ฟังดูแล้วเหมือนไม่ใช่ความจริง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เสียงนั้นกลับชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ลู่เจาเจาลุกขึ้นมากอดผ้าห่มเอาไว้ พลางเกาศีรษะด้วยความงัวเงีย โดยมีผมเป็นเกลียวติดอยู่บนหน้าผาก
“ผู้ศรัทธาของข้า...” ลู่เจาเจาสิ้นใจเพราะช่วยกอบกู้โลกเอาไว้ ทำให้นางมีผู้ศรัทธาบนโลกมนุษย์ไม่น้อย
ลู่เจาเจาพลันโบกมือหนึ่งครั้ง ร่างของผู้ศรัทธาคนนั้นจึงปรากฏขึ้นในหัวของนาง
คนชราร่างผอมแห้งคนหนึ่งคุกเข่าอยู่หน้าฟูก สองมือที่สั่นเทากำลังจุดธูปเทียนด้วยความเคารพ
แต่เพราะแรงสั่นทำให้จุดธูปไม่ติดอยู่หลายครั้ง
เมื่อจุดไฟสำเร็จ จึงปักธูปลงในกระถางอย่างเคร่งขรึม
“ท่านเทพธิดา... ข้าน้อยคงอาจอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว” หญิงคนนั้นรูปร่างซูบผอมจนแทบติดกระดูก
ลู่เจาเจามองออกทันทีว่านางกำลังจะจากไป และอยู่ได้ไม่ถึงรุ่งสางนี้
“ข้าน้อยสัมผัสว่าชีวิตของตนเองกำลังค่อยๆ ดับมอดลง เมื่อฟ้าสางวิญญาณของข้าน้อยคงกลับสู่ยมโลก”
“ชีวิตของข้าช่างน่าสังเวชเหลือเกิน”
“ตอนที่ข้าน้อยยังเด็ก พ่อแม่อยากได้บุตรชายมาก แต่กลับให้กำเนิดบุตรสาวเจ็ดคน ล้มหายตายจากไปสองคนจึงให้กำเนิดบุตรชาย” เสียงแหบแห้งของหญิงชราแฝงไปด้วยความคับข้องใจไม่รู้จบ
“บุตรสาวทั้งหลายมีชื่อว่าเจ้าหนึ่ง เจ้าสอง เจ้าสาม… เช่นนี้เรื่อยไป ทว่าน้องชายของข้ากลับมีชื่อว่าเฉิงจง”
“เพื่อแลกกับค่าสินสอดให้กับน้องชาย ข้าต้องยอมแต่งงานกับชายแก่พิการ ชายแก่พิการคนนั้นด่วนจากไป เขาสิ้นใจด้วยอาการป่วยหลังจากที่ข้าน้อยคลอดลูกได้ 3 ปี”
“ข้าจึงต้องรับใช้พ่อแม่สามีเพียงลำพัง แต่ก็ยังไม่วายถูกพวกเขาทุบตีและด่าทอ…”
“เพราะข้าน้อยนิสัยขี้ขลาดจึงต้องดูแลพวกเขาไปจนตาย บุตรชายของข้าน้อยอยากแต่งงาน ข้าน้อยยอมเสียสละชีวิตอันไร้ค่าเพื่อให้เขาได้มีภรรยา”
“แต่เขายังไม่พอใจ เขาคิดว่าข้าน้อยยากจน และการเกิดมาเป็นลูกทำให้ต้องทนทุกข์ทรมาน”
“แต่ข้าน้อยพยายามเต็มที่แล้ว หากไม่ใช่เพราะเขา ข้าน้อยคงแต่งงานใหม่ไปนานแล้ว”
“ทั้งเลี้ยงน้องชาย เลี้ยงสามี เลี้ยงพ่อแม่สามี เลี้ยงบุตรชาย เลี้ยงหลาน...”
“ข้าน้อยเกิดมาเป็นคนอ่อนแอ ไม่มีคนคอยช่วยเหลือสนับสนุน ไม่มีทางเลือกในชีวิต บัดนี้ที่ข้าน้อยกำลังจะตาย กลับรู้สึกไม่ยินดีเอาเสียเลย...”
“ชาติที่แล้วข้าน้อยเป็นคนชั่วช้าเลวทรามหรือ ชีวิตในชาตินี้จึงเจ็บปวดเหลือเกิน”
“ข้าน้อยเสียใจที่ใจแข็งไม่มากพอที่จะทิ้งเขาตอนยังเด็ก”
“ตอนนี้ข้าน้อยจึงต้องทรมานเพราะเขา”
“ข้าบอกให้ท่านไปนอนตายในป่าก็ไม่ยอมไป หากท่านตายในบ้านหลังนี้ แล้วข้าจะอยู่ต่อไปอย่างไร” ชายคนนั้นสาปแช่งด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นว่านางยังมีลมหายใจอยู่
“คนรวยๆ มีตั้งมากมาย ทำไมข้าต้องมาเกิดในท้องของท่านด้วย โชคร้ายจริงๆ!”
หญิงชรายกมือขึ้นอย่างอ่อนแรง พร้อมกับกระซิบ “มะ มานี่...ข้า...ข้ามีเรื่องจะพูดกับ...เจ้า”
ชายคนนั้นเดินไปที่เตียงอย่างหงุดหงิด โดยไม่อยากก้มลงไปเสียด้วยซ้ำ
“มีอะไรจะพูดก็พูดมา อย่าทำให้ข้าเสียเวลาดื่มสุรา!” ชายคนนั้นพูดด้วยความโกรธ
“พะ...พ่อของเจ้าด่วนจากไป” หญิงชราพยายามอ้าปากพูด เหงื่อเย็นผุดออกมาจากหน้าผากของนาง ไฟแห่งชีวิตกำลังจะดับลงแล้ว
“เขากลัวว่าแม่หม้ายอย่างข้าจะรักษาทรัพย์สมบัติไว้ไม่ได้”
“จึงรอ... ให้เจ้าแต่งงาน... แล้วค่อยบอกความจริง”
“ขะ เขาเก็บออมแท่งเงิน...พันตำลึง และยังมี...ทองคำมากมาย...” ดวงตาของหญิงชราเบิกกว้าง พร้อมกับค่อยๆ บีบคำพูดออกมา
ชายคนนั้นกลับร้อนใจจนแทบเสียสติ “แม่ ท่านแม่! ทนไว้ก่อน ท่านต้องอดทนไว้ก่อน!!”
“ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่บอกข้า!!” ชายคนนั้นกระโดดขึ้นอย่างกระวนกระวายใจ ทันใดนั้นดวงตาของเขาจึงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และเหงื่อเย็นไหลรินออกมา
“ท่านแม่ รอก่อน ลูกจะไปเรียกหมอมาให้!!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...