หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 622

แม้ฮูหยินจะไม่ใส่ใจ แต่นางยังคงให้คนไปเฝ้าระวังทางโน้น

เพราะกลัวพวกเขาจะก่อเรื่องอีก

สวี่สืออวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อย

“จริงหรือ?”

“เกรงว่าคงจริงเจ้าค่ะ ได้ยินว่าหลังจากฮูหยินใหญ่เป็นอัมพาต ไม่มีคนคอยดูแล ทั้งตัวมีแต่แผลกดทับ เนื้อหนังกลายเป็นเนื้อเน่าหมด ซ้ำยังถูกเผยเจียวเจียวทรมาน ยิ่งวันนี้ได้รู้ว่าลู่หย่วนเจ๋อไร้ทายาทสืบสกุล เกรงว่าคงจุกอกตายเจ้าค่ะ” เติงจือแอบหัวเราะอย่างมีความสุข

สวี่สืออวิ๋นถึงตาใส่นาง เติงจือจึงแลบลิ้น

“บ่าวอดไม่ได้นี่เจ้าคะ”

“แอบหัวเราะก็พอ อยู่ข้างนอกห้ามหัวเราะเสียงดังเด็ดขาด เดิมทีพวกเขาเป็นฝ่ายผิดอยู่แล้ว เดี๋ยวจะกลายเป็นความผิดฝ่ายเราเสียเอง”

“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ต่อให้บ่าวหยิกจนขาเขียวช้ำ ก็ไม่กล้าหัวเราะเสียงดังเจ้าค่ะ”

เติงจือเหลือบมองฮูหยิน

“ยังมาว่าบ่าวอีกนะเจ้าคะ ตอนนอนละเมอฮูหยินเสียงดังกว่าทุกคนเลยเจ้าค่ะ”

สวี่สืออวิ๋นหน้าแดง

นางเนี่ยนะ ดูผิวเผินเป็นกุลสตรีเพียบพร้อม แต่ข้างในลึกๆมีความพยศแอบซ่อนอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่แอบหนีออกจากบ้านจนได้พบกับหรงเช่อ

แต่น่าเสียดาย อยู่บ้านมีพ่อแม่พี่ชายปกป้อง

อยู่ข้างนอกมีหรงเช่อคุ้มครอง

ไม่เคยเห็นความเลวร้ายของคน พอพ้นพิธีปักปิ่นเข้าสู่วัยแรกแย้ม จึงถูกชายชั่วหลอก

วันแต่งงาน นางแต่งตัวเต็มยศ เพื่อโผเข้าสู่ความยากเข็ญของชีวิต

สวี่สืออวิ๋นถอนหายใจ แล้วเปลี่ยนชุดสีอ่อน เติงจือถอดเครื่องประดับบนหัวของนางออก ทำให้การแต่งกายค่อนข้างเรียบง่าย

“ให้คนไปเชิญพวกคุณชายและเจาเจามาเถอะ”

“แม้จะถูกขับออกจากจวน ตัดออกจากสาแหรก แต่ฮูหยินใหญ่ใกล้ตายแล้ว ควรจะไปส่งท่านสักหน่อย ถือว่าชดใช้หนี้บุญคุณในความเป็นหลานเป็นย่าในวันวาน”

ผู้คนล้วนให้ความสำคัญกับคนตาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์