เข้าสู่ระบบผ่าน

หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1319

“อ๊าก!” เหล่าข้าราชบริพารที่อยู่ไม่ไกลนักต่างล้มลงด้วยความตกใจกลัว

ไป๋เหอฮัวยืดตัวตรง สายลมจากปีกที่กางออกเบา ๆ พัดผ้าคลุมใบหน้าของนางขึ้นเล็กน้อย แต่ทว่าสีหน้าของนางยังคงสงบนิ่งไม่ไหวติง

เซวียนจี้ชวนสูดหายใจเข้าลึก ในมือจับกระบี่เอาไว้แน่นตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้

พญาอินทรีตัวใหญ่บินวนอยู่เหนือศีรษะของนาง พรางส่งเสียงร้องที่ดังขึ้น

“หากมือชั่วร้ายคู่นี้เคยคร่าชีวิตของผู้ใด จะต้องถูกพญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์ฉีกกระชากออกเป็นชิ้น ๆ!” ผู้เฒ่าทรงคุณธรรมสงบนิ่ง

เมื่อสิ้นเสียง ก็มีเสียงหัวเราะดังก้องอยู่กลางอากาศ

พญาอินทรีบินโฉบเฉี่ยวไปมา ลมใต้ปีกของมันทำให้ชายกระโปรงของเด็กสาวพลิ้วไหว นางยืนอยู่กลางลาน โดยมีผ้าคลุมหน้าสีแดงปกคลุมศีรษะ นางยกมือขึ้นอย่างแผ่วเบา

พญาอินทรีที่บินอยู่กลางอากาศ ร่อนลงมาบนแขนของนาง

มันถูไถแขนของนางด้วยท่าทางสนิทสนม ท่าทางเต็มไปด้วยความไว้ใจ

“เจ้า!” ผู้เฒ่าทรงคุณธรรมตกใจเป็นอย่างมาก ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้!

“เจ้า...ดี ดี ดี ข้าคงประเมินเจ้าต่ำเกินไป เจ้าบำเพ็ญเพียรนานหลายพันปี แต่มือกลับใสสะอาดปราศจากเลือดสักหยด ปีศาจอย่างเจ้าพบเห็นได้น้อยยิ่งนัก!“

”ในเมื่อเจ้ามีจิตใจอ่อนโยน แล้วเหตุใดต้องปลอมแปลงเป็นมนุษย์เข้ามาในวังหลวงเล่า!”

“คนและปีศาจมีวิถีที่ต่างกัน เจ้าอย่าได้ทำลายการบำเพ็ญเพียรเป็นพัน ๆ ปีของตัวเองเลย!” ผู้เฒ่าทรงคุณธรรมกล่าวด้วยความสงสัย สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจที่สุดก็คือ พญาอินทรีตัวนั้นไม่ยอมสนใจใคร แต่กลับชื่นชอบปีศาจดอกบัวตนนี้ยิ่งนัก

ไป๋เหอฮัวเพียงยกมือขึ้น พญาอินทรีก็พลันบินจากไปอย่างง่ายดาย

“ผู้เฒ่าทรงคุณธรรมหยอกล้อข้าเกินไปแล้ว แม้เหอฮัวจะไร้บิดามารดา แต่หาได้เป็นปีศาจไม่”

“ผู้เฒ่าทรงคุณธรรม พูดกับนางไปก็เสียเวลาเปล่า จัดการร่างจริงของนางเสียเถิด!”

“นางเป็นปีศาจดอกบัว หากสิ้นร่างจริงก็จะต้องตายอย่างแน่นอน!”

“ฝ่าบาท หม่อมฉันขอถวายชีวิตเพื่อเผาทำลายบ่อบัว สังหารปีศาจตัวนี้เสีย!” หลินจิ่งจือต้องไป๋เหอฮัวด้วยสายตาเคียดแค้น เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ยังคงยืนอยู่ข้างนาง นางก็ยิ่งรู้สึกริษยา

นางคุกเข่าลงและก้มกราบด้วยน้ำตา “ฝ่าบาท หม่อมฉันมีพยาน เหล่าชาวบ้านสามารถยืนยันได้ พวกเขาเห็นกับตาว่านางเดินออกมาจากดอกบัว ฝ่าบาทได้โปรดตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนด้วย!”

“หม่อมฉันทำเพื่อชะตากรรมของตงหลิงในภายภาคหน้า และกังวลเรื่องความปลอดภัยของฝ่าบาทด้วย!”

ไป๋เหอฮัวบีบมือฮ่องเต้เบา ๆ เซวียนจี้ชวนเอ่ยขึ้น “นำตัวพยานมา”

หลินจิ่งจือมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ

เหล่าข้าราชบริพารนำตัวชายที่เนื้อตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัวเข้ามา พร้อมกับหญิงชราคนหนึ่ง

ทันทีที่เข้ามา หญิงชราก็ชี้ไปที่ไป๋เหอฮัว

“ฝ่าบาท ข้าขอยืนยันว่าไป๋เหอฮัวเป็นปีศาจ!”

”ลูกชายของข้าเคยเห็นนางเดินออกมาจากดอกบัว ลูกชายของข้าตกใจจนเสียสติไปเลย! ฝ่าบาท ขอให้ท่านตัดสินด้วยความยุติธรรม…” หญิงชราร้องไห้คร่ำครวญและชี้ไปที่ไป๋เหอฮัวด้วยความหวาดกลัว

“โกหก!”

“นางใส่ร้ายลูกข้า!” พ่อแม่บุญธรรมของไป๋เหอฮัวที่มีเหล่าข้าราชบริพารคอยช่วยประคองอยู่รีบเดินเข้ามา

“อย่าทำเช่นนั้นเลย อย่าได้ทำเช่นนั้น”

“ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ฝ่าบาทไม่เคยเชื่อคำพูดของผู้อื่น แต่ฝ่าบาทจำเป็นต้องทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น ท่านทั้งสองโปรดใจเย็นลงก่อน”

พ่อแม่บุญธรรมของไป๋เหอฮัวปาดน้ำตา “ให้คนอื่นมากล่าวหาลูกสาวข้าได้ตามอำเภอใจ เพราะเห็นว่าเรานั้นไร้ศักดิ์ ไร้อำนาจ ใครๆ ก็สามารถเหยียบย่ำเราได้ไม่ใช่หรือ!”

เซวียนจี้ชวนทอดถอนใจ ก่อนจะจูงมือไป๋เหอฮัวให้เดินมาข้างหน้า

จากนั้นจึงกล่าวกับพ่อแม่บุญธรรมของไป๋เหอฮัว “วันนี้เป็นความผิดของข้าเอง ที่ไม่สามารถปกป้องเหอฮัวได้ ทำให้นางถูกผู้คนดูหมิ่นและสงสัย”

“ข้าสัญญาว่าต่อจากนี้ไป จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”

“ในชาตินี้ ข้าเซวียนจี้ชวน ขอมีภรรยาเพียงคนเดียว จะไม่มีสตรีอื่นใดอีกนับจากนี้”

ทุกคนในงานต่างตกตะลึง

หลินจิ่งจือกระทืบเท้าด้วยความโมโห ดวงตาทั้งสองแดงก่ำ นางจ้องไปที่ไป๋เหอฮัวอย่างริษยา

พ่อแม่บุญธรรมของไป๋เหอฮัวหัวใจสั่นไหว

เพราะนับแต่โบราณมาแล้ว ราชวงศ์มักจะภาคภูมิที่มีพระชายาและสนมมากมาย

ไม่เคยมีฮ่องเต้องค์ใดที่มีภรรยาเพียงคนเดียวมาก่อน

แม้แต่บิดาของเซวียนจี้ชวน ฮ่องเต้แห่งตงหลิง ก็ยังมีบันทึกไว้ว่าเขาเคยมีพระสนมหลายสิบคนในวัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์