ราชบุตรเขยรู้สึกร้อนวูบขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งเจ็บปวดใจแทนนานและใจเต้นกับนาง
สาวใช้พากันถอยออกไปเงียบ ๆ คู่รักที่แต่งงานมาสิบสี่ปีแล้วแต่ดึกดื่นกลับไม่หลับไม่นอนทั้งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น
เมื่อลู่เจาเจาตื่นขึ้นมาก็แต่งตัวใหม่และขึ้นรถม้าไป
“ฮูหยิน ท่านอย่าได้กังวลไป นายท่านกับนายหญิงไม่มีทางโทษท่านหรอก นางน่ะเอ็นดูท่านที่สุด” เติงจือเห็นนางกระวนกระวายใจจึงพูดปลอบโยนเบา ๆ
สวี่ซื่อเม้มริมฝีปากไม่ได้พูดอะไร นางแต่งงานออกไปนานกว่าสิบปีแล้วและไม่เคยกลับบ้านเลย ดูสิว่านางไม่รู้ความมากแค่ไหน
“ท่านโหวล่ะ?” เมื่อลงมาจากรถม้า และเห็นป้ายที่อยู่ข้างบนประตูตระกูลสวี่ สวี่ซื่อก็ยืนเหม่อลอยไปชั่วขณะหนึ่ง
“เมื่อคืนท่านโหวไม่ได้กลับจวนเจ้าค่ะ เมื่อเช้าให้คนมาส่งจดหมายมาแจ้งว่าจะรีบกลับมาก่อนช่วงอาหารเที่ยง” เติงจือตอบกลับไปเสียงเบาๆ
ใบหน้าของสวี่ซื่อไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไร ความเจ็บปวดในใจมีเพียงนางคนเดียวที่เข้าใจ
ทันทีที่นางปรากฏตัว คนเฝ้าประตูของตระกูลสวี่ก็ตะโกนออกมา
“กูหน่ายนายกลับมาแล้ว!”
“กูหน่ายนายกลับมาแล้ว!!” คนเฝ้าประตูรีบวิ่งเข้าประตูไปตะโกนแจ้ง
สวี่ซื่อเดินเข้าประตูใหญ่ไป แต่งงานออกไปสิบกว่าปีแล้ว คนในจวนยังคงจำนางได้อยู่
สาวใช้ในจวนพอเห็นนางก็ทำความเคารพให้กันยกใหญ่
“ถวายความเคารพอวิ๋นเหนียง”
นี่เป็นคำเรียกนางเมื่อตอนที่นางยังอยู่ในจวน ทุกคนจะเรียกนางอย่างสนิทสนมว่าอวิ๋นเหนียง
ปัง ปัง ปัง!
นางเพิ่งผ่านประตูฉุยฮวาเข้ามาก็เห็นดอกไม้ไฟถูกจุดอยู่ข้างนอกประตู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์