หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 955

สรุปบท ตอนที่ 955: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 955 – หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

บท ตอนที่ 955 ของ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Jaroen อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ทารกที่ดิ้นไหวๆ ตลอดทั้งคืนพลันหยุดชะงัก

ลู่เจาเจาเหลือบมองอย่างสงสัยหลายครั้ง

แปลกเหลือเกินที่นางมองไม่เห็นอนาคตของน้องชายตนเองเช่นนี้

รถม้าส่งเสียงดังเอี๊ยดเอี๊ยดตลอดเส้นทาง

กระดาษเงินกระจัดกระจายอยู่บนถนน ชาวบ้านพากันคุกเข่าลงริมสองข้างทาง

เมื่อฮ่องเต้สวรรคต ทั้งแคว้นก็ตกอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจ

ลู่เจาเจาคือฮ่องเต้องค์ใหม่ในอนาคต แคว้นใต้จึงส่งทหารจำนวนมากมาปกป้องความปลอดภัยของนาง

ก่อนที่จะเดินไปถึงนอกตำหนักเซ่นไหว้บูชา

พระราชวังเต็มไปด้วยองค์ชายและพระนัดดา นำโดยองค์ชายสาม มารดาผู้ให้กำเนิดของเขามาจากตงหลิง และเป็นองค์หญิงตงหลิงที่ส่งมาแต่งงานเชื่อมไมตรี

ว่ากันว่าองค์ชายสามในวัยเด็กนั้นเฉลียวฉลาดเป็นอย่างมาก แต่เมื่อโตขึ้นกลับขี้ขลาด

ตอนนี้ดูเหมือนว่า...

จะต่างจากที่คาดเอาไว้

ทว่าเมื่อกลับมาทบทวนให้ดีอีกครั้ง ฮองเฮามีอำนาจควบคุมวังหลัง หนานเฟิ่งอวี่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ คงไม่มีใครกล้าทำตัวโดดเด่นสะดุดตา ทำได้เพียงการซ่อนพรสวรรค์เท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอดต่อไป

เพลานี้องค์หญิงเจ็ดที่เล่าลือกันว่ามีความสามารถกำลังยืนอยู่ข้างหลังองค์ชายสาม

สวี่สืออวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อย ภายในเวลาแค่คืนเดียวบรรดาองค์ชายและองค์หญิงจึงแตกกระจายออกไป

ราวกับเคยถูกกันไว้ด้วยเชือกเพียงเส้นเดียว

ก็จริง ที่ฮ่องเต้องค์ใหม่อายุเพียง 3 ขวบครึ่ง และยังเติบโตในเป่ยเจา ไร้รากฐานในแคว้นใต้

ผู้ใดจะยอมสละบัลลังก์ด้วยความเต็มใจกันเล่า

ครั้งหนึ่งเคยถูกตระกูลซูและฮองเฮากดทับไว้ แต่ตอนนี้? มันไม่มีอีกแล้ว

ลู่เจาเจายังไม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์ หลังจากเข้าไปในวัง นางจึงตะโกนราวกับเด็กน้อยที่เชื่อฟัง “อาสาม อาสี่ อาหญิงเจ็ด...” เด็กน้อยตะโกนเสียงหวาน ทุกคนต่างพากันพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย

เหล่าขุนนางคุกเข่าในท้องพระโรง เข้าเฝ้าฝ่าบาทด้วยคิ้วที่ขมวดแน่นเป็นปม

“เจาหยาง เจ้ากำลังจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่แล้ว เจ้าต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ควรมาไว้ทุกข์ให้กับฮ่องเต้องค์ก่อนเร็วกว่าผู้ใดทั้งสิ้น ไม่ควรมาสายเช่นนี้…” องค์ชายสามมองนางด้วยรอยยิ้มที่แฝงความไม่พอใจเล็กๆ

พวกเขาอดทนยอมให้กับหนานเฟิ่งอวี่และหนานจืออี้มานาน แต่ไม่คิดว่าจะถูกลู่เจาเจาชุบมือเปิบไปเช่นนี้

“เจาเจายังเด็ก หากอดนอนจะส่งผลต่อพัฒนาการของนาง ข้าคิดว่าฮ่องเต้ผู้ล่วงลับคงไม่อยากทำให้นางต้องลำบากใจเช่นกัน” สวี่สืออวิ๋นจับมือบุตรสาวแล้วพูดอย่างสงบ

ลู่เจาเจากะพริบตาปริบๆฮ่องเต้ตงหลิง? ฟังดูคุ้นหูเหลือเกิน

สวี่สืออวิ๋นจึงมองนางด้วยความประหลาดใจ

“ยังไม่รู้หรือ”

ลู่เจาเจาตกใจเล็กน้อย “ข้าควรรู้อะไร”

“เรื่องราวนั้นสำคัญต่อใต้หล้าและราษฎร จึงไม่อาจมอบบัลลังก์ให้คนไม่รู้หนังสือ เจ้าต้องทำการบ้านของหัวหน้าราชบัณฑิตหยวนอยู่ดี”

“แคว้นใต้ส่งราชครูมาสอนหนังสือให้เจ้าเป็นพิเศษ”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าต้องเรียนรู้การปกครองแคว้น...”

ลู่เจาเจาสะดุ้งตัวโยนพร้อมกับมองผู้เป็นแม่ด้วยความสิ้นหวัง

“ท่านหมายความว่าข้าปฏิเสธการบ้านของหัวหน้าราชบัณฑิตหยวน และยังมีอาจารย์มาสอนหนังสือเพิ่มอีกหนึ่งคนหรือ”

“โอ้พระเจ้า! ทำไมไม่มีใครบอกข้าเลย!”

“ข้าคิดมาตลอดว่าเมื่อได้เป็นฮ่องเต้แล้วไม่ต้องทำการบ้าน!”

“ไม่เป็นแล้ว ไม่เอาแล้ว! อ๊ากกก ข้าไม่อยากเป็นฮ่องเต้!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์