ฮือ ฮือ ฮือ ชาติที่แล้วเพิ่งเรียนไปเอง ทำไมชาตินี้ต้องเรียนหนังสืออีกแล้ว
ข้าโง่เขลา แต่ข้ามีความสุข
“ฮือฮือ...ไม่อยากไปเรียนที่โรงเรียนหลวง” ไม่อยากเรียนหนังสือ ไม่อยากเขียนหนังสือ ฮือฮือฮือ
“เจ้าอายุแค่หนึ่งขวบ เสด็จพ่อก็ให้เจ้าเรียนหนังสือแล้วหรือ?” องค์ชายหกทำหน้าเห็นใจ เขาเริ่มเรียนตอนสามขวบ ฝ่ามือถูกตีจนแดงไปหมด
องค์ชายหน้าถลึงตาใส่เขา ยังราดน้ำมันบนกองไฟอีก
“เจาเจา อย่าร้องไห้เลย หากไปที่โรงเรียนหลวง เจ้าจะได้เรียนพร้อมกับพวกข้านะ” โรงเรียนหลวงเรียกอีกชื่อว่ากั๋วจื่อเจี้ยน
“บนพื้นเย็น เจ้าอย่าเพิ่งร้องไห้เลย”
อวี้ฉินอวี้ซูขอบคุณทั้งสองอย่างตื้นตัน
แต่ยัยเด็กน้อยกำลังเสียใจ จึงไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น
“เรียนหนังสือทำให้ฉลาด ทำให้ได้เรียนรู้ ไม่ถูกคนชั่วหลอกลวง เจ้าอย่าร้องไห้เลยนะ” องค์ชายห้าเกลี้ยกล่อม
“อีกอย่าง อาหารที่โรงเรียนรสชาติอร่อยมากเลยนะ”
องค์ชายห้ากำลังคิดหาสารพัดวิธีปลอบนาง ทว่าเสียงร้องกลับหยุดทันที
ลู่เจาเจาดวงตาแดงก่ำ แล้วจ้องเขาด้วยตาลุกวาว
“อาหร่อย? อาหร่อยจริงหรือ?”
องค์ชายห้าชะงักไป แล้วตอบนาง
“ถูกต้อง อีกอย่างที่โรงเรียนมีองค์ชายน้อยเยอะ ดังนั้นส่วนมากจึงเป็นอาหารที่เด็กชอบกิน”
ลู่เจาเจาน้ำตาอาบแก้ม แล้วลอบกลืนน้ำลาย
ดูเหมือน เรียนหนังสือก็ไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้น
“ผู้คนล้วนเป็นเกียรติที่ได้เข้ากั๋วจื่อเจี้ยน หนำซ้ำหัวหน้าราชบัณฑิตหยวนยังไปสอนเป็นบางครั้ง เสด็จแม่บอกว่า หากข้าถูกหัวหน้าราชบัณฑิตหยวนรับเป็นศิษย์คนสุดท้าย ถือเป็นบุญแก่วงศ์ตระกูล”
“อย่าแม้แต่จะคิด ขนาดองค์ชายใหญ่ยังถูกหัวหน้าราชบัณฑิตปฏิเสธ” องค์ชายหกหัวเราะ
ราชครูสวี่เป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ เขาคือตัวแทนของสิ่งที่แตกต่าง
แต่หัวหน้าราชบัณฑิตไม่เหมือนกัน เขามีลูกศิษย์เต็มไปหมด หากเป็นศิษย์ของเขา จะได้รับการนับถือจากผู้มีการศึกษาทั่วแผ่นดิน
ลู่เจาเจา?
หัวหน้าราชบัณฑิตหยวน?
ลู่เจาเจาเบะปาก
“ข้าไม่อยากได้เขาเป็นอาจารย์”
ห่างชั้นกันเหลือเกิน
ลู่เจาเจาไม่รู้เลยสักนิด ว่าสิทธิ์ที่นางได้รับ มากพอจะทำให้ลู่หย่วนเจ๋อและลู่จิ่งไหวช้ำใจตายได้
เมื่อองค์ชายห้าเห็นลู่เจาเจาสงบสติอารมณ์ได้แล้ว จึงได้จูงนางเดินเล่นในสวน
“เป็นสาวงามที่สวยมาก...” ลู่เจาเจาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในสวนดอกเหมยแต่ไกล จึงจ้องเขม็ง
หญิงงามที่อยู่ในชุดวังหลวงกำลังขอพรใต้ต้นดอกเหมย พอมองเห็นนางเลือนลาง จึงแลดูงดงามมาก
“นั่นคือฉินกุ้ยเหริน ตอนสาวเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งวังหลัง เป็นเสด็จแม่ของเสด็จพี่รอง”
“นี่เรียกว่าหยิวเป้าผีผาป้านเจอเมี่ยน(แปล-ใช้ผีผาบังครึ่งหน้า)” องค์ชายห้าเคยเรียนหนังสือ จึงกล่าวอย่างจริงจัง
“หยิวเป้าผีผา(แปล-ผีผาทอด)?”
“ป้านเจอเมี่ยน(แปล-คลุกบะหมี่)?
อร่อยหรือ?
ลู่เจาเจาสงสัยเรื่องนี้มาก
องค์ชายหน้ากุมหน้าผากอย่างเหนื่อยใจ
“เจ้า...รีบเรียนหนังสือเถอะนะ” แต่ว่านางจะไม่ทำให้อาจารย์โมโหหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...