เเต่เเล้วก็หายไปในพริบตา
ลู่เจาเจาอดนั่งตัวตรงไม่ได้
พิธีบวงสรวงฟ้าดินเป็นพิธีที่ยืดยาว ลู่เจาเจาที่กินโจ๊กไปไม่กี่คำตอนเช้า ตอนนี้เริ่มหิวโซเเล้ว จึงตามเหล่าขุนนางเข้าไปในรับรอง
วังหลังของตงหลิงว่างเปล่า ไม่มีนางสนม กฏเกณฑ์จึงไม่เข้มงวด
ลู่เจาเจาหลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยง ก็เดินออกไปยังหอดูดาว
ระหว่างทาง เห็นเหล่าสาวใช้เเต่งตัวสวยงาม แอบมองฮ่องเต้ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและอิจฉา
หากอ๋องตงหลิงไม่ทรงมีพระทัยหวั่นไหวต่อสตรีใด ก็คงจะไม่มีใครต้องมาทุกข์ใจเเละทุกคนก็จะอยู่กันอย่างสงบสุข
แต่แล้วก็มีคนสามารถเข้ามาถึงพระราชหฤทัยของฝ่าบาท กระทั่ง…ได้รับการเเต่งตั้งเป็นฮองเฮา!
ทำให้คนอื่นๆต่างอิจฉาริษยาเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น ฮองเฮาไม่มีทั้งตระกูลและฐานะใดๆ เป็นเพียงเเค่ชาวนาธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น และตั้งเเต่รู้จักกันจนกระทั่งเเต่งงานก็ใช้เวลาเพียงเเค่ไม่กี่เดือน ซึ่งเร็วเกินกว่าจะน่าเชื่อ
เมื่อลู่เจาเจามาถึงหอดูดาว ภายในหอดูดาวขุดสระบัว
ดอกบัวที่บานสะพรั่งอยู่เต็มสระนั้นก็คือดอกบัวที่นางเคยเลี้ยงดูมาตั้งเเต่เด็ก
“
“ดอกบัวที่ไม่มีจิตใจและวิญญาณกลับดูมีความสุขอย่างประหลาด กลิ่นของดอกบัวสีขาวก็หอมอบอวลราวกับรู้ว่าวันนี้เป็นวันมงคลสมรสของฮ่องเต้เเละฮองเฮา” บ่าวไพร่ที่อยู่ข้างๆอดพูดชื่นชมไม่ได้
ลู่เจาเจาเหลือบมอง ข้างในนั้นมีกลิ่นของไป๋เหอฮัว
ภายในห้องบรรทมมีบ่าวไพร่คอยปรนิบัติเพียงไม่กี่คน ลู่เจาเจาจึงให้ทุกคนออกไปจากห้อง
เหล่าสาวใช้ในวังถอยออกไปข้างนอก แล้วปิดประตูตำหนักลง
ไป๋เหอฮัวที่สวมผ้าคลุมศรีษะสีแดงนั่งอยู่บนเตียง ลู่เจาเจาถอนหายใจเบาๆ “ละทิ้งอายุขัยอันยาวนาน พลังวิเศษเเละอิสรภาพ เพื่อมาอยู่ในพระราชวังเล็กๆแห่งนี้ เเละกลายเป็นสตรีที่อ่อนแอไร้กำลัง เพื่อให้ได้มาซึ่งความรักเพียงเล็กน้อย เจ้าไม่เสียใจจริงๆหรือ”
ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเตียงนิ่งไปครู่หนึ่ง กำชายเสื้อเเน่น
“เทพกระบี่ ข้ารอคอยเขามาตลอด”
“รอคอยเขาทำตามสัญญาที่ว่าจะเเต่งงานกับข้า”
“ชาติที่เเล้วเขาให้ความสุขแก่ข้าไม่ได้ ดังนั้นชาตินี้ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคใดๆ ข้าก็จะลองดู…”
“ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยขวากหนาม หรือโรยด้วยกุหลาบ เหอฮัวจะเดินไปด้วยตัวเอง”
“เเค่รู้สึกละอายใจกับคำสอนหลายปีของเทพกระปี่ ทำให้เทพกระบี่ผิดหวัง”
ลู่เจาเจาส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าบำเพ็ญเพียรมาพันปี ที่ต้องละอายไม่ใช่กับข้า เเต่เป็นตัวเจ้าเอง”
ไป๋เหอฮัวเงียบ ภายใต้ผ้าคลุมศรีษะสีแดงของนาง เห็นสีหน้านางไม่ชัด
“ขอบคุณเทพกระบี่ที่ช่วยพูดต่อหน้าฝ่าบาทแทนข้า ให้ย้ายสระบัวมาในวัง…” ไป๋เหอฮัวยืนขึ้น และโค้งคำนับลู่เจาเจา
ลู่เจาเจามองไปนอกหน้าต่างเห็นดอกบัวสั่นไหว
“ฝ่าบาท! ในหมู่บ้านมีข่าวลือว่า มีคนเห็นนางเดินออกมาจากในดอกบัวกับตา! นางคือปีศาจ!”
“ฝ่าบาท ต้องเชื่อหม่อมฉันนะเพคะ!”
“พระองค์ไม่เชื่อหม่อมฉัน ก็ต้องเชื่อผู้วิเศษ! ผู้วิเศษปฏิบัติธรรมมาเป็นเวลานาน ย่อมต้องมองเห็นธาตุแท้ของนางได้!” ในดวงตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร มองไป๋เหอฮัวที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง ก็ยิ่งเกลียดจนกัดฟันกรอด
เซวียนจี้ชวนใบหน้านิ่งเฉย เขาเดินไปข้างหน้าทีละก้าว
“ฝ่าบาท ไม่ได้นะพะยะค่ะ!” เหล่าขุนนางพยายามขัดขวาง แต่เซวียนจี้ชวนต้องการเข้าใกล้ซะอย่าง ใครกล้าขัดขวาง
“เจ้าคือปีศาจหรือ” เขาจ้องไปที่หญิงสาวที่สวมชุดแต่งงานตรงหน้า นางยังคงคลุมด้วยผ้าคลุมศรีษะสีเเดง รอคอยเขามาเปิดออก
“เหอฮัวไม่ใช่” ไป๋เหอฮัวพูดเบาๆ
เซวียนจี้ชวนหันไปมองทุกคน “นางบอกว่าไม่ใช่ งั้นก็ไม่ใช่! ถอยออกไปเถอะ!”
เหล่าขุนนางมองหน้ากัน แล้วทั้งหมดก็คุกเข่าลงบนพื้น “ฝ่าบาท มิสู้ให้ผู้วิเศษดู ไม่อย่างนั้น กระหม่อมไม่กล้าลุกขึ้น”
“ฮองเฮา หากท่านเป็นมนุษย์ หัวของกระหม่อม ท่านจะฆ่าจะบั่น กระหม่อมจะไม่ลังเลเลย!”
“เเต่รากฐานพันปีของตงหลิง จะมาให้เกิดเรื่องวุ่นวายไม่ได้!”
“ขอฝ่าบาท ฮองเฮาโปรดอภัยด้วย”
เซวียนจี้ชวนหน้าเขียวคล้ำ เขายืนข้างหน้าไป๋เหอฮัว ปกป้องนางอย่างเห็นได้ชัด

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...