แต่นาง ก็ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลเดิมของนาง!
นางผุดนั่งตัวตรงทันที คิดอยากจะฟังอีกสักหน่อย แต่รออยู่พักใหญ่ เจ้าตัวน้อยกลับไม่ยอมพูดอะไรออกมา
ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันรังเกียจศาสตร์มืดมนตร์ดำเป็นที่สุด หากเจออะไรในบ้านตระกูลสวี่แล้วละก็...
สวี่ซื่อไม่มีเวลาคิดให้ถ้วนถี่กว่านี้แล้ว
นางโบกมือให้เติงจือขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วจึงกระซิบที่ข้างหู
“เจ้ากลับไป แค่บอกว่าข้าอยากกินน้ำแกงโสมฝืมือท่านแม่ในช่วงที่ข้าอยู่เดือน แล้วเจ้าก็แอบไปขุดออกมา อย่าให้ใครเห็นเข้าล่ะ” เมื่อพูดจบ ในแววตาของนางก็สาดประกายแห่งความลังเล
“ไม่ เดี๋ยวก่อน” สวี่ซื่อพยายามหยัดกายลุกขึ้นจากเตียง
นี่อยู่ในช่วงเดือนสิบ แต่ทั้งตัวของนางกลับเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
นางหยิบพระสูตรฉบับหนึ่งออกมาจากตู้ที่สูงที่สุด พระสูตรฉบับนี้ นางเป็นคนคัดลอกด้วยตัวเอง เดิมทีนางตั้งใจจะมอบให้แม่สามีเป็นของขวัญวันเกิด
นางกัดนิ้วมือของนาง พยายามอดทนต่อความเจ็บปวดเขียนอะไรบางอย่างลงไป
เมื่อข้อความแห้งสนิท “เจ้าเอาของที่ขุดได้ออกมา แล้วนำสาสน์โลหิตนี้วางเข้าไปแทน อย่าให้ใครจับพิรุธได้ เมื่อได้ของแล้วก็รีบกลับจวนทันที!”
เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังของสวี่ซื่อ เติงจือไม่กล้าชะล่าใจ รีบออกไปทันที
คืนนั้นสวี่ซื่อนอนไม่หลับ
กระทั่งรุ่งอรุณของวันใหม่
ท่านโหวลู่กลับมาถึงจวนด้วยท่าทางที่เหนื่อยล้า
“อวิ๋นเหนียง ข้าผิดเอง บังเอิญเมื่อคืนนี้ในราชสำนักมีเรื่องเร่งด่วน ข้ายุ่งจนไม่ได้นอนทั้งคืนเลย กลับมาไม่ทัน ต้องลำบากอวิ๋นเหนียงแล้ว” ลู่หย่วนเจ๋อรีบเอ่ยคำขอโทษทันทีที่ก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามา เรื่องแบบนี้ นางเห็นจนชินตาเสียแล้ว
ที่ผ่านมา เขาก็ยอมรับผิดแบบนี้ทุกครั้ง สวี่ซื่อก็จะเป็นฝ่ายปลอบใจบอกเขาว่างานสำคัญกว่า
แต่ตอนนี้...
นางจ้องมองลู่หย่วนเจ๋ออย่างพินิจพิเคราะห์ ปีนี้เขาอายุสามสิบสี่ปีแล้ว แต่รูปร่างยังคงดูดี ใบหน้าหล่อเหลา ดูสง่าและอ่อนโยนกว่าเมื่อก่อนอยู่หลายส่วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์