เข้าสู่ระบบผ่าน

หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1323

จู๋มั่วขี่ม้าไปพลางหันกลับมามองอยู่เป็นระยะ ๆ

“อาอู๋บอกว่าชอบที่นี่ อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกัน” อาหมานเอ่ยด้วยแววตาแดงก่ำ เขากอดเสื้อของอาอู๋เอาไว้

จู๋มั่วก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไร

การเดินทางกลับบ้านครั้งนี้ใช้เวลาน้อยกว่าตอนมาเกือบครึ่งหนึ่ง พวกเขาต่างรีบเดินทางแม้ในยามค่ำคืน

เมื่อถึงบ้าน ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว

แต่ไฟบ้านตระกูลลู่กลับยังเปิดสว่าง หรงเช่อและสวี่สืออวิ๋นกำลังสวมเสื้อคลุมตัวหนารออยู่ที่ประตู

“ฮูหยิน ท่านเข้าไปพักก่อนเถิด อากาศตอนกลางคืนเย็นนัก ระวังจะไม่สบาย” เติงจือเอ่ยเตือนอย่างอ่อนโยน

สวี่สืออวิ๋นส่ายหน้า “อย่ามาว่าให้ข้าเลย เจ้าเองก็รออยู่ตรงนี้ตั้งแต่เที่ยงแล้ว”

เติงจือยิ้มอย่างเก้อเขิน ก่อนจะนำเสื้อคลุมมาให้ฮูหยิน

หรงเช่อคอยประคองนางไว้ ไม่ปล่อยมือแม้แต่นิดเดียว

“มาแล้ว มาแล้ว ถึงบ้านแล้ว! องค์หญิงและคุณชายน้อยกลับมาแล้ว!” เด็กรับใช้ที่รออยู่ตรงมุมวิ่งเข้ามาพร้อมข่าวดี

และเป็นเช่นนั้นจริง ๆ พวกเขาเห็นขบวนรถม้ากำลังใกล้เข้ามา

ยังไม่ทันที่รถม้าจะจอดสนิท สวี่สืออวิ๋นก็รีบวิ่งเข้าไปหารถม้าทันที

ลู่เจาเจากระโจนออกมาด้วยความเร็วราวกับลูกปืนเล็ก ๆ สวี่สืออวิ๋นแทบจะรับไว้ไม่ทัน ดีที่หรงเช่อคอยประคองนางไว้

“ท่านแม่ เจาเจาคิดถึงท่านมากเลย!” เด็กน้อยกอดคอผู้เป็นแม่พลางพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

เมื่อได้กลิ่นที่คุ้นเคย นางก็รู้สึกสบายใจ ราวกับความกระวนกระวายใจทั้งหลายคลายลง

ซ่านซ่านยืนอยู่บนรถม้า “แค่ก ๆ…”

“แค่ก ๆ…”หรงเช่อเห็นว่าแม่ลูกกำลังกอดกันกลม และเมื่อหันไปอีกทางก็เห็นว่าลูกชายตัวน้อยกำลังเชิดปากขึ้นราวกับปากกาต้มน้ำ เขาหัวเราะและเดินเข้าไปหา

“ซ่านซ่าน มาให้พ่ออุ้มหน่อย ตอนออกเดินทางเจ้ายังเดินไม่ได้เลย ตอนนี้โตแล้วสินะ”

หรงเซี่ยงซ่านเบะปาก เขาเองก็อยากได้อ้อมกอดหอม ๆ นุ่ม ๆ ของท่านแม่บ้าง

หรงเช่อไม่รอให้เขาปฏิเสธ ก่อนจะอุ้มเขามาไว้ในอ้อมอกแล้วใช้หนวดทิ่มเขา ซ่านซ่านโวยวายเสียงดัง…

“ท่านพ่อ เมื่อวานข้าเก็บน้องชายได้คนหนึ่งระหว่างการเดินทาง…ซ่านซ่านอยากเลี้ยง…”

“จากนี้มันจะเป็นเจ้าหกของบ้านเรา”

หรงเช่อชะงัก จะเก็บเด็กที่ไหนมาเลี้ยงง่าย ๆ ก็ได้งั้นหรือ

เขาเห็นซ่านซ่านอุ้มลูกสุนัขตัวเล็กออกมาจากอก มันเพิ่งจะลืมตา ดูเหมือนพึ่งเกิดได้ไม่นาน

หรงเช่อจ้องลูกสุนัขด้วยความรังเกียจ “ใครเป็นน้องชายของเจ้ากัน! ใครเป็นเจ้าหกของจวนนี้ ข้าว่าเจ้าแกว่งเท้าหาเสี้ยนแล้ว!”

ซ่านซ่านยิ้มกว้าง “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้ากินอะไร มันก็ต้องกินด้วย!”

“เราสองเป็นพี่น้องกันแล้ว!”

“มันคือเจ้าหกของบ้านเราแล้ว”

เส้นเลือดบนหน้าผากของหรงเช่อเต้นตุบ ๆ เขาไม่ได้เจอเด็ก ๆ มานาน เขาจะตีลูก ๆ ไม่ได้ ตีไม่ได้! หรงเช่อท่องในใจ

ลู่เยี่ยนซูเตรียมของฝากจากตงหลิง เพื่อนำไปมอบให้ท่านเจิ้นกั๋วกงด้วย

ตั้งแต่หรงเช่อแต่งงาน ท่านเจิ้นกั๋วกงกับฮูหยินก็ย้ายไปอยู่บ้านข้าง ๆ ซึ่งมีประตูเชื่อมระหว่างกัน ทำให้สองบ้านเป็นเหมือนบ้านเดียวกัน

ในจวนตระกูลหรงสว่างไสว

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง กลิ่นยาสมุนไพรก็ลอยเข้ามาปะทะจมูกของลู่เจาเจา

นายหญิงใหญ่มีท่าทางอิดโรย แต่เมื่อเห็นซ่านซ่านกับลู่เจาเจา นางก็เผยรอยยิ้มออกมา

“หลานรักของย่า กลับมากันเสียที” นายหญิงใหญ่ดูซูบเซียวลงมาก นางอุ้มลู่เจาเจาและซ่านซ่านไว้ในอ้อมอก ไม่ยอมปล่อย

ตอนหรงเช่อแต่งงานกับสวี่สืออวิ๋น ลู่เจาเจายังเล็กนัก

ในสายตาของนายหญิงใหญ่ ลู่เจาเจาเป็นหลานสาวแท้ ๆ เหมือนกับซ่านซ่าน

ไม่มีความแตกต่างแม้แต่น้อย

“รีบไปเยี่ยมปู่ของพวกเจ้าเถิด เขารอพวกเจ้าอยู่นานแล้ว” นายหญิงใหญ่พูดพลางซับน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้า ดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงสั่นเครือ

ในช่วงหลายวันนี้ นายหญิงใหญ่แทบไม่กล้าไปไหนเลย นางกลัวเหลือเกินว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

จุยเฟิงมองขึ้นไปยังจวนตระกูลหรง ก่อนจะพูดเบา ๆ “ด้านบนจวนมีบรรยากาศแห่งความตายปกคลุม ท่านเจิ้นกั๋วกงคงจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็แสดงความโศกเศร้าออกมา

ซ่านซ่านและลู่เจาเจาวิ่งเข้ามาในบ้านอย่างรีบร้อน

ซ่านซ่านรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่ใช่คนใจอ่อนหรือให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว เพราะตลอดพันปีที่ผ่านมา เขาเป็นคนไร้หัวใจ ไม่มีพ่อแม่ และเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์