาไปต้มไก่กินอีก
ทั้งยังนำรองเท้าปักดอกไม้ไปสวมให้เทพเท้าเปล่า
และบอกว่าต้นท้อไม่ควรออกลูกท้อ แล้วจะแขวนองค์เจ้าแม่ซีหวังหมู่บนต้นท้ออีกด้วย
นอกจากนี้ ยังบุกขึ้นไปบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ไปงีบหลับบนบัลลังก์มังกรของมหาเทพ
ก่อนจะกลับก็ยังดื้อรั้นจะเอาบัลลังก์ไปด้วย เสวียนอวี้ได้แต่มองดูตาปริบๆ ขณะที่นางพยายามงัดบัลลังก์ออกไป ทำให้ทั้งแดนเทพตามไล่ล่า
จิตมารสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ราวกับฟ้ากำลังถล่มทลาย
เขาจึงเข้าใจในทันใด ว่าเหตุใดสำนักกระบี่จึงห้ามดื่มสุรา
สิ่งที่ห้ามมิใช่สุรา
“ขวดแก้วใบนี้ล่ะเจ้าคะเอาอยู่ไหม”
“ผ้าไหมลวดลายงดงามนั่นก็ขอข้าแล้วกันนะ”
“หวีงาประดับไข่มุกดวงจันทร์นั่นไม่เอาแล้วใช่ไหม ข้าไม่ถือสาหรอก ให้ข้าๆ...ให้ข้าหมดเลยนะ เฮ้ๆๆ เสวียนอวี้ ข้ายังไม่ได้เก็บของเลย” ลู่เจาเจากำลังจะไปหยิบสิ่งของด้วยตัวเอง แต่เสวียนอวี้กลับคว้าตัวนางเอาไว้แน่นแล้ววิ่งหนีเตลิดไปทันใด
เสวียนอวี้ตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทั้งที่ก่อนออกจากบ้านเขาเพิ่งอาบน้ำอย่างพิถีพิถันจนตัวหอมฉุย
ก็เพื่อค่ำคืนนี้โดยเฉพาะ!
แต่แล้ว...
นางกลับก่อเรื่องวุ่นวายตลอดทั้งคืน!! สีหน้าของเสวียนอวี้แทบจะแตกสลาย
“จะเก็บอะไรอีกเล่า! ท่านไม่เห็นหรือว่าทั้งคู่กำลังชี้กระบี่มาที่ท่านแล้ว!” เส้นเลือดที่ขมับของเสวียนอวี้เต้นตุบๆ เขาพยายามอ้อนวอนขอร้องให้นางกลับสำนัก
ลู่เจาเจายังคงไม่พอใจและบ่นอุบอิบ
เสวียนอวี้สูดหายใจเข้าลึกๆ เพียงแค่สุราถ้วยเดียว อาจารย์ถึงกับเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว!
หรือนี่เป็นตัวตนที่แท้จริงของนาง
กว่าเสวียนอวี้จะพูดจาเกลี้ยกล่อมให้นางกลับมายังสำนักกระบี่ได้ด้วยความยากลำบาก เมื่อมาถึงก็พบว่าเจ้าสำนักกำลังยืนหน้าบูดบึ้งรออยู่ที่เชิงเขา
“เฮ้! ไอ้แก่นี้มายืนบนภูเขาของข้าทำไมเนี่ย”
“ไปยืนหน้าประตูแม่ม่ายสิ ข้าไม่ใช่แม่ม่ายสักหน่อย...”
“คนโสดก็มีเรื่องวุ่นวายเยอะอยู่แล้ว ไอ้เฒ่า ออกไปเลย...เดี๋ยวกระบี่เจาหยางของข้าจะไม่เกรงใจนะ" นางเอ่ยพลางชำเลืองมองเจ้าสำนัก คำพูดเพียงประโยคเดียวก็ทำให้เจ้าสำนักโกรธจนตัวสั่นเลยทีเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...