หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 690

ไม่มีผู้ใดเคยเห็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่เช่นนี้มาก่อน ทุกคนในตระกูลหมิงต่างก็ตัวสั่นและหมอบลงบนพื้น

“เหล่าทวยเทพไม่ได้ทอดทิ้งพวกเรา ท่านเทพเสียนถิงไม่ได้ทอดทิ้งพวกเรา…”

“ท่านเทพเสียนถิง ได้โปรดมอบพลังศักดิ์สิทธิ์ให้แก่เหล่าผู้ศรัทธาด้วยเถิด”

“ท่านเทพเสียนถิง ได้โปรดมอบพลังศักดิ์สิทธิ์ให้แก่เหล่าผู้ศรัทธาด้วยเถิด” หัวหน้าตระกูลหมิงคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมตะโกนด้วยน้ำตาไหลอาบแก้ม

ผู้อาวุโสรองตระกูลหมิงกลับใบหน้าบูดบึ้ง ภายใต้เงาของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เหนือท้องฟ้าที่มีแรงกดดันมากมาย

ทำให้หัวใจของเขาจมดิ่งลง

ตอนนี้ลู่เจาเจามองเงาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เหนือก้อนเมฆด้วยความสงสัย

“แปลกจัง ข้าได้ยินเสียงผู้รับใช้เสียนถิงได้อย่างไร”

“เจ้าต้องการพลังศักดิ์สิทธิ์?” ลู่เจาเจาเกาศีรษะ

ผู้รับใช้เทพเจ้าใช้ชีวิตโดยพลังที่เหล่าทวยเทพมอบให้ นางรู้เรื่องนี้ดี แต่ไม่เคยมอบพลังให้ผู้ใดมาก่อน...

ลู่เจาเจาไม่เคยคิดว่านางจะสามารถใช้พลังของเสียนถิงได้จริงๆ! มันอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้วมือ ราวกับนางเป็นส่วนหนึ่งของเสียนถิง...

“พลังศักดิ์สิทธิ์...เอ่อ เอาไปนิดหนึ่งก็แล้วกัน” ลู่เจาเจาสะบัดนิ้ว แสดงประกายริบหรี่พลันพุ่งออกไป

นางไม่มีประสบการณ์จึงไม่รู้ว่าต้องให้มากเท่าใด

และเพิ่งให้ไปเพียงขนาดเท่าเล็บมือ

ใบหน้าของลู่เจาเจาเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเล็กน้อยด้วยความเขินอาย

“ข้าตระหนี่เกินไปหรือเปล่านะ จะทำให้เสียนถิงขายหน้าหรือไม่”

หัวหน้าตระกูลหมิงคุกเข่าลงบนพื้นพลางสวดภาวนาขอพลังอันศักดิ์สิทธิ์

ทุกคนคุกเข่าลงข้างหลังอย่างศรัทธาเช่นกัน

เมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปนาน แต่ยังคงไร้วี่แววของพลังศักดิ์สิทธิ์ ผู้อาวุโสรองจึงรู้สึกโล่งใจ “ยอมแพ้เถิดหมิงเสียน เทพเจ้าแห่งชีวิตทอดทิ้งตระกูลหมิงไปแล้ว ทั้งคนชราและเด็กๆ ข้างหลังเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป”

“อัจฉริยะทุกคนของตระกูลหมิงตามมาอยู่สาขาใหม่กับข้าแล้ว หมิงเสียน ท่านแพ้แล้ว” ผู้อาวุโสรองเย้ยหยัน

เมื่อพูดจบ...

แสงจางพลันพุ่งลงมาจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และห่อหุ้มสมาชิกตระกูลหมิงทุกคนในทันที

บิดาที่จากไปของข้าไม่เคยเห็นพลังอันน่ากลัวเช่นนี้เหมือนกันใช่หรือไม่

แล้วสมาชิกตระกูลหมิงที่แยกสาขาออกมาล่ะ?

“เมื่อถูกขับไล่ออกจากแผนภูมิตรวงศ์ตระกูลหมิง ถือว่าตัดสายสัมพันธ์กับเทพเจ้าแห่งชีวิตไปด้วย ไม่ต้องพยายามซึมซับพลังงานวิญญาณเข้าไปหรอก” หมิงเสียนกล่าวอย่างใจเย็น

ข้าไม่เคยรู้สึกถึงพลังอันแข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน

ท่านเทพเสียนถิง เหตุใดจึงใจกว้างเพียงนี้

ผู้อาวุโสรองไม่รู้สึกถึงพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งรอบตัว

เขาเฝ้าดูความแข็งแกร่งของพี่ชายพุ่งทะยานขึ้นอย่างโกรธแค้น

สมาชิกตระกูลที่เขาเพิ่งดูถูกไปว่าไร้สามารถ ตอนนี้ถูกชำระล้างด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ ทำให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

“โอ้…” สมาชิกตระกูลที่อยู่ด้านหลังผู้อาวุโสรองต่างพากันอิจฉา

บางคนถึงกับกระทืบเท้าด้วยความริษยาด้วยซ้ำ

“เหตุใดจึงไม่มอบพลังศักดิ์สิทธิ์ให้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้! คิดจะยื้อเวลางั้นหรือ ตั้งนานไม่ยอมปรากฏตัว พอขีดฆ่าชื่อออกจากแผนภูมิลำดับวงศ์ตระกูลกลับปรากฏตัวขึ้นเสียอย่างนั้น!” เขาพูดราวกับจะร้องไห้ออกมา