เข้าสู่ระบบผ่าน

หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1343

“จิ้งอี๋ ถึงแม้เจ้าจะตัดขาดจากตระกูลเหยาไปแล้ว ยังไงก็มีสายเลือดเดียวกัน”

“จิ้งหว่านทำผิดต่อเจ้าจริง แต่หลายปีมานี้นางก็รู้สึกผิดมาโดยตลอด เจ้าเป็นพี่สาวแท้ ๆ จะไปถือสาอะไรกับนางนักหนา?”

“เอาเงินนี่ไปแล้วออกไปจากเมืองหลวงเสีย ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ใดก็ตาม อย่าได้หวนกลับมาเมืองหลวงอีก”

ท่านผู้เฒ่าเหยาจ้องมองนางด้วยสายตาเหยียดหยาม ราวกับกำลังไล่ขอทาน

“นี่ลูกของเจ้าสินะ? อย่าฝันหวานว่าจะส่งนางเข้าสำนักศึกษาสตรีเลย แม้แต่จะอาศัยบารมีของเหวินซีก็ไม่มีทางหรอก หาบัณฑิตแก่ ๆ มาสอนหนังสือเบื้องต้นให้นางก็พอแล้ว”

อวี้จูกำมือมารดาแน่น เงยหน้ามองด้วยแววตาที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัวและความลังเล

ราวกับได้พบกับที่พึ่งพิงอันแข็งแกร่ง

สะใภ้ใหญ่ตระกูลเหยาเดินเข้ามาอย่างยิ้มแย้ม “ตระกูลเหยาไม่มีทางรับเจ้า ตอนนั้นเจ้าได้ตายไปแล้ว เราก็แจ้งตายให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ให้เงินติดตัวไปบ้างก็ถือว่าตระกูลเหยาใจดีมากแล้ว”

“เจ้าอย่ามาขวางทางอยู่ตรงนี้ รีบไปซะ เดี๋ยวจิ้งหว่านมาเห็นเข้าจะไม่พอใจเอา”

พูดไปพูดมา สะใภ้ใหญ่ตระกูลเหยา ยิ่งยิ้มลึกซึ้งขึ้น “เจ้ายังไม่รู้สินะ?”

“เหวินซีถูกนักปราชญ์รับเป็นศิษย์คนสุดท้ายแล้ว!”

“ต่อไปก็จะได้เป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับปรมาจารย์ทั้งหลาย ภายภาคหน้าเกียรติคุณย่อมขจรขจายไปทั่วหล้า”

“ศิษย์ของนักปราชญ์ล้วนแต่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งนั้น ใครบ้างที่ไม่รู้จัก?”

“จิ้งอี๋ ชะตาชีวิตของคนเรามันต่างกัน อย่าไปแก่งแย่งเลย ไปจากเมืองหลวงเสียเถอะ”

“เหวินซีถูกนักปราชญ์และใต้เท้าลู่แย่งตัว ทั้งชีวิตนี้เจ้าไม่มีทางเทียบได้หรอก” สะใภ้ใหญ่เหยาถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ หากตอนนั้นจิ้งอี๋ไม่ยกองครักษ์ให้จิ้งหว่าน คนที่ถูกจับตัวไปอาจเป็นจิ้งหว่านก็ได้

ชะตาชีวิตช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

คำพูดเหล่านั้นทำให้เหยาจิ้งอี๋นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ นางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเหวินซีถูกรับเป็นศิษย์?”

สะใภ้ใหญ่เหยาหน้าตาเบิกบานอย่างปิดไม่มิด “ข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่วแล้ว บุตรสาวของฮูหยินเหยาถูกนักปราชญ์รับเป็นศิษย์คนสุดท้าย”

“ทั้งยังทำให้ใต้เท้าลู่กับนักปราชญ์แย่งบัณฑิตกัน แม้แต่องค์หญิงเจาหยางยังเอ็นดูเหวินซีเป็นอย่างมาก”

“ในสำนักศึกษาสตรี จะมีฮูหยินเหยากี่คนกันเชียว?”

ตระกูลเหยากำลังจะมีวาสนาที่รุ่งโรจน์ยิ่งกว่าใคร!!

เมื่อครู่นี้พวกเขาได้รับบัตรเชิญมากมายจากบุคคลที่ก่อนหน้านี้ไม่อาจเอื้อมถึง แต่ตอนนี้กลับยิ้มแย้มแสดงความยินดี ตระกูลเหยาจึงรู้สึกหายใจทั่วท้องขึ้นมาในทันที

เห็นเด็กรับใช้ยื่นเงินให้ เหยาจิ้งอี๋โบกมือปฏิเสธอย่างเรียบเฉย

“มิต้องให้เงินหรอก”

“ในเมื่อข้าถูกตัดออกจากบัญชีครัวเรือน และตัดขาดจากตระกูลแล้ว ข้าก็มิใช่บุตรสาวของตระกูลเหยาอีกต่อไป ย่อมไม่จำเป็นต้องรับเงินสงเคราะห์จากตระกูลเหยา”

นางมิได้หูหนวกตาบอดต่อคำเล่าลือที่ตระกูลเหยาปล่อยออกมา

บุตรสาวคนโตของตระกูลเหยาตายไปแล้ว เรื่องนี้เป็นที่แน่นอนดั่งตอกตะปูลงบนแผ่นเหล็ก

เป็นเช่นนี้ก็ดี

เกิดอะไรขึ้นกัน??

ขณะที่เด็กรับใช้กำลังจะปิดประตู ท่านผู้เฒ่าเหยาก็รีบรุดเข้ามาอย่างร้อนใจ “เดี๋ยวก่อน ยังมีคนยังไม่ออกมา!”

เด็กรับใช้เหลือบมองบนอย่างระอาใจ คิดในใจว่าคนพวกนี้ช่างงี่เง่าเสียจริง

เมื่อครู่ที่หน้าสำนักศึกษาสตรี พวกเขาก็รับบัตรอวยพร รับคำสรรเสริญ แถมยังจุดประทัดโปรยทานกันอย่างครึกครื้น แล้วเหตุใดตอนนี้ยังไม่ยอมกลับไปอีก!

“เป็นไปไม่ได้ ข้างในสถานศึกษาไม่มีคนอยู่แล้ว ทุกคนออกไปหมดแล้ว”

“เชิญพวกท่านกลับไปได้แล้ว ข้าจะปิดประตูแล้ว”

ท่านผู้เฒ่าเหยาใจคอไม่ดี รีบดึงลูกชายและสะใภ้ที่อยู่ข้างหลังเข้ามา “น้องหญิงข้ายังไม่ออกมาเลย ฮูหยินเหยา และฉินเหวินซีที่ถูกรับเป็นศิษย์คนสุดท้าย”

“ใช่ นั่นคือลูกสาวและหลานสาวของข้าเอง” ท่านผู้เฒ่าเหยาอธิบายอย่างใจเย็น

เด็กรับใช้เบิกตากว้างมองพวกเขาด้วยความตกใจ

“ฉินเหวินซี?? ฮูหยินเหยา??”

“พวกนาง มิใช่ว่าโดนไล่ออกจากสำนักศึกษาสตรีตั้งนานแล้วหรือ ไหนจะโดนห้ามเข้าไปตลอดชีวิตอีกด้วย? นักปราชญ์เป็นคนไล่พวกนางออกจากสถานศึกษาด้วยตนเองด้วย!!”

“ว่าไงนะ!”

“อะไรคือไล่ออกจากสำนักศึกษาสตรี? อะไรคือห้ามเข้าไปตลอดชีวิต?!” ท่านผู้เฒ่าเหยาถึงกับเซ แทบจะล้มลงเมื่อได้ยินคำพูดนี้

เด็กรับใช้มีสีหน้าฉงน พวกท่านเมื่อครู่ยังจุดประทัด แจกเงินกันอยู่เลย สรุปแล้ว ยังแยกไม่ออกอีกหรือว่าใครเป็นใคร?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์