ลู่เจาเจายืนอยู่มุมห้อง หัวเราะออกมาเสียงเบาๆ
กลับถึงที่พัก นางนอนลงบนเตียง
แม้ว่าเสียงดอกไม้ไฟจะดังกึกก้องตลอดทั้งคืน แต่นางก็หลับสบาย เมื่อได้ยินเสียงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน
จู๋มั่วล้มตัวลงนอนข้างหลุมศพ กอดป้ายสุสานไว้เเน่น
ขวดเหล้ากลิ้งไปมาดังกึกก้อง สายตาเขามองไปยังหลุมศพด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“อาอู๋ ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน...”
“เดิมที วันนี้ควรเป็นวันที่พวกเราสามคนอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา”
เขาเสียใจมาก เสียใจที่ไม่ได้ตัดสินใจเลือกอาอู๋
“ก็ไม่รู้ว่าลูกของพวกเรา จะเหมือนเจ้าหรือเหมือน...ข้า” ตอนนี้ ทั้งภรรยาเเละลูกของเขา ต้องนอนอยู่ในหลุมศพอย่างโดดเดี่ยว
ทุกอย่างเป็นความผิดของเขาเอง เขาต้องใช้เวลาทั้งชีวิตชดใช้
เขาไม่เคยแม้กระทั่งได้เห็นหน้าลูกของเขาเลย ไม่รู้ว่าเป็นลูกชายหรือลูกสาว
ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงเจ้าหงส์ตัวน้อยที่ทะยานบินอยู่บนท้องฟ้าเมื่อคืนนี้ คงจะน่ารักน่าเอ็นดูไม่เเพ้ลูกของเขา
ในสมองของจู๋มั่วรู้สึกมึนงง เพราะเหล้าที่ลู่เจาเจาให้เขามานั้น มีฤทธิ์เเรงมาก
ดื่มกานี้ลงไป เมาไม่รู้เรื่องไปตั้งนานแล้ว
ในความฝัน จู๋มั่วคล้ายกับเห็นมังกรทองตัวใหญ่กับหงส์ทองตัวน้อยล้อมรอบตัวเขา
เขาเเทบจมอยู่ในความฝันไปตลอดกาล
เมื่อรุ่งอรุณมา
ความฝันสลายไป จู๋มั่วลืมตาตื่น
ใจก็ว่างเปล่า ราวกับขาดอะไรไป
วันที่สิบเเปดเดือนเเรก ฮ่องเต้ตงหลิงได้อภิเษกสมรส
เซวียนจี้ชวนอ๋องตงหลิง ได้จัดงานเลี้ยงเชิญขุนนางเเขกเหรื่อจากนาๆประเทศ
เนื่องจากฮ่องเต้เซวียนผิงเเห่งเป่ยเจามีภารกิจทางราชการ จึงส่งลู่เยี่ยนซูไปเป็นทูตที่ตงหลิง
ทางด้านเเคว้นใต้ได้ส่งแม่ทัพโหลวโหลวจิ่นถัง โดยจิ่นถังเติบโตเป็นสาวงามเเล้ว เเละด้วยฝีมือดาบที่ได้รับการถ่ายทอดจากลู่เจาเจา ทำให้นางสามารถปกป้องพรมแดนได้อย่างเเข็งเเกร่ง
หญิงสาวมีรูปร่างเพรียวบาง เเต่ดวงตาทั้งคู่กลับคมกริบ ราวกับดาบเล่มหนึ่ง
“คารวะฝ่าบาท” ทูตจากเเคว้นใต้เห็นจักรพรรดิ์หญิงที่คิดถึงอยู่ตลอดเวลา จึงได้แสดงความเคารพ
“ฝ่าบาท ข้าราชบริพารคิดถึงพระองค์มาก ขอพระองค์เสด็จกลับไปเยี่ยมเยียนพสกนิกรโดยเร็ว” โหลวจิ่นถังดวงตาเเดงก่ำ เพราะลู่เจาเจาไม่เพียงเเต่เป็นกษัตริย์ เเต่ยังเป็นเหมือนครูและเพื่อนด้วย
“หม่อมฉันทรงเห็นว่า ตอนนี้พระองค์ทรงสามารถบริหารราชการเเผ่นดินได้เเล้ว เหตุใดจึงต้องรอจนถึงบรรลุนิติภาวะ จึงเสด็จกลับไปครองราชย์ด้วยเล่า ประเทศชาติจะขาดพระองค์ไม่ได้ ทุกคนคิดถึงท่าน…” แม่ทัพโหลวกล่าวด้วยความจริงใจ
ลู่เยี่ยนซูเป็นผู้สำเร็จราชการแทนมาสองปี ทำให้เเคว้นใต้สามารถดำเนินต่อไปได้ จนกว่าลู่เจาเจาจะบรรลุนิติภาวะ
ลู่เจาเจาตกใจจนถอยหลังไปสองก้าว “ถอย!ถอย!ถอย!”
ตัวของลู่เยี่ยนซูมีกลิ่นหอมอ่อนๆของสมุนไพร คนธรรมดาที่ไม่มีกำลังวังชา กลับทำให้นางรู้สึกสงบ
ดูเหมือนมีพลังที่ทำให้คนสบายใจ
เขาอุ้มลู่เจาเจาเข้าไปในห้อง ลู่เจาเจาเหมือนกับหมีโคอาล่าเกาะเเขนเขาเหมือนเกาะต้นไม้
“คุณชายใหญ่ ให้ข้าน้อยอุ้มเถอะ? องค์หญิงน้อยวันนี้หกขวบครึ่งเเล้ว ท่านอุ้มเกรงจะเมื่อย” ลูกน้องก้าวไปข้างหน้าพูด
ลู่เยี่ยนซูส่ายหน้า “เจาเจายังเด็กอยู่ ไม่เป็นไร”
“อีกอย่าง ตั้งเเต่เล็กจนโตนางก็เติบโตมาในอ้อมกอดของข้า” ในดวงตาของลู่เยี่ยนซูเป็นประกาย
เมื่อก่อนขาทั้งคู่พิการ ไม่ค่อยอยากพบปะผู้คน จมอยู่กับความสิ้นหวัง...
เจาเจาเป็นเหมือนแสงสว่างที่ส่องสว่างชีวิตของเขา
การอุ้มน้องสาว เหมือนกับการอุ้มทั้งโลกไว้ในอ้อมกอด
ทันทีที่ซ่านซ่านเข้ามาในบ้าน ก็เห็นพี่ชายกำลังอุ้มเจาเจาเเละยิ้มอย่างมีความสุข
เขาเดินมาอย่างช้าๆ เเล้วมองไปที่ลู่เยี่ยนซู
ไม่รู้ทำไม เขาจึงรู้สึกว่าตัวเองไม่เข้ากับครอบครัวนี้
เมื่อเห็นลู่เจาเจา เขารู้สึกกลัวอย่างลึกซึ้ง ราวกับกลัวมาเเต่เกิด
เมื่อเห็นพี่ชาย ขาทั้งคู่ของเขาก็จะสั่น ทั้งๆที่พี่ชายเป็นเเค่คนธรรมดา เเต่เขากลับรู้สึกไม่สบายใจเวลาอยู่ต่อหน้าเขาเสมอ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ให้อ่านนะคะ...
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...