“เดิมทีตำหนักใต้ดินมีโคมฉังหมิงและไข่มุกราตรี ทำให้ตำหนักใต้ดินสว่างไสวราวกับตอนกลางวัน” เมื่อโคมฉังหมิงและไข่มุกราตรีที่คอยให้ความสว่างถูกช่วงชิงออกไป ตำหนักใต้ดินจึงมืดสนิท
ลู่เจิ้งเย่ว์ชูคบเพลิงให้สูงมากกว่าเดิม
“บันทึกบนกำแพงหินคงเป็นของเจ้าของตำหนักใต้ดินใช่หรือไม่” หรงเช่อเงยหน้าขึ้นมอง
บนกำแพงหินมีภาพเด็กวัยรุ่นเจ็ดคนยืนล้อมรอบเทพเซียนสตรีอยู่
ในฉากสุดท้ายของกำแพงหิน เด็กสาวยืนอยู่กลางอากาศราวกับกำลังบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ในขณะที่ผู้คนล้มลงแทบเท้าของนางพลางหลั่งน้ำตา
“สตรีผู้นี้จะต้องเป็นเจ้าของตำหนักใต้ดินแน่” หรงเช่อกระซิบ
ลู่เจิ้งเย่ว์หันมองไปที่น้องสาวของเขา นี่เป็นชาติก่อนของเจาเจาหรือไม่
เจ็ดคนนี้เป็นลูกศิษย์เทพในวัยเยาว์ของนางด้วยหรือไม่
“ท่านแม่ทัพ มาดูนี่เร็วเข้า มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่!” ทุกคนมองตามนิ้วไป เห็นลูกศิษย์คนหนึ่งมีน้ำตาสีดำไหลหยดลงมาตามกำแพงหิน
ทุกคนตกใจและตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อยๆ
ดวงตาของเขาดูเหมือนจะจับจ้องทุกคนอยู่ตลอด
“ข้ารู้สึกราวกับว่าเขามองเห็นข้าจริงๆ ...”
“น่ากลัวเหลือเกิน ข้ารู้สึกเหมือนว่าเขากำลังจ้องมองพวกเราอยู่ตลอดเวลา…”
[สัญชาตญาณข้าแม่นยำจริงๆ เขาติดอยู่ในกำแพงหินมาโดยตลอด ไม่ได้เฝ้าดูพวกเจ้าแค่ในตอนนี้...]
[แต่เข้าเฝ้าดูพวกเจ้าทุบ ทำลาย ปล้นชิงข้าวของ]
[วันนั้นตรงกับช่วงเวลาอ่อนแอของเขาพอดี ไม่เช่นนั้นเมืองรกร้างคงจะถูกสังหารหมู่ไปแล้ว] ลู่เจาเจาลอบถอนหายใจ
[ซิงหุย ซิงหุย ข้าควรทำอย่างไรกับเจ้าดี...]
มือของลู่เจิ้งเย่ว์สั่นระริก ทำเอาคบเพลิงเกือบร่วงหล่นลงพื้น
“อ๊ะ รูปปั้นของเทพเจ้าแห่งสงครามที่แกะสลักไว้ที่ประตูตำหนักใต้ดินดูเหมือนเด็กหนุ่มคนนี้เลย…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...