หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1326

อวี้จูอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะ “แม่ ตั้งพันปีมาแล้ว ตอนนี้ยังนึกถึงเรื่องนี้อีกหรือ“

”อีกอย่าง ลูกศิษย์ก็มีการแบ่งประเภทนะ”

“ศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้ด้วยตัวเองกับศิษย์ที่นั่งฟังแค่คำสอนเฉย ๆ ต่างกันลิบลับ” ศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้โดยตรงนั้นต้องทำพิธีรับเป็นศิษย์ ราวกับเป็นครอบครัว เป็นดั่งบุตรหลาน…

ส่วนศิษย์ที่นั่งฟังแค่คำสอนเฉย เป็นเพียงผู้ฟังธรรมดา ที่อาจารย์ตัวจริงยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ

ฮูหยินเหยาดุลูกสาว “หากเป็นศิษย์โดยตรง จะอยู่แค่ในซีเหอได้อย่างไร”

“อย่าให้ยายของเจ้าได้ยินคำพูดพวกนี้เชียวนะ” พูดไปพูดมา นางก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

“ได้ ๆ ข้าเชื่อฟังแม่ จูเอ๋อร์จะเป็นเด็กดีในสายตาของท่านยาย จะไม่ทำให้แม่ต้องอับอาย” อวี้จูคล้องแขนผู้เป็นแม่ด้วยความสนิทสนม หลังจากหัวเราะหยอกล้อกันไปหลายครา ฮูหยินเหยาก็คลายความประหม่าไปได้บ้าง

“จูเอ๋อร์เป็นความภูมิใจของแม่เสมอ” ฮูหยินเหยามองลูกสาวด้วยแววตาอ่อนโยน

ไม่นานนัก รถม้าก็หยุดลงที่หน้าจวนตระกูลเหยา

สารถีเดินไปเคาะประตู ก่อนจะแจ้งตัวตนให้อีกฝ่ายได้รับทราบอย่างสุภาพ

คนเฝ้าประตูมองพวกเขาสองสามครั้ง เมื่อได้ยินสารถีบอกถึงตัวตน พวกเขาก็มีท่าทีเปลี่ยนไปทันที “คุณหนูที่หายตัวไปอะไรกัน ที่จวนนี้ไม่เคยมีคุณหนูที่หายไป!”

ฮูหยินเหยาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ข้าสกุลเหยา ชื่อจิ้งอี๋ เป็นคุณหนูที่เคยหายตัวไปของจวนนี้ ได้โปรดแจ้งคนในครอบครัวให้ข้าด้วยเถิด”

เมื่อคนเฝ้าประตูเห็นนาง แววตาของพวกเขาสั่นไหวเล็กน้อย “ฮูหยินอย่ามาพูดจาเหลวไหล คุณหนูใหญ่ของจวนเราจมน้ำตายไปแล้ว นายหญิงใหญ่ร้องไห้เสียใจเป็นเวลานาน ขออย่าได้อ้างตนเช่นนี้เลย”

“ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าทราบชื่อของคุณหนูใหญ่มาได้อย่างไร อีกทั้งยังพยายามอ้างตัวว่าเป็นนาง แต่คุณหนูใหญ่เสียชีวิตแล้ว พวกเราตั้งป้ายศพให้แก่นางที่ซีเหอเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง”

“ช่วงเวลาที่ผ่านมา เจ้าเป็นผู้ที่ส่งจดหมายมาสวมรอยเป็นคุณหนูใหญ่ใช่ไหม“

”ฮูหยินรีบกลับไปเสียเถิด ถ้าฮูหยินใหญ่รู้เข้า คงโกรธแน่” คนเฝ้าประตูมีท่าทางรีบร้อนและถึงขั้นไล่นางไป

มือเท้าของฮูหยินเหยาเย็นเฉียบ หัวใจของนางเริ่มเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ

นางยืนนิ่งอยู่หน้าประตู

งานเทศกาลโคมไฟในปีนั้น นางพลัดหลงกับสาวใช้ และถูกขายไปยังหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขา

ภูเขาที่สูงชันและทอดยาวอย่างไม่มีสิ้นสุด นางพยายามหลบหนีออกมาหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ คลอดลูกออกมาก็ถูกจับกดน้ำจนตาย นางใช้ชีวิตราวกับศพเดินได้…

นางถูกผู้ชายเฆี่ยนตีด้วยแส้ กระทืบ และชกต่อยไม่ยั้งจนร่างกายฟกช้ำ นางต้องนอนเป็นผักไม่สามารถลุกขึ้นได้เป็นเวลาสามวันสามคืน

แต่นั้นก็ไม่อาจเทียบได้กับตอนนี้

หลายปีที่ผ่านมา ความหวังเดียวที่นางใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจไว้ คือการกลับบ้าน

กลับไปยังบ้านที่นางคิดถึงทั้งกลางวันและกลางคืน

ในขณะที่ยืนอยู่หน้าประตู น้ำตาก็เอ่อล้นออกมา นางเคยนึกภาพการได้กลับมาพบครอบครัวหลายครั้ง แต่ไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธเช่นนี้

ตอนที่ถูกล็อก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์