นายหญิงใหญ่รีบยื่นมือออกไปกุมมือนางอย่างสนิทสนม
“เหตุใดจึงผ่ายผอมไปมากแบบนี้ บ่าวไพร่ไม่ดูแลเอาใจใส่หรืออย่างไร” นายหญิงใหญ่เหลือบมองเติงจือ นางรีบคุกเข่าลงทันที
สวี่ซื่อชักมือกลับอย่างอย่างแนบเนียน ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านแม่ อย่าเอ็ดพวกนางเลย พวกนางตั้งใจเต็มที่แล้ว เป็นอวิ๋นเหนียงเองที่ทานอะไรไม่ค่อยลง” สามีตัวเองไปคอยดูแลชู้รักที่เพิ่งคลอด นางจะกินอิ่มนอนหลับลงได้อย่างไร
ผู้คนต่างพากันชื่นชมว่าสวี่ซื่อนั้นได้ตระกูลคู่ครองที่ดีมาก จวนจงหย่งโหวดูแลนางราวกับเป็นลูกแท้ๆ เลยทีเดียว
“ใกล้จะถึงฤกษ์แล้ว เราจะเสียเวลาไม่ได้ ทำไมท่านโหวถึงยังไม่มาอีก” องค์หญิงใหญ่เอ่ยถามพลางขมวดคิ้วขึ้น
“ประเดี๋ยวกลับเข้าวัง ข้าต้องไปพูดกับเสด็จพี่สักหน่อยแล้ว วันนี้เป็นงานใหญ่ ไม่ควรชักช้าจนทำให้เสียฤกษ์มงคลของเสี่ยวเจาเจา!” องค์หญิงใหญ่ท่าทางไม่พอใจ
คิ้วของนายหญิงใหญ่กระตุกแล้ว
นางเหลือบมองมามาที่อยู่ข้างๆ
มามารีบถอยออกไปอย่างเงียบๆ
ไม่นานก็เห็นท่านโหวกระวีกระวาดกลับถึงจวน บนหน้าผากของเขาชุ่มฉ่ำไปด้วยเหงื่อ ทั้งๆ ที่อากาศในวันนี้ค่อนข้างหนาวเย็น
ริมฝีปากของสวี่ซื่อผุดรอยยิ้มขึ้น ทว่าในแววตากลับไร้ซึ่งความยินดี
เกรงว่าเขาคงจะวุ่นวายอยู่กับงานเลี้ยงรับขวัญเดือนของลูกนอกสมรสอยู่น่ะสิ
“ขออภัยที่ทำให้ทุกท่านต้องรอนาน ลูกสาวข้าครบเดือนทั้งที ข้าให้คนไปเสาะหาไข่มุกราตรีหนานหยางมา จึงเสียเวลาไปหน่อย” ลู่หย่วนเจ๋อมองสวี่ซื่อด้วยสายตารู้สึกผิด
“ไข่มุกราตรีหนานหยางหรือ”
“นี่เป็นของล้ำค่ามากเชียวนะ”
“เมื่อปีก่อนเสด็จพี่ก็ได้มาเม็ดหนึ่ง เสด็จพี่ได้พระราชทานให้รัชทายาทใช้เป็นโคมไฟยามค่ำคืนไปแล้ว” องค์หญิงใหญ่อดไม่ได้ที่จะออกปากชื่นชม
ลู่หย่วนเจ๋อโค้งคำนับองค์หญิงใหญ่ “สิ่งนี้เทียบเทียมกับไข่มุกเม็ดนั้นของฝ่าบาทมิได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
หนานหยางอยู่ห่างจากเมืองหลวงหลายพันลี้ นอกจากจะไกลปืนเที่ยงแล้ว ยังพบเจอได้เฉพาะในทะเลน้ำลึกเท่านั้น ส่งผลให้ไข่มุกราตรีกลายเป็นของล้ำค่า
“ไปอุ้มคุณหนูน้อยออกมาได้แล้ว” สวี่ซื่อโบกมือ
ความโกรธแค้นในสายตาที่มองไปยังลู่หย่วนเจ๋อก็บรรเทาลงเล็กน้อยแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์