บรรยากาศในตระกูลลู่ช่างอบอุ่น ลูก ๆ รักใคร่กลมเกลียวกันยิ่งนัก
หรงเช่อให้เกียรติภรรยาของเขามาก
เมื่อรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ลู่เจาเจาก็เป็นผู้นำนางอวี้จูและฮูหยินเหยาไปส่งถึงหน้าประตูด้วยตนเอง
และก็เป็นดังคาด ที่หัวมุมถนน คนตระกูลเหยากำลังยืนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ไม่รู้ว่ายืนมานานเท่าใดแล้ว
เหยาจิ้งอี๋มีสีหน้าสงบนิ่ง ไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมา ลู่เจาเจาจึงแอบโล่งใจ
“บัดนี้คุณหนูอวี้จูมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว เชื่อว่ามีคนมากมายจับจ้องมองพวกเจ้าทั้งสองอยู่ หากฮูหยินเหยาไม่รังเกียจ รับเอาทหารกล้าคณะนี้กลับไปด้วยเถิด ล้วนเป็นผู้ผ่านสมรภูมิรบมาแล้ว หากใช้ปกป้องคุ้มครองเรือน ย่อมทำให้อุ่นใจได้”
หรงเช่อคุกเข่าลงกับพื้น ยังไม่ลืมที่จะกำชับสักประโยค
ฮูหยินเหยาชะงักไป ตามที่คาดไว้ ภายในลานบ้านมีทหารยี่สิบนายยืนรออยู่ ทุกคนล้วนมีรังสีแห่งการฆ่าฟันแผ่ออกมา สามารถข่มขวัญผู้คนได้เป็นอย่างดี
นางกล่าวขอบคุณหรงเช่อโดยไม่ลังเล “ขอบคุณแม่ทัพหรง การให้ปลาไม่ประเสริฐเท่าการสอนวิธีจับปลา กลับไปข้าจะรีบหาคนที่มีแววมาฝึกฝน ให้พี่น้องช่วยกันดูแล” การมีบ่าวไพร่ที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ไว้บ้างก็เป็นเรื่องปกติ ฮูหยินเหยาคิดการณ์ไกล เมื่อบุตรสาวเติบโตขึ้น ยศถาบรรดาศักดิ์ก็มากขึ้น ย่อมต้องเตรียมองครักษ์ไว้แต่เนิ่น ๆ ต่อไปในภายภาคหน้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
หรงเช่อพยักหน้า ฮูหยินเหยาผู้นี้ช่างเป็นสตรีที่เฉลียวฉลาดยิ่งนัก
เหยาจิ้งอี๋พาอวี้จูขึ้นรถม้า องครักษ์ยี่สิบนายล้อมรถม้าไว้ตรงกลาง
คนตระกูลเหยาเข้าใกล้ไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว
ทันทีที่เข้าใกล้ ชายผู้นำกลุ่มก็ชักดาบออกทันควัน “ผู้ใดบังอาจล่วงล้ำเข้ามา รีบถอยออกไปเดี๋ยวนี้ !!” กระแสอำมหิตจากคมดาบที่ผ่านร้อนผ่านหนาวและคร่าชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วน แผ่พุ่งออกมาจนคนตระกูลเหยาต่างหวาดผวา ไม่กล้าบุ่มบ่ามล่วงล้ำเข้าไป
พี่ใหญ่ตระกูลเหยาหน้าซีดเผือด “ข้าเป็นพี่ใหญ่ของนาง ตาบอดหรืออย่างไรกัน ! น้องหญิง น้องหญิง...” เขาแหกปากร้องเรียกสุดเสียง
หัวหน้าองครักษ์ยังคงยืนนิ่ง ดาบในมือไม่ไหวติง หากฮูหยินยังไม่อนุญาต สิ่งใดก็ไร้ความหมาย
เหล่าทหารหาญล้วนยึดมั่นในกฎระเบียบ มิใช่ผู้ใดจะมาล้อเล่นด้วยได้
ฮูหยินเหยาไม่แม้แต่จะเปิดม่านขึ้น เสียงของนางราบเรียบ “ข้ากำพร้าบิดามารดาตั้งแต่ยังเล็ก เติบโตขึ้นมาเพียงลำพัง ไหนเลยจะมีพี่ชาย?”
“ลากตัวออกไป!”
สิ้นคำ ทหารก็ลากตัวเขาออกไป
ตระกูลเหยาล้วนเป็นบัณฑิต ไหนเลยจะเคยถูกปฏิบัติอย่างหยาบคายเช่นนี้ เขาจึงได้แต่ขดตัวร้องครวญครางอยู่บนพื้น
“นี่คือน้องสาวข้า... นางคือน้องสาวข้า เหยาจิ้งอี๋ จริง ๆ” พี่ใหญ่ตระกูลเหยาเห็นสายตาเหยียดหยามของชาวบ้านที่มามุงดู จึงรีบอธิบาย
“ตระกูลเหยาพวกเจ้าเสียสติหรือไง? ไม่กี่วันก่อนยังบอกว่าเหยาจิ้งอี๋ฆ่าตัวตายเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองเมื่อหลายปีก่อน ใครก็ห้ามแอบอ้างเป็นนาง แล้วตอนนี้ จะบอกว่าฟื้นขึ้นมาจากความตายงั้นหรือ?”
“ยังไงกัน? จะเป็นจะตายก็ต้องให้ตระกูลเหยาพวกเจ้าเป็นคนตัดสินใจรึ?”
“ไม่เคยเห็นบัณฑิตไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน!”
“เมื่อเช้า พวกเจ้าตระกูลเหยายังไปประจานตัวเองที่สำนักศึกษาสตรี แถมยังไร้ยางอายบอกว่าศิษย์คนสุดท้ายของนักปราชญ์เป็นลูกหลานในตระกูลของพวกเจ้าอีก ถุย…” น้ำลายกระเด็นไปถูกหน้าคนตระกูลเหยา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...