หากหวังจะให้เขาเข้าใจความรักของคนในครอบครัวเพียงเพราะผ่านการเวียนว่ายตายเกิดแค่ครั้งเดียว คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น โลกนี้คงไม่มีสิ่งชั่วร้ายอีกแล้ว
แต่เมื่อได้เห็นชายชราใบหน้าเหี่ยวย่นที่นอนอยู่บนเตียง ซ่านซ่านก็รู้สึกสั่นสะท้านในหัวใจ เขากำชายเสื้อตัวเองแน่นอย่างไม่รู้ตัว เขารู้สึกกลัวในสิ่งที่กำลังจะเผชิญอยู่...
เจิ้นกั๋วกงเป็นชายชราที่แข็งแรงเสมอในสายตาของซ่านซ่าน
ก่อนที่เขาจะออกไป เสียงของเจิ้นกั๋วกงยังคงดังกังวาน ตอนเช้าก็ยังสามารถรำไทเก็กได้ แต่ผ่านไปเพียงปีเดียว ตอนนี้ท่านมีผมที่ขาวโพลน ใบหน้าซูบผอมจนเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก
จากน้ำเสียงที่เคยดังกังวานราวกับฟ้าผ่า แต่ตอนนี้ท่านกลับนอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนล้า
ลมหายใจของท่านแผ่วเบา ดั่งเส้นด้ายที่ใกล้จะขาดเต็มทน
ซ่านซ่านยืนอยู่ข้างเตียงด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในใจ
เจิ้นกั๋วกงพยายามลุกนั่งและยกมือขึ้น ก่อนจะถามด้วยเสียงนุ่มนวล “ตกใจที่ปู่เป็นแบบนี้หรือเปล่า“
“ไม่กลัวนะ ไม่กลัว ปู่ไม่อยากทำให้ซ่านซ่านกลัว” ใบหน้าของท่านซีดเซียว ปากแห้งไร้เลือด แต่ยังคงจับมือของซ่านซ่านอย่างอ่อนโยน
ซ่านซ่านก้มหน้าลง ก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆ “ท่านปู่”
ชายชราเผยรอยยิ้มออกมาทันที “อืม” ในแววตาของท่านเต็มไปด้วยความพอใจและความอาลัย
ลู่เจาเจาก็ส่งเสียงเรียก “ท่านปู่” เช่นกัน
เจิ้นกั๋วกงเมื่อเห็นหลานชายและหลานสาวก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่
ก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะของซ่านซ่านและลู่เจาเจา ในดวงตาที่ขุ่นมัวนั้นเต็มไปด้วยความอาลัย
“มนุษย์ย่อมต้องจากกันในที่สุด ปู่ใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่าแล้ว ตอนแรกปู่คิดว่าตระกูลหรงของเราจะจบสิ้นแล้ว แต่ตอนนี้ พ่อของพวกเจ้าได้แต่งงานกับคนที่เขารัก มีทั้งลูกชายและลูกสาว ปู่หมดห่วงแล้ว” แม้จะมีความอาลัย แต่เจิ้นกั๋วกงกลับพูดอย่างสบายใจ ชีวิตนี้ของท่านไม่มีสิ่งใดต้องเสียใจอีกแล้ว
เสียงกลั้นสะอื้นดังขึ้นในห้อง สักพัก สวี่สืออวิ๋นก็ยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วเดินออกไป
หลังจากที่พูดได้เพียงไม่กี่ประโยค เจิ้นกั๋วกงก็เริ่มไออย่างหนัก
หรงเช่อเดินเข้าไปหาด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านพ่อพักผ่อนก่อนเถิด เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกเด็ก ๆ จะมาเยี่ยมท่านอีก” เจิ้นกั๋วกงคงเหนื่อยมากแล้วหลังจากรออยู่จนถึงดึกดื่น
เจิ้นกั๋วกงโบกมือเล็กน้อย จากนั้นเด็ก ๆ ก็ต่างทยอยออกจากห้องไป
หมอหลวงที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเข้ามาตรวจชีพจรและป้อนยานอนหลับให้เจิ้นกั๋วกง
ทุกคนกลับไปยังบ้านตระกูลลู่ สวี่สืออวิ๋นและหรงเช่อเรียกลู่เจาเจาเข้ามาในห้อง
“ท่านแม่ เจาเจารู้ว่าพวกท่านต้องการถามอะไร”
“ท่านปู่คงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว พลังชีวิตของท่านหมดลงแล้ว”
“ยันต์เพิ่มอายุขัย ลูกท้อแบน และน้ำพุวิญญาณ เจาเจาได้ใช้กับท่านปู่ไปหมดแล้ว ไม่สามารถยื้อท่านได้อีกแล้ว…” ลู่เจาเจาส่ายหน้าเบา ๆ
สวี่สืออวิ๋นกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่อยู่ นางสะอื้นเบา ๆ ไหล่ของนางสั่นเทา
“แต่ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุด มันเป็นเพียงการเริ่มต้นของการเดินทางอีกช่วงหนึ่ง… ท่านพ่อ ท่านแม่…” ลู่เจาเจายังพูดไม่จบ หรงเช่อก็ดันตัวนางออกไปด้วยความอ่อนโยน
“เจาเจา เจ้ายังเด็ก ไม่จำเป็นต้องปลอบใจพ่อกับแม่หรอก พ่อกับแม่เข้าใจ” หรงเช่อพยายามกลั้นน้ำตาไว้
เขานั่งลงด้วยท่าทีอ่อนโยน “ลูกเดินทางมาเหนื่อย ๆ เจาเจาไปพักผ่อนเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...