หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 15

ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอยู่นั้น องค์หญิงใหญ่กลับพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ท่านโหวลู่ต้องตั้งใจกว่านี้แล้ว เจาเจาของพวกเราไม่ชอบของสิ่งนี้”

“ข้าชอบเจาเจา ข้ารู้สึกถูกชะตากับนางมาก ถ้ามีเวลาเจ้าพาเจาเจาไปอยู่กับข้าสักสองสามวันก็ได้นะ” นางส่งลู่เจาเจาคืนโดยไม่เต็มใจนัก สายตายังคงจับจ้องเด็กน้อยโดยไม่ยอมละสายตา

นางจงใจให้ความสำคัญกับสวี่ซื่อ

“เพคะ เอาไว้อากาศอุ่นขึ้นอีกสักหน่อย ข้าจะพานางไปหาถึงที่เลย” สวี่ซื่อตอบรับด้วยรอยยิ้ม

ขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น เสียงรายงานนอกประตูก็ดังขึ้น

“รัชทายาทเสด็จ”

ลู่หย่วนเจ๋อตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบนำผู้คนลุกขึ้นตอนรับ

ปีนี้องค์รัชทายาทมีพระชนม์เพียงหกพรรษา แต่เฉลียวฉลาดเกินวัย เป็นที่ศรัทธาของขุนนางและราษฎร นับแต่ประสูติ ฮ่องเต้ทรงดูแลสั่งสอนด้วยพระองค์เองเสมอมา ไม่เคยมอบหมายให้ผู้อื่นเลย

ฝ่าบาททรงวาดหวังในตัวของโอรสองค์นี้มาก ดูจากชื่อก็พอจะเดาได้

เซี่ยเฉิงสี่

“รัชทายาทมาที่นี่ได้อย่างไร” องค์หญิงใหญ่เข้าวังอยู่บ่อยครั้ง จึงค่อนข้างสนิทสนมกับรัชทายาท

แต่ไหนแต่ไรมา รัชทายาทไม่ค่อยสนใจเรื่องราวภายนอก เขามุ่งศึกษาเพียงราชกิจบริหารบ้านเมืองเท่านั้น แล้วทำไมจู่ๆ ถึงมาที่ตระกูลลู่ได้

แม้จะทรงพระเยาว์ แต่องค์ชายรัชทายาทกลับมีบารมีอันน่าเกรงขาม ผู้คนในงานต่างก้มหน้าไม่กล้าสบตา

รัชทายาทโบกมือ ลู่หย่วนเจ๋อจึงถอยไปยืนด้านหลัง

“ข้าเห็นว่าเสด็จอามาร่วมงานเลี้ยงรับขวัญเดือน เฉิงสี่ออกมานอกวังพอดี ก็เลยแวะมาดูสักหน่อย” รัชทายาทตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย สายตาของเขาจับจ้องไปที่ทารกในห่อผ้า

ดวงตาของลู่หย่วนเจ๋อร้อนผ่าว นับแต่ฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคต น้ำพระทัยจากคุณูปการที่จวนจงหย่งโหวได้ร่วมกอบกู้ราชวงศ์ก็แห้งเหือดไปด้วย

ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันทรงวางตัวนิ่งเฉยต่อตระกูลลู่

หากสามารถเป็นที่โปรดปรานของรัชทายาทได้ละก็...

สวี่ซื่อก้าวเข้ามาทำความเคารพ รัชทายาทก้มหน้าลงเล็กน้อย “ฮูหยินสวี่รีบลุกขึ้นเถิด ข้าบังเอิญผ่านมา จึงแวะมาอวยพรให้ทารกน้อยสักหน่อย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์