อวี้จูอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะ “แม่ ตั้งพันปีมาแล้ว ตอนนี้ยังนึกถึงเรื่องนี้อีกหรือ“
”อีกอย่าง ลูกศิษย์ก็มีการแบ่งประเภทนะ”
“ศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้ด้วยตัวเองกับศิษย์ที่นั่งฟังแค่คำสอนเฉย ๆ ต่างกันลิบลับ” ศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้โดยตรงนั้นต้องทำพิธีรับเป็นศิษย์ ราวกับเป็นครอบครัว เป็นดั่งบุตรหลาน…
ส่วนศิษย์ที่นั่งฟังแค่คำสอนเฉย เป็นเพียงผู้ฟังธรรมดา ที่อาจารย์ตัวจริงยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ
ฮูหยินเหยาดุลูกสาว “หากเป็นศิษย์โดยตรง จะอยู่แค่ในซีเหอได้อย่างไร”
“อย่าให้ยายของเจ้าได้ยินคำพูดพวกนี้เชียวนะ” พูดไปพูดมา นางก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ได้ ๆ ข้าเชื่อฟังแม่ จูเอ๋อร์จะเป็นเด็กดีในสายตาของท่านยาย จะไม่ทำให้แม่ต้องอับอาย” อวี้จูคล้องแขนผู้เป็นแม่ด้วยความสนิทสนม หลังจากหัวเราะหยอกล้อกันไปหลายครา ฮูหยินเหยาก็คลายความประหม่าไปได้บ้าง
“จูเอ๋อร์เป็นความภูมิใจของแม่เสมอ” ฮูหยินเหยามองลูกสาวด้วยแววตาอ่อนโยน
ไม่นานนัก รถม้าก็หยุดลงที่หน้าจวนตระกูลเหยา
สารถีเดินไปเคาะประตู ก่อนจะแจ้งตัวตนให้อีกฝ่ายได้รับทราบอย่างสุภาพ
คนเฝ้าประตูมองพวกเขาสองสามครั้ง เมื่อได้ยินสารถีบอกถึงตัวตน พวกเขาก็มีท่าทีเปลี่ยนไปทันที “คุณหนูที่หายตัวไปอะไรกัน ที่จวนนี้ไม่เคยมีคุณหนูที่หายไป!”
ฮูหยินเหยาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ข้าสกุลเหยา ชื่อจิ้งอี๋ เป็นคุณหนูที่เคยหายตัวไปของจวนนี้ ได้โปรดแจ้งคนในครอบครัวให้ข้าด้วยเถิด”
เมื่อคนเฝ้าประตูเห็นนาง แววตาของพวกเขาสั่นไหวเล็กน้อย “ฮูหยินอย่ามาพูดจาเหลวไหล คุณหนูใหญ่ของจวนเราจมน้ำตายไปแล้ว นายหญิงใหญ่ร้องไห้เสียใจเป็นเวลานาน ขออย่าได้อ้างตนเช่นนี้เลย”
“ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าทราบชื่อของคุณหนูใหญ่มาได้อย่างไร อีกทั้งยังพยายามอ้างตัวว่าเป็นนาง แต่คุณหนูใหญ่เสียชีวิตแล้ว พวกเราตั้งป้ายศพให้แก่นางที่ซีเหอเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง”
“ช่วงเวลาที่ผ่านมา เจ้าเป็นผู้ที่ส่งจดหมายมาสวมรอยเป็นคุณหนูใหญ่ใช่ไหม“
”ฮูหยินรีบกลับไปเสียเถิด ถ้าฮูหยินใหญ่รู้เข้า คงโกรธแน่” คนเฝ้าประตูมีท่าทางรีบร้อนและถึงขั้นไล่นางไป
มือเท้าของฮูหยินเหยาเย็นเฉียบ หัวใจของนางเริ่มเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ
นางยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
งานเทศกาลโคมไฟในปีนั้น นางพลัดหลงกับสาวใช้ และถูกขายไปยังหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขา
ภูเขาที่สูงชันและทอดยาวอย่างไม่มีสิ้นสุด นางพยายามหลบหนีออกมาหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ คลอดลูกออกมาก็ถูกจับกดน้ำจนตาย นางใช้ชีวิตราวกับศพเดินได้…
นางถูกผู้ชายเฆี่ยนตีด้วยแส้ กระทืบ และชกต่อยไม่ยั้งจนร่างกายฟกช้ำ นางต้องนอนเป็นผักไม่สามารถลุกขึ้นได้เป็นเวลาสามวันสามคืน
แต่นั้นก็ไม่อาจเทียบได้กับตอนนี้
หลายปีที่ผ่านมา ความหวังเดียวที่นางใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจไว้ คือการกลับบ้าน
กลับไปยังบ้านที่นางคิดถึงทั้งกลางวันและกลางคืน
ในขณะที่ยืนอยู่หน้าประตู น้ำตาก็เอ่อล้นออกมา นางเคยนึกภาพการได้กลับมาพบครอบครัวหลายครั้ง แต่ไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...