หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 195

ทั้งสองได้ขอบคุณหวงเอิน แล้วออกจากตำหนักไปอย่างสนิทสนม

ในขณะที่ท่านโหวลู่กําลังจะออกไปที่ท้องพระโรง

เมื่อเขาออกไปข้างนอก ก็บังเอิญเจอท่านเจ้าอาวาสวัดฮู่กั๋วเข้ามา

ท่านเจ้าอาวาสยังเป็นท่านราชครู ซึ่งมีตำแหน่งสูงส่งจนขุนนางที่เห็นเขาต้องโค้งคำนับให้

ขณะที่เขาได้ยินว่าท่านโหวลู่มาเข้าพบ

ก็ทำการยกมือขึ้น

"ท่านโหวลู่ไม่ต้องสุภาพมากหรอก ท่านโหวมีโชคดี อาตมาไม่ควรได้รับการไหว้จากท่านโหว" แม้ว่าเขาจะตาบอด แต่เขาก็สามารถคิดคํานวณโชคชะตาของจวนท่านโหวลู่ได้

แม้ว่าชะตากรรมของประเทศจะยุ่งเหยิงอย่างคลุมเครือก็ตาม

เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ารัชทายาทและเจาเจาร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน

ท่านโหวลู่ระงับความดีใจเป็นบ้าเป็นหลังและทักทายท่านเจ้าอาวาสสองสามคำก่อนจะเข้าไปในตำหนัก

ตามที่คาดไว้ จิ่งไหวจิ่งเหยาของเขามีชีวิตล้ำค่า

เขาถอนหายใจเบาๆ

ภายในใจมีความแน่วแน่ลับๆ

สวี่ซื่อ...

ท่านโหวลู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่กล้าเปิดเผยความคิดภายในใจ

มีเพียงหมัดที่กําแน่น เผยให้เห็นเบาะแสอย่างคลุมเครือ

เขาจะลงมือ

สวี่ซื่อเพิ่งพาเจาเจากลับตำหนัก ก็ได้ยินเสียงนายหญิงใหญ่กับเติงจือดังขึ้นมา

สวี่ซื่อชายตามองด้วยความรังเกียจ

แต่บนใบหน้ากลับสง่าผ่าเผยอย่างยิ่ง

"อวิ๋นเหนียง ข้าเกรงว่าร่างกายข้าจะไม่ไหวแล้ว ปีนี้ป่วยแล้วป่วยอีก ซึ่งป็นภาระให้พวกเจ้า..." นายหญิงใหญ่เห็นนางก็ถอนหายใจ

หลายวันมานี้นางรู้สึกหนาวเย็นเป็นครั้งคราวจนป่วยหนัก

สวี่ซื่อยิ้มแล้วเอ่ยว่านางจะมีอายุยืนยาวเพื่อปลอบใจให้คลายทุกข์

"ข้าอดนึกถึงตอนนั้นที่เจ้ารักษาโรคให้ข้า มีเติงจือคอยรับใช้อยู่ข้างๆ ใครจะพยายามอย่างสุดใจเท่าเจ้า" ตอนนั้นสวี่ซื่อเพิ่งเข้าตำหนักมาก็ได้รับใช้นายหญิงใหญ่เอง

ทั้งอุจจาระทั้งปัสสาวะ เคารพยิ่งกว่ามารดาของตัวเองอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์