เข้าสู่ระบบผ่าน

หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1318

ไป๋เหอฮัวเอื้อมมือเย็นเฉียบไปจับมือเขาเบาๆ “เหอฮัวไม่ได้ทำผิดอะไร หม่อมฉันไม่กลัว ให้ผู้วิเศษมาตรวจสอบได้!”

น้ำเสียงของนางเย็นชา เเต่หนักแน่น

ข้าราชการทั้งบุ๋นและบู๊คุกเข่าแทบเท้าของเซวียนจี้ชวน

บรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยความยินดีเมื่อครั้งที่ฮ่องเต้ฮองเฮาทำพิธีบูชาฟ้าดินในตอนกลางวันได้หายไปหมดแล้ว

ฮองเฮาที่ทุกคนรอคอยมานานหลายปี จะเป็นปีศาจไปไม่ได้นะ!

ตงหลิงต้องเผชิญกับความวุ่นวายมานานหลายปี ทุกวันนี้สามารถฟื้นฟูระเบียบราชการได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี เรื่องเดียวที่ยังเป็นห่วงคือ ฝ่าบาทยังไม่มีมเหสีและพระโอรส

เรื่องนี้ห้ามมีอะไรผิดพลาดแม้เเต่น้อย

มิฉะนั้น ตงหลิงจะต้องล้มเหลวทั้งหมด!

“หลังจากเรื่องนี้จบ เชิญฮองเฮาลงโทษได้ตามอัธยาศัย” เหล่าขุนนางทั้งมวลไม่ยอมลุกขึ้น คุกเข่าเรียงรายอยู่หน้าประตูตำหนัก

มีขุนนางสูงวัยหลายคนถึงกับหน้าซีดเผือดกลัวตาย กลัวว่าฝ่าบาทจะดื้อรั้นทำตามอำเภอใจ

เซวียนจี้ชวนสีหน้าไม่ดี มองไปรอบๆด้วยสายตาเย็นชา

หญิงสาวที่อยู่ข้างหลังเขา มือประสานกับมือเขา “เหอฮัวไม่กลัวเพคะ ฝ่าบาทไม่ต้องกังวล หากสามารถทำให้ประชาชนสงบสุขได้ เหอฮัวลำบากหน่อยก็ไม่เป็นไร หวังว่าทุกท่านจะสบายใจ”

คำพูดนี้ ทำให้ขุนนางทุกคนสีหน้าอ่อนลงไป แม้จะเกิดในครอบครัวชาวนา เเต่ก็มีสติปัญญาที่ดี

หญิงสาวที่กล่าวหาไป๋เหอฮัวเเต่งตัวอย่างหรูหรา ดวงตาทั้งคู่มองไปที่เซวียนจี้ชวนอย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก เซววียนจี้ชวนอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ และเผยให้เห็นความรังเกียจ

“ปีศาจ หยุดยั่วยวนทุกคน!” หญิงสาวทั้งโกรธทั้งเเค้น ชี้ไปที่ไป๋เหอฮัวด้วยใบหน้าที่เเค้นเคือง

ครอบครัวของไทเฮาถูกเนรเทศออกไปจากเมืองหลวง เดิมทีนางเป็นคนที่ได้รับการคาดหวังว่าจะได้เป็นฮองเฮาที่สุด!

ทว่าไป๋เหอฮัวกลับปรากฏตัวขึ้นกลางคัน นางเป็นใคร กล้ามาแย่งฝ่าบาทกับตัวเอง!

“อัครเสนาบดีหลิน ท่านรู้เรื่องที่ธิดาของท่านกล่าวหาหรือไม่” เซวียนจี้ชวนหันไปถามชายชราที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้า

อัครมหาเสนาบดีหลินเป็นขุนนางผู้ใหญ่สองรัชสมัย เขาได้รับความเคารพสูงสุดในราชสำนัก เซวียนจี้ชวนก็เคารพเขาเช่นกัน

อัครมหาเสนาบดีกลหนชำเลืองมองไปที่บุตรสาวที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

นี่คือธิดาคนเล็กของเขา

ตั้งเเต่เล็กก็หลงใหลในตัวฝ่าบาท ไม่ว่าอย่างไรก็พยายามจะเข้าใกล้ฝ่าบาท

พูดตามความรู้สึกส่วนตัว ฝ่าบาททรงใช้กำลังสงบศึกและยุติความวุ่นวายในตงหลิงมานานหลายปี แต่ก็ทรงเมตตาปรานีต่อราษฏรเป็นอย่างมาก ทรงเป็นฝ่าบาทที่ดีองค์หนึ่ง

แต่ไม่ใช่พระสวามีที่ดีเเน่นอน

เเต่บุตรสาวกลับหลงรักฝ่าบาท เขากลับทำอะไรไม่ได้ เคยพูดเรื่องแต่งงานของนางหลายครั้ง แต่กลับอดอาหารประท้วงเพื่อแสดงความมุ่งมั่น

ครั้งนี้งานอภิเษกของฮ่องเต้เเละฮองเฮา เขาตั้งใจขังบุตรสาวไว้ในจวน

ทว่าไม่คิดว่า สระบัวทั้งหมดสะอาดหมดจด และถูกย้ายเข้าไปในวังนานเเล้ว

ไป๋เหอฮัวเข้ามาในวังอย่างรุ่งโรจน์ นางโกรธจนกัดฟันของนางกรอดๆ

“เรื่องนี้เป็นความคิดของข้าเองที่เสนอฝ่าบาท ให้ทรงย้ายสระบัวมาไว้ที่หอดูดาว ไม่เกี่ยวกับฮองเฮาเลย” ลู่เจาเจายืนขึ้น พูดเสียงเบา

ไป๋เหอฮัวโค้งคำนับเล็กน้อยให้ลู่เจาเจา “ขอบพระทัยองค์หญิงเจาหยางที่ช่วยชี้เเจง”

“เจ้าอย่าได้คิดหลบหนีสายตาที่แหลมคมของอาตมา! เจ้าเป็นปีศาจ หากเจ้าอภิเษกกับฝ่าบาท ต้องส่งผลกระทบต่อชะตากรรมของแคว้นตงหลิงไปเป็นเวลาร้อยปีเป็นเเน่!”

“จะส่งผลกระทบต่อร่างมังกรของฝ่าบาท อาตมาจะไม่ยอมให้เจ้าทำร้ายผู้คน!”

“นกศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้อาตมาได้มาโดยบังเอิญ หากเจ้าทำร้ายผู้อื่น บนร่างกายของเจ้าก็ย่อมมีพลังของความแค้นติดอยู่ นกศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้จะจิกกินเจ้าเข้าไป!” เขายกมือขึ้นโบกทีหนึ่ง นกอินทรีก็บินวนลงมาจากท้องฟ้า ปีกกางออกจนเกือบบดบังเเสงอาทิตย์

ดวงตาของนกอินทรีราวกับคบเพลิง สายตาอันเเหลมคมกวาดมองไปรอบๆที่เกิดเหตุ

บนตัวของนกอินทรีมีอักษรสันสกฤตเขียนอยู่เบาๆ ราวกับมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่เต็มเปี่ยม

“นี่คือ…” ขุนนางคนหนึ่งชี้ไปที่นกอินทรี และพูดด้วยความสงสัย

ผู้วิเศษเชิดคางเล็กน้อย “พระพุทธเจ้าเคยเลี้ยงนกอินทรีด้วยร่างกายของพระองค์มาก่อน นกอินทรีตัวนี้คือลูกหลานของนกอินทรีตัวนั้น”

“พวกมันสืบทอดสายเลือดมาจากพระพุทธเจ้าในการปราบปีศาจ ไม่มีใครสามารถหลบเลี่ยงสายตาของพวกมันไปได้”

เขาผิวปาก นกอินทรีก็กางปีกบินตรงไปหาไป๋เหอฮัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์