นายหญิงใหญ่ได้ยินเรื่องการพนันก็ขมวดคิ้วหนัก
นางหันไปมองเด็กรับใช้ที่ร่วมเรียนหนังสือสองคนนั้นและก็เห็นว่าสายตาของเด็กทั้งสองเต็มไปด้วยความกลัวและวิงวอน
“นายหญิงใหญ่ได้โปรดช่วยด้วยขอรับ นายหญิงใหญ่ได้โปรดช่วยด้วยขอรับ เป็นเผย...” บ่าวอาวุโสสองคนที่อยู่ด้านหน้านายหญิงใหญ่ก้าวเข้าไปปิดปากเด็กทั้งสองคนเอาไว้
หนังตาของนายหญิงใหญ่เต้นกระตุกอย่างแรง
เด็กร่วมเรียนหนังสือสองคนนี้เป็นคนที่เผยเจียวเจียวส่งมาให้ เป็นอนุที่อยู่นอกเรือนของลู่หย่วนเจ๋อ
สวี่ซื่อเหลือบมองนางเล็กน้อย และค่อย ๆ กำหมัดแน่น
“วันนี้ขอให้ทุกคนเบิกตากว้างดูให้เต็มตา! ดูให้เห็นว่าคนที่กระทำการลับหลังเจ้านายจะลงเอยเช่นไร!” สวี่ซื่อยกมือขึ้น ในเรือนก็เกิดเสียงดังขึ้นมาทันที
เสียงไม้โบยกระทบไปที่เนื้อดังขึ้น
เด็กร่วมเรียนหนังสือสองคนถูกมัดเอาไว้บนม้านั่งและถูกอุดปากเอาไว้แน่น ตรงหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ ไหลอาบ และสายตาก็จับจองไปที่นายหญิงใหญ่ไม่วางตา
ปากที่ถูกอุดไว้ ส่งเสียงครวญครางออกมาอย่างต่อเนื่อง โบยลงไปครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างต่อเนื่อง และเสียงโบยก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ว่าผ่านไปเพียงครึ่งชั่วยาม ก็มีเลือดกระเซ็นไปทั่วทิศทาง และมีเลือดไหลไปตามม้านั่งลงสู่พื้น
เด็กร่วมเรียนหนังสือสองคนมีสีหน้าเขียวอมม่วง ที่มุมปากมีคราบเลือดทะลักกบปาก ร่างกายของพวกเขาอ่อนย้วยอยู่บนม้านั่งยังงั้น เลือดและเนื้อหนังจับกันเป็นก้อน คนรับใช้ทุกคนล้วนแต่เงียบเสียงไม่พูดอะไรออกมาสักคำ มีสาวใช้บางคนร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว
นายหญิงใหญ่ตกใจกลัวจนต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“นายหญิงใหญ่เจ้าคะ พวกเรากลับกันก่อนเถอะ?” หลินมามารู้สึกได้ว่าร่างกายของนายหญิงใหญ่กำลังสั่นเทาจึงกระซิบพูดเบาๆ
พอนายหญิงใหญ่หลับตาลงก็นึกถึงภาพที่เด็กร่วมเรียนหนังสือทั้งสองคนล้มลงบนกองเลือดบนพื้นขึ้นมา
การโบยให้ตายในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่โบยคนใช้เท่านั้น ราวกับว่าได้โบยมาบนร่างกายของนางด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์