หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 14

นายหญิงใหญ่รีบยื่นมือออกไปกุมมือนางอย่างสนิทสนม

“เหตุใดจึงผ่ายผอมไปมากแบบนี้ บ่าวไพร่ไม่ดูแลเอาใจใส่หรืออย่างไร” นายหญิงใหญ่เหลือบมองเติงจือ นางรีบคุกเข่าลงทันที

สวี่ซื่อชักมือกลับอย่างอย่างแนบเนียน ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านแม่ อย่าเอ็ดพวกนางเลย พวกนางตั้งใจเต็มที่แล้ว เป็นอวิ๋นเหนียงเองที่ทานอะไรไม่ค่อยลง” สามีตัวเองไปคอยดูแลชู้รักที่เพิ่งคลอด นางจะกินอิ่มนอนหลับลงได้อย่างไร

ผู้คนต่างพากันชื่นชมว่าสวี่ซื่อนั้นได้ตระกูลคู่ครองที่ดีมาก จวนจงหย่งโหวดูแลนางราวกับเป็นลูกแท้ๆ เลยทีเดียว

“ใกล้จะถึงฤกษ์แล้ว เราจะเสียเวลาไม่ได้ ทำไมท่านโหวถึงยังไม่มาอีก” องค์หญิงใหญ่เอ่ยถามพลางขมวดคิ้วขึ้น

“ประเดี๋ยวกลับเข้าวัง ข้าต้องไปพูดกับเสด็จพี่สักหน่อยแล้ว วันนี้เป็นงานใหญ่ ไม่ควรชักช้าจนทำให้เสียฤกษ์มงคลของเสี่ยวเจาเจา!” องค์หญิงใหญ่ท่าทางไม่พอใจ

คิ้วของนายหญิงใหญ่กระตุกแล้ว

นางเหลือบมองมามาที่อยู่ข้างๆ

มามารีบถอยออกไปอย่างเงียบๆ

ไม่นานก็เห็นท่านโหวกระวีกระวาดกลับถึงจวน บนหน้าผากของเขาชุ่มฉ่ำไปด้วยเหงื่อ ทั้งๆ ที่อากาศในวันนี้ค่อนข้างหนาวเย็น

ริมฝีปากของสวี่ซื่อผุดรอยยิ้มขึ้น ทว่าในแววตากลับไร้ซึ่งความยินดี

เกรงว่าเขาคงจะวุ่นวายอยู่กับงานเลี้ยงรับขวัญเดือนของลูกนอกสมรสอยู่น่ะสิ

“ขออภัยที่ทำให้ทุกท่านต้องรอนาน ลูกสาวข้าครบเดือนทั้งที ข้าให้คนไปเสาะหาไข่มุกราตรีหนานหยางมา จึงเสียเวลาไปหน่อย” ลู่หย่วนเจ๋อมองสวี่ซื่อด้วยสายตารู้สึกผิด

“ไข่มุกราตรีหนานหยางหรือ”

“นี่เป็นของล้ำค่ามากเชียวนะ”

“เมื่อปีก่อนเสด็จพี่ก็ได้มาเม็ดหนึ่ง เสด็จพี่ได้พระราชทานให้รัชทายาทใช้เป็นโคมไฟยามค่ำคืนไปแล้ว” องค์หญิงใหญ่อดไม่ได้ที่จะออกปากชื่นชม

ลู่หย่วนเจ๋อโค้งคำนับองค์หญิงใหญ่ “สิ่งนี้เทียบเทียมกับไข่มุกเม็ดนั้นของฝ่าบาทมิได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

หนานหยางอยู่ห่างจากเมืองหลวงหลายพันลี้ นอกจากจะไกลปืนเที่ยงแล้ว ยังพบเจอได้เฉพาะในทะเลน้ำลึกเท่านั้น ส่งผลให้ไข่มุกราตรีกลายเป็นของล้ำค่า

“ไปอุ้มคุณหนูน้อยออกมาได้แล้ว” สวี่ซื่อโบกมือ

ความโกรธแค้นในสายตาที่มองไปยังลู่หย่วนเจ๋อก็บรรเทาลงเล็กน้อยแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์