หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 408

สรุปบท ตอนที่ 408: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

สรุปตอน ตอนที่ 408 – จากเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

ตอน ตอนที่ 408 ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดยนักเขียน Jaroen เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ลู่เจิ้งเย่ว์รับแก้วน้ำมาอย่างประหลาดใจก่อนจะยิ้มจนตาหยีและดื่มลงไป

“น้ำที่น้องรินให้หวานจริงๆ “ ไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองหรือน้ำหวานจริงๆ เพราะเมื่อเขาดื่มน้ำแล้ว รสชาติของน้ำมีความหวานปนอยู่ในนั้น

ถึงขั้นที่ความเจ็บปวดบนร่างกายก็จางหายไปด้วย

[ฮี่ฮี่ ใส่ยาวิเศษณ์ให้พี่รอง ดื่มหมดแก้วอาการเจ็บปวดก็จะมลายหายไป ร่างกายก็จะกระปรี้กระเปร่า...]

และยังสามารถเพิ่มพละกำลังได้

เพียงแต่ผลลัพธ์ของมันไม่ชัดเจนมากนัก

แน่นอนว่ามันเป็นเพียงความคิดของนางคนเดียว

ลู่เจิ้งเย่ว์เลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ เจาเจาของเขาเป็นเด็กดีจริงๆ

ในตอนนี้ร่างกายของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นราวกับมีพละกำลังส่งผ่านมาจากจุดชีพจร ถึงแม้จะบางเบาแต่สำหรับเขาแล้ว นี่กำลังพอดี

“ท่านแม่ ลูกขอกลับห้องไปซ้อมก่อน ท่านแม่รีบนอนนะ” ลู่เจิ้งเย่ว์รู้สึกคันยุบยิบในใจจึงรีบบอกลาไป

สวี่ซื่อเงยหน้ามองลู่เจาเจา

“เจ้านี่นะ จะกินอีกแล้วเหรอ” สวี่ซื่อปวดหัวกับนางจริงๆ

“เจาเจา แม่คิดว่าลูกคงจะหิวทั้งวัน เป็นกังวลจนนอนไม่หลับทั้งคืน...” หัวใจของผู้เป็นพ่อกับแม่ช่างน่าสงสาร ไม่ว่าชาติที่แล้วเจาเจาจะเก่งกาจมากเพียงใจ แต่ในชาตินี้นางเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง

ลู่เจาเจากะพริบตาปริบๆ อย่างไร้เดียงสา

“นอนไม่หลับทั้งคืนเลยเหรอ” นางพึมพำ

สวี่ซื่อจำต้องให้อวี้ซูช่วยนวดท้องให้นาง และอุ้มนางออกไป

ในคืนนั้น

หลังจากที่สวี่ซื่ออาบน้ำเสร็จ นางสวมชุดนอนสีชมพูอ่อน และขึ้นมานอนห่มผ้าอยู่บนเตียง

ในขณะที่นางกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น...

จู่ๆ

หัวเตียงก็มีผีสาวผมเผ้ายาวสยายปรากฏตัวขึ้น

ภายใต้แสงจันทร์ นางมองเห็นภาพตรงหน้าอย่างเลือนราง

สวี่ซื่อเบิกตากว้าง สติกระเจิง ก่อนที่นางจะกรีดร้องออกมา

“กรี๊ด!” สวี่ซื่อหวีดร้อง

เติงจือรีบนำผ้าคลุมมาห่อตัวนางและดึงนางเข้ามากอด

“คุณหนูน้อยนี่จริงๆ เลย เกือบจะทำให้ฮูหยินตกใจจนสติกระเจิงแล้ว...”

“ครั้งหน้าห้ามทำเรื่องแบบนี้อีก”

เติงจือเมื่อเห็นใบหน้าใสซื่อของนางก็อดที่จะทอดถอนใจไม่ได้

เด็กน้อยอายุสองขวบยังไม่รู้ความ

สวี่ซื่อเอื้อมมือไปจับใบหน้าเล็กที่เย็นเฉียบ แววตาของนางสะท้อนความเจ็บปวดใจ

“ช่างเถอะ เดือนหน้าเจ้าต้องไปเรียนแล้ว”

ลู่เจาเจาเบิกตากว้าง

[อะไรนะ นี่มันข่าวร้าย!!] ลู่เจาเจาถลึงตากว้าง

สวี่ซื่อเห็นท่าทีงุนงงของนางก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “สองวันก่อนฝ่าบาทเรียกแม่เข้าวัง ท่านบอกว่าเจ้าฉลาดเป็นกรดจึงควรจะรีบเข้าเรียนได้แล้ว ปกติแล้วองค์ชายเริ่มเข้าเรียนตั้งแต่สามขวบ เจ้าเข้าเรียนตอนสองขวบก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร”

สวี่ซื่อเดาว่าเพราะความสามารถของลู่เจาเจาโดดเด่น ฝ่าบาทจึงกลัวว่านางจะถูกเลี้ยงดูผิดทาง

ท่านจึงอยากให้เริ่มเรียนตั้งแต่เนิ่นๆ ให้นางมีความรู้เพิ่มพูน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์