เข้าสู่ระบบผ่าน

หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1355

“นี่... นี่…” หยงเช่อใบหน้ายังเปื้อนน้ำตา นิ้วมือชี้ไปที่รูปปั้นเจ้าหลักเมือง ด้วยความตื่นเต้นจนพูดไม่ออก

“ท่านพี่ ต้องเป็นท่านพี่แน่ ๆ ข้าจำไม่ผิดหรอก” นายหญิงใหญ่พลันมีเรี่ยวแรงขึ้น ผลักสาวใช้ที่พยุงอยู่ออก แล้วรีบสาวเท้าไปข้างหน้า

“พวกเจ้าดูสิ!!”

เหนือรูปปั้นเจ้าหลักเมือง ปรากฏเงาราง ๆ นั่น... มิใช่เจิ้นกั๋วกง ผู้เพิ่งฝังร่างไปเมื่อครู่นี้หรอกหรือ!!

“ข้าว่าแล้ว การจากลามิใช่ความตาย แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ต่างหาก...”

“ท่านผู้เฒ่าออกรบในสนามรบ ช่วยชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน จนชาวบ้านเรียกท่านว่าพระโพธิสัตว์ที่มีชีวิต”

“ทำดีได้ดี”

“ตอนนี้ ท่านปู่ก็เป็นเจ้าหลักเมืองที่ดูแลปกป้องพื้นที่แถบนี้แล้ว” เด็กหญิงพูดพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่…

“เจ้าหลักเมือง?” นายหญิงใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงตกใจ

“ใช่แล้ว ท่านปู่ช่วยชีวิตผู้คนมากมาย จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหลักเมือง คอยปกปักรักษาชาวบ้าน นี่เป็นรางวัลจากสวรรค์ที่ประทานให้ท่าน” ลู่เจาเจามองผู้คนอย่างยิ้มแย้ม

หรงเช่อแอบปาดน้ำตาอย่างเงียบเชียบ ทำท่าทางสงบนิ่ง

สวี่สืออวิ๋นเห็นแล้วอดขำไม่ได้ แต่ดวงตาของนางยังคงแดงก่ำ จึงหัวเราะออกมาไม่ได้

“เจ้าปิดบังแม้กระทั่งแม่?” นางจ้องมองเจาเจา

ไม่แปลกใจเลยที่เด็กน้อยคนนี้คอยบอกให้นางอย่าร้องไห้ บอกว่าร้องไห้พอประมาณก็พอ อย่าเสียใจมากเกินไป

ที่แท้ นางก็รู้เรื่องนี้มานานแล้วงั้นรึ?

ชั่วขณะหนึ่ง ซ่านซ่านยังคงมีสีหน้าโศกเศร้า แต่เมื่อเห็นท่านปู่ที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศหันมามองตน เขาก็ตัวชาวาบ

“พี่หญิง ข้าเป็นน้องแท้ ๆ ของท่านนะ!”

“เหตุใดจึงไม่ยอมบอกข้าแต่แรก ฮือ ๆ ๆ น้ำตาที่ซ่านซ่านเสียไปนับว่าเป็นอะไร?”

ลู่เจาเจากะพริบตาปริบ ๆ พร้อมกับทำสีหน้าไร้เดียงสา “ก็ถือว่าเจ้าแสดงความกตัญญูไงเล่า!”

“ท่านพี่ ท่านมีวาสนาเช่นนี้ นับเป็นบุญของตระกูลหรงพวกเราจริง ๆ โอ้ เรื่องน่ายินดี นี่มันเรื่องมหามงคลใหญ่” ทันใดนั้น นายหญิงใหญ่ก็ยิ้มหน้าบาน ตระกูลหรงรุ่งโรจน์แล้ว!!

“เจาเจาปากแข็งจริง ๆ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังปิดบังแม่” สวี่สืออวิ๋นด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ลูกสาวโตขึ้นแล้วสินะ…

“ท่านแม่ ท่านพ่อ ท่านปู่ ท่านย่า เรื่องนี้เจาเจามิได้ตั้งใจปิดบังพวกท่าน ความลับสวรรค์มิอาจเปิดเผย หากป่าวประกาศออกไปก่อน ใครจะรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์พลิกผันอันใดขึ้น”

“อีกอย่าง ท่านปู่จากไปแล้ว ดวงวิญญาณก็ดับสูญ มิใช่คนธรรมดาอีกต่อไป การจัดพิธีให้ท่าน ได้ร้องไห้เสียใจอย่างสุดซึ้ง ก็ถือเป็นการเริ่มต้นและสิ้นสุดที่งดงาม…” คำพูดนี้มีเหตุผลเช่นกัน

คนตระกูลหรงต่างพากันร้องไห้ปนหัวเราะ แม้แต่ท่านผู้เฒ่าหรงเองก็คาดไม่ถึง…

ต่างก็ร่ำลากันอย่างสุดซึ้งแล้ว ท้ายที่สุด…

ลืมตาขึ้นมา แหะ ฟื้นแล้ว

“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านย่อมรับรู้ถึงเจตจำนงแห่งสวรรค์อยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นไปตามครรลอง เป็นสิ่งที่ท่านควรได้รับ”

ท่านผู้เฒ่าจึงคลายใจลง ในฐานะผู้อาวุโสของตระกูล ย่อมไม่อนุญาตให้เจาเจาทำสิ่งใดเพื่ออนาคตของเขา หากต้องทำให้เจาเจาต้องสูญเสียสิ่งใดไป

ลู่เจาเจากะพริบตาปริบ ๆ อย่างเจ้าเล่ห์

สิ่งที่นางกล่าวมานั้นล้วนเป็นความจริง เจิ้นกั๋วกงควรได้ตำแหน่งเจ้าหลักเมือง

เพียงแต่... บัดนี้แดนเทพแปดเปื้อนไปด้วยมลทิน ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ใด ๆ กฎสวรรค์ก็เป็นเพียงสิ่งลวงตา หากนางไม่ต่อสู้แย่งชิง ตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้จะตกเป็นของเจิ้นกั๋วกงได้อย่างไร

แม้ชีวิตมนุษย์จะรุ่งโรจน์เพียงใด สุดท้ายเมื่อสิ้นลมก็ล้วนต้องมึนงงสับสนอยู่ช่วงหนึ่ง

ครั้นเมื่อได้สติกลับคืนมา บัลลังก์ที่เคยเป็นของตนก็พลันถูกผู้อื่นช่วงชิงไปเสียแล้ว

สิ่งที่นางทำ ก็เพียงมอบความยุติธรรมให้แก่เขาจากฟ้าเบื้องบนเท่านั้น

ใช้อำนาจในมือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้วงศ์ตระกูล นางมิอาจทำได้

ทว่าก็ไม่มีวันยอมให้วงศ์ตระกูลต้องสูญเสียสิ่งใดไปเช่นกัน!

ซ่านซ่านแอบดึงชายเสื้อลู่เจาเจา ใบหน้าแฝงแววออดอ้อน “พี่หญิง ข้าขอถามสิ่งหนึ่ง…” เขายิ้มอย่างประจบประแจง

“ในเมื่อท่านปู่ยังไม่ตาย คำสัญญาที่ข้าให้ไว้กับท่าน คงนับว่าเป็นโมฆะแล้วใช่หรือไม่?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์