จู๋มั่วขี่ม้าไปพลางหันกลับมามองอยู่เป็นระยะ ๆ
“อาอู๋บอกว่าชอบที่นี่ อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกัน” อาหมานเอ่ยด้วยแววตาแดงก่ำ เขากอดเสื้อของอาอู๋เอาไว้
จู๋มั่วก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไร
การเดินทางกลับบ้านครั้งนี้ใช้เวลาน้อยกว่าตอนมาเกือบครึ่งหนึ่ง พวกเขาต่างรีบเดินทางแม้ในยามค่ำคืน
เมื่อถึงบ้าน ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว
แต่ไฟบ้านตระกูลลู่กลับยังเปิดสว่าง หรงเช่อและสวี่สืออวิ๋นกำลังสวมเสื้อคลุมตัวหนารออยู่ที่ประตู
“ฮูหยิน ท่านเข้าไปพักก่อนเถิด อากาศตอนกลางคืนเย็นนัก ระวังจะไม่สบาย” เติงจือเอ่ยเตือนอย่างอ่อนโยน
สวี่สืออวิ๋นส่ายหน้า “อย่ามาว่าให้ข้าเลย เจ้าเองก็รออยู่ตรงนี้ตั้งแต่เที่ยงแล้ว”
เติงจือยิ้มอย่างเก้อเขิน ก่อนจะนำเสื้อคลุมมาให้ฮูหยิน
หรงเช่อคอยประคองนางไว้ ไม่ปล่อยมือแม้แต่นิดเดียว
“มาแล้ว มาแล้ว ถึงบ้านแล้ว! องค์หญิงและคุณชายน้อยกลับมาแล้ว!” เด็กรับใช้ที่รออยู่ตรงมุมวิ่งเข้ามาพร้อมข่าวดี
และเป็นเช่นนั้นจริง ๆ พวกเขาเห็นขบวนรถม้ากำลังใกล้เข้ามา
ยังไม่ทันที่รถม้าจะจอดสนิท สวี่สืออวิ๋นก็รีบวิ่งเข้าไปหารถม้าทันที
ลู่เจาเจากระโจนออกมาด้วยความเร็วราวกับลูกปืนเล็ก ๆ สวี่สืออวิ๋นแทบจะรับไว้ไม่ทัน ดีที่หรงเช่อคอยประคองนางไว้
“ท่านแม่ เจาเจาคิดถึงท่านมากเลย!” เด็กน้อยกอดคอผู้เป็นแม่พลางพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
เมื่อได้กลิ่นที่คุ้นเคย นางก็รู้สึกสบายใจ ราวกับความกระวนกระวายใจทั้งหลายคลายลง
ซ่านซ่านยืนอยู่บนรถม้า “แค่ก ๆ…”
“แค่ก ๆ…”หรงเช่อเห็นว่าแม่ลูกกำลังกอดกันกลม และเมื่อหันไปอีกทางก็เห็นว่าลูกชายตัวน้อยกำลังเชิดปากขึ้นราวกับปากกาต้มน้ำ เขาหัวเราะและเดินเข้าไปหา
“ซ่านซ่าน มาให้พ่ออุ้มหน่อย ตอนออกเดินทางเจ้ายังเดินไม่ได้เลย ตอนนี้โตแล้วสินะ”
หรงเซี่ยงซ่านเบะปาก เขาเองก็อยากได้อ้อมกอดหอม ๆ นุ่ม ๆ ของท่านแม่บ้าง
หรงเช่อไม่รอให้เขาปฏิเสธ ก่อนจะอุ้มเขามาไว้ในอ้อมอกแล้วใช้หนวดทิ่มเขา ซ่านซ่านโวยวายเสียงดัง…
“ท่านพ่อ เมื่อวานข้าเก็บน้องชายได้คนหนึ่งระหว่างการเดินทาง…ซ่านซ่านอยากเลี้ยง…”
“จากนี้มันจะเป็นเจ้าหกของบ้านเรา”
หรงเช่อชะงัก จะเก็บเด็กที่ไหนมาเลี้ยงง่าย ๆ ก็ได้งั้นหรือ
เขาเห็นซ่านซ่านอุ้มลูกสุนัขตัวเล็กออกมาจากอก มันเพิ่งจะลืมตา ดูเหมือนพึ่งเกิดได้ไม่นาน
หรงเช่อจ้องลูกสุนัขด้วยความรังเกียจ “ใครเป็นน้องชายของเจ้ากัน! ใครเป็นเจ้าหกของจวนนี้ ข้าว่าเจ้าแกว่งเท้าหาเสี้ยนแล้ว!”
ซ่านซ่านยิ้มกว้าง “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้ากินอะไร มันก็ต้องกินด้วย!”
“เราสองเป็นพี่น้องกันแล้ว!”
“มันคือเจ้าหกของบ้านเราแล้ว”
เส้นเลือดบนหน้าผากของหรงเช่อเต้นตุบ ๆ เขาไม่ได้เจอเด็ก ๆ มานาน เขาจะตีลูก ๆ ไม่ได้ ตีไม่ได้! หรงเช่อท่องในใจ
ลู่เยี่ยนซูเตรียมของฝากจากตงหลิง เพื่อนำไปมอบให้ท่านเจิ้นกั๋วกงด้วย
ตั้งแต่หรงเช่อแต่งงาน ท่านเจิ้นกั๋วกงกับฮูหยินก็ย้ายไปอยู่บ้านข้าง ๆ ซึ่งมีประตูเชื่อมระหว่างกัน ทำให้สองบ้านเป็นเหมือนบ้านเดียวกัน
ในจวนตระกูลหรงสว่างไสว
ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง กลิ่นยาสมุนไพรก็ลอยเข้ามาปะทะจมูกของลู่เจาเจา
นายหญิงใหญ่มีท่าทางอิดโรย แต่เมื่อเห็นซ่านซ่านกับลู่เจาเจา นางก็เผยรอยยิ้มออกมา
“หลานรักของย่า กลับมากันเสียที” นายหญิงใหญ่ดูซูบเซียวลงมาก นางอุ้มลู่เจาเจาและซ่านซ่านไว้ในอ้อมอก ไม่ยอมปล่อย
ตอนหรงเช่อแต่งงานกับสวี่สืออวิ๋น ลู่เจาเจายังเล็กนัก
ในสายตาของนายหญิงใหญ่ ลู่เจาเจาเป็นหลานสาวแท้ ๆ เหมือนกับซ่านซ่าน
ไม่มีความแตกต่างแม้แต่น้อย
“รีบไปเยี่ยมปู่ของพวกเจ้าเถิด เขารอพวกเจ้าอยู่นานแล้ว” นายหญิงใหญ่พูดพลางซับน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้า ดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงสั่นเครือ
ในช่วงหลายวันนี้ นายหญิงใหญ่แทบไม่กล้าไปไหนเลย นางกลัวเหลือเกินว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
จุยเฟิงมองขึ้นไปยังจวนตระกูลหรง ก่อนจะพูดเบา ๆ “ด้านบนจวนมีบรรยากาศแห่งความตายปกคลุม ท่านเจิ้นกั๋วกงคงจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็แสดงความโศกเศร้าออกมา
ซ่านซ่านและลู่เจาเจาวิ่งเข้ามาในบ้านอย่างรีบร้อน
ซ่านซ่านรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่ใช่คนใจอ่อนหรือให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว เพราะตลอดพันปีที่ผ่านมา เขาเป็นคนไร้หัวใจ ไม่มีพ่อแม่ และเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...