หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 954

สรุปบท ตอนที่ 954: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

สรุปตอน ตอนที่ 954 – จากเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

ตอน ตอนที่ 954 ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดยนักเขียน Jaroen เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“ท่านยาย หันหน้ากลับไปอีกด้านก่อน”

ฮูหยินหนิงและคนอื่นๆ มองหน้ากัน แต่ก็ยังหันหลังไปอย่างเชื่อฟัง

ลู่เจาเจาแอบมองไปรอบๆ ก่อนจะสูดลมหายใจและเป่าไปที่หุ่นเชิดดินเหล่านั้น!

ทันใดนั้นหุ่นเชิดดินดูเหมือนจะมีวิญญาณและพลังขึ้นมา

พวกมันทั้งหมดเริ่มเคลื่อนไหวเบาๆ

ลู่เจาเจาจึงใช้นิ้วชี้แตะไปที่หุ่นเชิดดินและปิดผนึกพวกมันเอาไว้

“ท่านยาย ข้าขอมอบหุ่นเชิดดินทั้ง 18 ตัวนี้ให้กับท่าน หากคนในเผ่าตกอยู่ในอันตราย ท่านยายรีบทุบหุ่นเชิดดินพวกนี้ได้เลย!” ลู่เจาเจาพูดพร้อมกับชี้ไปที่หุ่นเชิดดินด้วยมือและหน้าที่เต็มไปด้วยดินเหนียวหนืด

“อย่าให้หุ่นเชิดดินตกลงพื้น หากตกลงพื้นมันจะกลายเป็นเทพเจ้าแม่ทัพ…”

ฮูหยินหนิงยิ้มกว้าง “เอาเถิด ข้าเข้าใจแล้ว อย่าให้พวกมันตกลงพื้น…”

เจ้าเด็กโง่เอ๋ย...

นางรับหุ่นเชิดดินพร้อมกับเก็บไว้ใต้แขนเสื้อ ส่วนเรื่องใช้พวกมันในการต่อสู้นั้น นางไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

หุ่นเชิดดินเหล่านี้สัมผัสถึงพลังวิญญาณไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

จึงกลายเป็นเพียงหุ่นเชิดดินตัวเล็กๆ ธรรมดาเท่านั้น

ลู่เจาเจายืนมองฮูหยินหนิงจากไปพร้อมกับดินเต็มมือ

ก่อนจะนั่งลงไปหยิบดินขึ้นมาปั้นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง เมื่อกลับถึงห้อง นางรู้สึกง่วงนอนมากจนเกือบลืมตาไม่ขึ้น จากนั้นจึงหาวและนอนหลับไปบนเตียง

ในขณะที่นอนกรนอยู่นั้น ลมหายใจได้เป่าหุ่นเชิดดินตกลงพื้น

หุ่นเชิดดินหล่นลงกับพื้น ดินที่เต็มไปด้วยฝุ่นจางหายไปและกลายเป็นสัตว์ประหลาดในพริบตา เห็นๆ กันอยู่ว่ามันคือหุ่นเชิดดินกลายร่าง ทว่าดวงตาคู่นั้นราวกับมีวิญญาณขึ้นมาจริงๆ

รูปร่างของมันเหมือนกับตอนที่นางปั้นทุกประการ

สัตว์ประหลาดตนนั้นแยกเขี้ยวและกำลังจะคำรามเสียงดัง แต่ทันทีที่มันอ้าปากออก มือเรียวคู่หนึ่งก็บีบริมฝีปากของมันเอาไว้!

เด็กหนุ่มเหลือบตามองมันอย่างเฉยเมย

ก่อนจะยกมือขึ้นโบกให้มันสลายหายไปจึงเหลือเพียงกองดินเหนียวๆ บนพื้นกองหนึ่ง

เขายอมจำนนต่อชะตากรรมที่มี ก่อนจะถืออ่างน้ำเข้ามาเช็ดใบหน้าและมือของลู่เจาเจาให้สะอาด รวมถึงปลายนิ้วและเล็บอีกด้วย

“เจ้าแอบปั้นพลังวิญญาณอีกแล้ว…” เด็กหนุ่มกระซิบพลางดึงผ้าคลุมมาคลุมนางไว้อย่างอ่อนโยน

ก่อนรุ่งสาง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ

“ฮูหยิน ได้เวลาตื่นแล้วเจ้าค่ะ วันนี้ต้องเข้าพระราชวังไปไว้ทุกข์...”

เตียงเย็นขนาดนี้ ไม่รู้ว่าท่านแม่จากไปตั้งแต่เมื่อใด

สรุปว่าข้าล้างมือไปหรือยังนะ

“เจาเจา มัวมองมืออยู่แบบนั้นทำไม รีบมากินข้าวต้มเร็ว ประเดี๋ยวต้องเข้าวังไปไว้ทุกข์นะ”

“ใส่เสื้อผ้าหนาๆ จะได้ไม่เป็นหวัด” สวี่สืออวิ๋นสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ให้กับนาง

ก่อนจะประคองเอวตนเองด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า ลูกในท้องดิ้นไม่หยุดตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเพลานี้ ข้าว่าต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมากแน่ๆ”

หรงเช่อและลู่เจาเจารีบขยับตัวเข้าไปใกล้ทันที

“ลูกดิ้นแล้วหรือ” หรงเช่อวางมือลงบนท้องของนางอย่างระมัดระวัง

ทว่าเสื้อผ้าหลายชั้นในฤดูหนาวทำให้ไม่รู้สึกอะไรเลย

ไม่มีใครอยู่ในรถม้า ดังนั้นสวี่สืออวิ๋นจึงเปิดมุมเสื้อให้เขาสัมผัสท้องของนางผ่านชุดชั้นในบางๆ

หรงเช่อพลันแนบแก้มไว้ที่ท้อง

และสัมผัสได้ถึงแรงขยับนั้นทันที

เขาสามารถสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์อย่างแผ่วเบา

“เจ้าเด็กน้อยเตะข้าเข้าให้แล้ว! เป็นเด็กดีหน่อยสิ ดูสิ แม่ของเจ้าต้องทรมานแค่ไหนกัน” หรงเช่อผู้น่าสงสารในวัยสามสิบรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์เป็นครั้งแรก และอดไม่ได้ที่จะเห็นใจภรรยาสุดที่รัก

แต่ลู่เจาเจากลับขยับตัวเข้าไปใกล้

พร้อมกับยกมือขึ้นแตะท้องแม่ “อยู่เฉยๆ น่า อย่าทำให้แม่รำคาญ ไม่อย่างนั้นข้าจะทุบเจ้า!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์