ตุบ
คัมภีร์ตรีอักษรของลู่หยวนเซียวร่วงตกสู่พื้น
เขามองทารกในเปลอย่างตะลึง
[นี่ไม่ใช่คนที่มีสมองก็สามารถเรียนรู้ได้หรือ? พี่สามของข้าช่างโง่เขลาจริง ๆ]
[ช่างเถอะ รอให้ข้าโตก่อน ข้าจะเป็นคนเลี้ยงเขาเองก็ละกัน เอาไว้เป็นตัวนำโชคก็ไม่เลวนะ] ลู่เจาเจาถอนหายใจเงียบ ๆ
มีสมองก็สามารถเรียนได้งั้นหรือ?
ลู่หยวนเซียวร้องไห้เสียงดังและก็กอดหนังสือวิ่งร้องไห้ออกไป
ช่างจี้หัวใจเกินไปแล้ว เจ็บปวดที่สุด แม้แต่น้องสาวที่เพิ่งเกิดมาได้สองเดือนเขาก็ไม่สามารถสู้ได้!!
สวี่ซื่อขมวดคิ้วเข้าหากันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “รีบไปดูเร็วเข้าว่าเกิดอะไรขึ้นกับหยวนเซียว? เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลย” ทำไมอยู่ ๆ ถึงร้องไห้จนเหมือนใจสลายแบบนั้นได้ล่ะ
เหมือนกับโลกทั้งใบจะพังทลายแล้วยังไงยังงั้นถูกสวี่ซื่อจับได้ว่าเล่นพนันยังไม่แสนสาหัสขนาดนี้
ลู่เจาเจาทำหน้าพูดไม่ออก รู้สึกว่าพี่สามของนางโง่เหมือนหมูแล้วยังอารมณ์ไม่แน่ไม่นอนอีก
[จิตใจของผู้ชาย ช่างเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ในอนาคตข้าจะไม่งมเข็มหรอก]
[แต่ข้าจะเอาทั้งมหาสมุทรไปเลย]
ลู่เจาเจาสะลึมสะลือไม่นานก็นอนหลับไป
ตอนช่วงกลางคืน
ลู่เจาเจานอนแผ่กายอยู่บนเตียงเล็ก ๆ จนเผยให้เห็นท้องกลมๆ ขาวๆ นูนออกมา
ภายใต้แสงไฟของตะเกียงน้ำมัน สวี่ซื่อก็ดึงผ้าห่มมาห่มให้นาง
ลู่เจาเจากลับถูกดึงเข้าไปอยู่ในความฝัน ความฝันที่เสมือนจริงแต่ก็เหมือนจะเป็นแค่ฝัน
ในความฝันนั่นขาวโพลน ลู่เจาเจาถูกบางอย่างเรียกมา
มีคนกำลังขอพรกับนาง
“ข้าน้อยผู้ศรัทธาแก่ท่านข้าจะขอกินอาหารเจตลอดชีวิต และจะถวายชีวิตแก่เจาเจาตลอดชีวิต ขอให้เจาเจาช่วยมอบบุตรให้ข้าด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์