หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 951

สรุปบท ตอนที่ 951: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 951 – หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

บท ตอนที่ 951 ของ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Jaroen อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ฮองเฮาผู้ถูกปลดอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยัน “คงต้องรูปโฉมงดงามมากทีเดียว”

“ฝ่าบาทไม่ทรงสนพระทัยเลยหรือ มีสตรีคนไหนบ้างในแคว้นใต้ที่รอดมือเขาไปได้”

คนของพระราชวังตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

เขาลังเลครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ราชินีภูติคือภรรยาคนก่อนที่ฝ่าบาทเพิ่งฉีกหนังสือสมรสทิ้งพ่ะย่ะค่ะ”

ทันใดนั้นฮองเฮาผู้ถูกปลดจึงเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า

“เจ้าบอกว่าราชินีภูติคือฮูหยินหนิง? คือฮูหยินหนิงงั้นหรือ! นังฮูหยินหนิง!”

“เวรกรรม ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเวรกรรม”

“ฮ่องเต้องค์ใหม่เล่า ฮ่องเต้สวรรคตแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่คือใคร องค์ชายสามงั้นหรือ ไม่สิ องค์ชายสามมีนิสัยขี้ขลาด”

“หรือว่าองค์หญิงเจ็ด องค์หญิงเจ็ดฉลาดเฉลียว แต่น่าเสียดายที่ไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ์…” นางจ้องมองคนของพระราชวังด้วยดวงตาลุกเป็นไฟ ความบ้าคลั่งในดวงตานั่นดูน่าหวาดกลัวไม่น้อย

ในตำหนักเย็นนั้นไม่มีถ่าน ทำให้อากาศยิ่งเหน็บหนาวมากขึ้นในฤดูหนาว แต่บัดนี้คนของพระราชวังกลับเหงื่อออกท่วมไปทั้งร่างกาย

“ละ ล้วน...แต่ไม่ใช่ทั้งสิ้นพ่ะย่ะค่ะ”

“แล้วคือผู้ใดกัน” นางครุ่นคิดพร้อมกับผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงไปหมด ทว่าอย่างไรก็คิดไม่ออก ว่าจะมีใครที่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากที่สุด

“องค์หญิงเจาหยางพ่ะย่ะค่ะ”

“องค์หญิงเจาหยางได้รับสืบทอดพลังศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณผู้พิทักษ์ยอมรับนางเป็นเจ้านาย...ว่ากันว่านางเป็นคนเปิดหยกลายมังกรอีกด้วย!” ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของฮองเฮาผู้ถูกปลดจึงเปลี่ยนไปอย่างมาก

“เป็นไปไม่ได้! ลู่เจาเจาเพิ่งอายุเพียงสามขวบครึ่ง นางจะเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ได้อย่างไร”

“ฮ่องเต้อายุสามขวบครึ่งน่ะหรือ เหลวไหลสิ้นดี!”

“ฮูหยินหนิง ข้าพ่ายแพ้ให้กับฮูหยินหนิง! ฮ่าๆ ๆ ข้าพ่ายแพ้นางแล้วจริงๆ ข้าไม่เหลืออะไรอีกแล้ว!”

“พวกเราป้องกันทุกทางไปหมดแล้ว แต่ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับทายาทของฮูหยินหนิง!”

“ไม่ ข้าไม่ยอมรับ ข้าไม่ยอมรับ... เฟิ่งอวี่เป็นธิดาคนโปรดของฝ่าบาท อี้เอ๋อร์เป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิด... หึๆ ส่วนข้าคือไทเฮา...”

“ข้าคือไทเฮา... ยังไม่รีบคุกเข่าถวายบังคมข้าอีกหรือ!”

นางพึมพำเบาๆ กับตนเองอย่างบ้าคลั่งในตำหนักเย็นอันหนาวเหน็บ

ในขณะที่สาวใช้ได้แต่ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้กับพื้นอย่างขมขื่น

“พระราชโองการสืบราชสันตติวงศ์ถูกส่งไปยังทุกแคว้นอย่างรวดเร็ว กษัตริย์ของทุกแคว้นได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีแต่งตั้งฮ่องเต้องค์ใหม่”

เสียงระฆังอาลัยดังสนั่นไปทั่วทั้งแคว้นใต้ ในขณะที่ฮูหยินหนิงยืนฟังเสียงนั้นข้างหน้าต่างอยู่นาน

“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ฝีมือของแม่ครัวพวกเรานี่นา!” สวี่สืออวิ๋นมองออกภายในแวบเดียว

ฮูหยินหนิงวางชามน้ำแกงร้อนๆ พร้อมรอยยิ้ม “ข้าทำเอง มาลองชิมสิ…”

“เจ้าเติบโตมาขนาดนี้ แต่ข้ายังไม่เคยให้เจ้าได้ลองชิมรสมือเลยสักครั้ง” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงใจดี แววตาฉายความคะนึงหาจางๆ

“ท่านแม่ ลูกต่างหากที่ต้องกตัญญูต่อท่าน” สวี่สืออวิ๋นรู้สึกเจ็บปวดใจแทนนางเหลือเกิน

ฮูหยินหนิงส่ายหน้าเบาๆ

ในฐานะแม่ นี่เป็นความคิดถึงที่โหยหามานานหลายปี

ฮูหยินหนิงเติมน้ำแก่งอีกชามให้กับเจาเจาและหรงเช่อ สวี่สืออวิ๋นก้มหน้าดื่มน้ำแกงนั้นจนน้ำตาไหลลงไปในชาม

นางเข้าใจความสิ้นหวังของแม่เป็นอย่างดี

นางคือราชินีภูติ มีคนในเผ่าที่ต้องการการปกป้อง นางมีภารกิจที่ต้องทำ!

หลังอาหารเย็น สวี่สืออวิ๋นจึงเข้าไปนอนห้องเดียวกับแม่ของนาง

ฮูหยินหนิงเอาห่อผ้าออกจากตู้ ห่อผ้านั้นมีขนาดใหญ่มาก เมื่อเปิดออกจึงเห็นชุดประโปรงต่างวัยมากมาย

“ตอนที่ข้าตามหาเจ้า ข้ามักจะทำชุดให้เจ้าไปด้วย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์