เข้าสู่ระบบผ่าน

หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1273

“ไม่มีอะไรที่ข้าไม่กล้ายอมรับหรอก ข้าไม่เหมือนเจ้าหรอกนะที่ชอบนางมาหลายปีแต่ไม่กล้าที่จะเผยความในใจออกมา”

“เจ้าคงไม่ได้หวังแค่ว่าจะคอยอยู่ข้างนาง คอยดูแลนางตลอดกระมัง ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา ถ้าหากว่านางรู้ตัวตนที่แท้จริงของเจ้า นางจะยังให้เจ้าอยู่ที่ภูเขาสัจธรรมอยู่ต่อไปหรือไม่”

“รวมถึงข้าสงสัยว่านางจะมาเอาชีวิตเจ้าด้วยตัวเอง!”

เสวียนอี้ขบกรามแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอดกลั้น “หุบปาก! หุบปาก!”

มารจิตยิ้มเย็น “ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งต่อหน้าข้า เทพกระบี่เจาหยางมีนิสัยอย่างไรข้ารู้ดีกว่าเจ้า! ในเมื่อเจ้าชชอบนาง ไม่สู้ใส่แมลงกู่ใจประสานเข้าไปในตัวนาง พอเพาะวางแมลงกู่ใจประสานแล้ว นางก็พร้อมที่จะตายไปพร้อมกับเจ้า”

“นางจะรักเจ้า พึ่งพาเจ้าตลอดไป ในดวงตาคู่นั้นของนางก็จะมีแต่เจ้า...”

“เจ้าไม่ได้รอคอยชีวิตเช่นนี้อยู่หรือ”

“สายตาที่นางมองเจ้าตอนนี้ เจ้าน่าจะเข้าใจนะ เจ้าเป็นเพียงศิษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ต่างกับพวจงไป๋เลยสักนิด! เจ้าไม่อยากเป็นเพียงคนเดียวของนางหรือ”

“เสวียนอวี้ เจ้าจะต้องลงแรงถึงจะได้คนงามกลับมา”

“เจ้าไม่อยากมีชีวิตเคียงคู่กับนางไปทุกวันหรือ เจ้าไม่อยากให้นางสวมชุดแต่งงานและให้นางแสดงด้านของสาวน้อยให้เจ้าเห็นเพียงคนเดียวหรือ เสวียนอวี้ เจ้าไม่อยากจริงๆ หรือ เจ้าสลายกระดูกมารในตัวเจ้าและบำเพ็ญตนใหม่อีกครั้ง เจ้าจ่ายไปมากแค่ไหนกัน”

“นางไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเจ้า ขอแค่เจ้ายินยอมก็สามารถเพาะแมลงกู่ใจประสานใส่นางได้!”

เสวียนอวี้คุกเข่ากับพื้นและสะบัดศีรษะไปมา “ข้าไม่ต้องการ”

“เดิมที่นางควรอยู่ในปรภพและทำให้สรรพสิ่งเงยหน้าขึ้นไป ข้าไม่สามารถเห็นแก่ตัวซ่อนนางเอาไว้ข้างหลัง...ความรักคือความยับยั้งชั่งใจ...” เขาส่ายศีรษะราวกับกำลังชะล้างมัน และกลัวอย่างสุดหัวใจว่าตัวเองจะทำผิดครั้งใหญ่

มารจิตคุมสีหน้าไว้ไม่อยู่ “ท่าทางของเจ้าตอนนี้ทำให้ใครดูกัน การมีอยู่ของข้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าไม่มีทางไม่เข้าใจ!”

“ความยับยั้งชั่งใจงั้นหรือ เจ้ามีความคิดที่ไม่ซื่อตรงกับนาง มีใจคิดสกปรก เจ้ายับยั้งชั่งใจได้งั้นหรือ”

“พรุ่งนี้ฟ้าสาง เจ้าสำนักจะถามถึงความในใจที่แท้จริงของเจ้าต่อหน้ากระบี่บรรพบุรุษ”

“ว่ากันว่ากระจกแห่งจิตใจสามารถมองเห็นารในใจได้ เจ้ากล้าที่จะเผยความในใจของเจ้าต่อหน้ากระบี่บรรพบุรุษทั้งหมดหรือไม่ ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา เจ้ากล้าหรือไม่” มารจิตค้อมกายลงมาเล็กน้อยและมองดูเขา

“ต่อให้เจ้าไม่ลงมือวันนี้ วันพรุ่งนี้มันก็จะหลุดออกหน้าต่อหน้ากระบี่บรรพบุรุษ เจ้านึกว่าเจ้าจะอยู่ที่ภูเขาสัจธรรมได้อีกหรือ”

“เกรงว่าแม้แต่คนที่จะปกป้องเจ้าคนนั้นก็จะกลายเป็นตัวตลกของทั้งสามภพ!”

“ดวงตาของทุกคนจะแสดงความคิดของตัวเองออกมา นางกลายเป็นตัวตลกของทั้งสามภพ แล้วเจ้าล่ะ ละทิ้งการบำเพ็ญตนและถูกขับไล่ออกจากสำนัก นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการงั้นหรือ เสวี่ยนอวี้ เจ้าลองคิดดูดีๆ”

“ตอนนี้นางยังหมดสติอยู่ ถ้าหากเจ้าเพาะแมลงกู่ใจประสานกับนาง เรื่องทุกอย่างยังคงทันเวลา...”

เสวียนอี้คุกเข่าทั้งสองข้างกับพื้นและก้มหน้าลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“ทั้งหมดที่เจ้าทำ ทุกอย่างที่เจ้าลงแรงไปจะมีประโยชน์อะไร นางไม่มีทางได้รู้ตลอดไป!”

เงื่อผุดเต็มศีรษะขอเสวียนอวี้ ผมของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ของมีคมในมือของเขาสั่นสะเทือน

เลือดไหลออกมาจากหน้าอกของเขาอย่างควบคุมไม่ได้

เขาหายใจไม่ออก ร่างทั้งร่างของเขาสั่นสะท้านไปด้วยความเจ็บปวด ฟันของเขาขบกันแน่นเสียจนกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างหดเกร็ง และไม่กล้าที่จะคลายมันเลยแม้แต่นิดเดียว

ความโหดร้ายในดวงตาของเขาแผ่ออกมา

“ข้าจะเอาเจ้าออกไป จะทำร้ายนางไม่ได้! ไม่ว่าใครก็จะทำร้ายนางไม่ได้!” แม้ว่าจะเป็นตัวเขาเอง!

“คุ้มค่า ทั้งหมดล้วนคุ้มค่า!” เขาไม่สามารถทนเห็นคนทั้งโลกหัวเราะเยาลู่เจาเจาได้ ไม่สามารถทนเห็นเหล่าเซียนหัวเราะเยาะนางได้ เข้าจะให้อาจารย์ได้รับความอับอายไม่ได้!

“เป็นข้าทีเกิดความคิดอันไม่สมควร ข้าจะยอมรับมันเอง! นางไม่ควรลำบากเพราะความเห็นแก่ตัวของข้า นางไม่รู้อะไรด้วย!” อาจารย์มองเขามากสักหน่อยก็เพียงพอที่จะทำให้เขารู้สึกปีติในใจได้นานแล้ว

เขาไม่ควรหวังมากเกินไป เป็นเขาที่ผิด

ร่างของมารจิตกำลังพังลง มันมองมาที่เขาด้วยความหวาดกลัวและสยดสยอง

“เจ้ามันบ้า!! เจ้าทำร้ายตัวเองจนบาดเจ็บไปทั่วร่างเพียงเพื่อให้นางมองเจ้าสักนิด ฮา ฮา ฮา ฮา...เจ้ามันเป็นคนบ้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์