หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 461

“อีกอย่างพี่ใหญ่เจ้าไม่ได้พูดจาส่งเดช ตอนที่ข้าเพิ่งหมั้นหมายกับเขา ตระกูลสวี่ยังไม่รุ่งเรือง ทว่าตั้งแต่มีเจ้าเข้ามา ตระกูลสวี่เรียกได้ว่าเจริญก้าวหน้าจนฉุดไม่อยู่”

“เจ้าห้ามกดดันเพราะสาเหตุนี้เด็ดขาด ดีไม่ดี อาจเพราะฐานะที่สูงศักดิ์ของอวิ๋นเหนียง ถึงได้นำพาให้ตระกูลสวี่เจริญก้าวหน้าและมั่งคั่งไปด้วย” อาซ้อใหญ่ยิ้มพร้อมกับดึงนางให้ลุกขึ้น

ตอนนางแต่งเข้าตระกูลสวี่ สวี่สืออวิ๋นยังเป็นเพียงเด็กน้อย นางเลี้ยงดูอีกฝ่ายดุจลูก

“ผ้าห่อเด็กทารกและเสื้อผ้าของเจ้า ยังเก็บไว้ที่ตระกูลสวี่ หากเจ้าต้องการ พี่ใหญ่จะให้คนไปนำมาให้”

“หลายปีมานี้ พวกเราก็แอบไปสืบเสาะหาข่าวมาบ้าง ผ้าห่อตัวของเจ้า คล้ายจะมาจากแคว้นใต้”

สวี่ซื่อพยักหน้า

“คนร้ายเมื่อคืนมาจากราชวงศ์แคว้นใต้เจ้าค่ะ ส่วนป้ายหยก เป็นสมบัติที่สืบทอดกันมาในราชวงศ์แคว้นใต้”

“เก็บป้ายหยกไว้ให้ดี อย่าได้นำมาให้ผู้ใดดู จะเป็นบุญหรือเป็นภัยยังไม่อาจรู้ได้ แต่เจ้าไม่ต้องกลัว ที่บ้านจะปกป้องความปลอดภัยของเจ้าเอง” ตอนนี้สวี่อี้ถิงรู้สึกว่าโชคดีที่อวิ๋นเหนียงดวงดี

แม้จะหย่าร้างกับลู่หย่วนเจ๋อ แต่ลูกชายลูกสาวล้วนเอาถ่าน

โดยเฉพาะเจาเจา ที่ทำให้นางได้รับพระราชทานเก้ามิ่งฮูหยิน ทำให้ฝ่าบาททรงเห็นความสำคัญของนาง ต่อให้คนของแคว้นใต้มาตามหาจริง ฮ่องเต้ก็คงไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด

สวี่อี้ถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้เพราะเหตุใด

เขามักรู้สึกว่าสวรรค์กำลังวางหมากกระดานใหญ่เอาไว้

คล้ายว่าต้นตอของทุกสิ่ง ล้วนอยู่บนตัวเจาเจา?

ความคิดนี้แวบขึ้นในหัวของเขา แต่เขาไม่ได้นำมาขบคิดให้ลึกกว่านั้น

“เจ้าน่ะ อย่ารู้สึกกดดันในใจเด็ดขาด”

“หากเจ้าทำตัวห่างเหินกับพวกเรา กลับทำให้พวกข้าเสียใจ ที่พวกเราต้องปิดบังเจ้า แค่อยากให้เจ้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ต้องมีเรื่องให้กดดันไปตลอดชีวิต” สวี่อี้ถิงเอ่ยอย่างจริงจัง ไม่เพียงแค่เขา ทุกคนในบ้านล้วนคิดเช่นนี้

สวี่ซื่อทำความเคารพพี่ใหญ่

ตอนนี้เมื่อมาคิดดู ตอนนั้นนางยึดติดกับความรัก แตกหักกับตระกูลฝ่ายมารดา แต่งงานกับลู่หย่วนเจ๋อ คงทำให้ที่บ้านเสียใจมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์