หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 965

สรุปบท ตอนที่ 965: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 965 – หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

บท ตอนที่ 965 ของ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Jaroen อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เย่ว์สืออวี้มีนิสัยเด็ดเดี่ยว ไม่มีวันถูกขุนนางข้าราชบริพารครอบงำ ตราบใดที่เขาไม่ต้องการก็ไม่มีใครบังคับเขาได้

ทั้งสองมาถึงสถานทูตเป่ยเจาที่มีแสงไฟเจิดจ้า

เสียงตะโกนด่าทอของฮ่องเต้เป่ยเจาดังแว่วมาแต่ไกล

“เจ้าบ้าหน้าไหนที่กล้าครอบงำข้า เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วสินะ!”

“ฮ่องเต้เฒ่าแคว้นใต้แย่งเจาหยางของข้าไปไม่พอ ผีเร่ร่อนตนไหนคิดจะรังแกข้าอีก รนหาที่ตาย!”

“อ๊ากกก เจาหยางของเรา ธิดาคนโตของข้า!” เซวียนผิงตี้พร่ำบ่นและเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

นั่นคือสมบัติล้ำค่าที่ฮ่องเต้องค์ก่อนมอบให้ในความฝัน

กลับถูกแคว้นใต้แย่งชิงไปเสียอย่างนั้น!

“ตราบใดที่เรายังอยู่จะไม่มีผู้ใดรังแกเจาหยางได้! เจาหยางเป็นฮ่องเต้น้อยแล้ว เราเองก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน!” เขาร้องไห้ขณะบ่นพึมพำ

ลู่เจาเจามองแล้วรู้สึกมีความสุขอย่างถึงที่สุด

“ทำไมเขาถึงไม่ถูกควบคุมจิตวิญญาณเล่า”

เด็กหนุ่มพลันลูบศีรษะของนางอย่างอ่อนโยน

นั่นเป็นเพราะเซวียนผิงตี้บูชาหัวใจแห่งเป่ยเจา หัวใจดวงนั้นรักโลกมนุษย์และยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด

พลังของหัวใจแห่งเป่ยเจาแผ่กระจายไปที่ตัวของเขา

“บางที... หลังจากที่พวกเรากำจัดมัน อาจทำให้มันบาดเจ็บสาหัสน่ะ” เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา ลู่เจาเจาจึงเชื่ออย่างไม่สงสัย

“ไปดูเซวียนจี้ชวนกันเถิด”

ในสถานทูตตงหลิงนั้นเงียบสงัด ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

เมื่อทั้งสองไปถึงห้องบรรทมของฮ่องเต้ตงหลิง เซวียนจี้ชวนกำลังนอนหลับอย่างเป็นสุขโดยหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ

เด็กหนุ่มหันกลับไปส่ายหน้าให้กับเจาเจา แล้วทั้งสองจึงจากไปอย่างเงียบๆ

เมื่อทั้งสองจากไป

ทันใดนั้นเซวียนจี้ชวนกลับลืมตาขึ้น และมองไปยังจุดที่ทั้งสองเคยยืนเมื่อครู่

ด้วยดวงตามึนงงเล็กน้อย

“เหตุใดเซวียนจี้ชวนถึงไม่ถูกจิตสำนึกภายนอกครอบงำเล่า”

“เพราะจิตวิญญาณของเขามีพลังยิ่งใหญ่”

ลู่เจาเจาคิดอย่างไรก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก มนุษย์ธรรมดาๆ จะมีจิตวิญญาณที่ต่อสู้กับเทพเจ้าได้จริงหรือ

ทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่บนหลังคา

ลู่เจาเจานอนอยู่บนหลังคาพลางมองดวงดาวบนท้องฟ้า บางทีความสงบของโลกใบนี้คงไม่อาจรักษาไว้ได้อีกต่อไป

เด็กหนุ่มพลันหันไปมองอีกฟากหนึ่งของทะเล

ลู่เจาเจามองตามไปด้วยความตกใจ

“เขตแดนอาคมมีการเปลี่ยนแปลง!”

“ดูสิ ทางนั้นคือทะเล!” มีคนอุทานขึ้น

“คนลือกันว่ามีประตูอยู่เหนือทะเล เป็นสถานที่ที่แยกเทพเซียนและปีศาจออกจากกัน” มันจึงเรียกว่าเขตแดนอาคม เมื่อมีประตูนี้ เทพเจ้าจะมาได้ก็ต่อเมื่อถูกอัญเชิญเท่านั้น

มารและปีศาจจึงถูกแยกออกไป

แม้ว่าจะมีปีศาจบางตนข้ามเขตแดนอาคมมาบ้าง แต่ไม่ได้สร้างปัญหาใหญ่หลวงให้กับแดนมนุษย์นัก

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมวิญญาณชั่วร้ายจึงปรากฏตัวขึ้นในโลกมนุษย์เป็นครั้งคราว

“กลับไปที่วังก่อน ส่งคนมาปลอบโยนราษฎร ข้าจะไปดูเขตแดนอาคม!” เมื่อลู่เจาเจารีบกลับไป ขันทีก็มารอรายงานอยู่นอกประตูพระราชวังแล้ว

“ฝ่าบาท ขุนนางหลายร้อยคนมารอเข้าเฝ้ากลางดึก กล่าวว่ามีบางอยากจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”

ลู่เจาเจารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปที่ตำหนักหมิงกวง เหล่าขุนนางต่างร้อนใจจนนั่งไม่ติด

“เขตแดนอาคมต้องถูกทำลายแล้วแน่ๆ!”

“อีกด้านหนึ่งของทะเลมีเขตแดนอาคมของแดนมนุษย์อยู่ หากเขตแดนอาคมถูกทำลาย พวกเราควรทำอย่างไรกันดี เทพเจ้ากับปีศาจยังมีความสามารถในการต่อสู้ แต่คนทั้งใต้หล้า…” ใต้เท้าหมิงถอนหายใจยาว

“เขตแดนอาคมถูกทำลายกะทันหันได้อย่างไร?”

“หายนะของโลกมนุษย์กำลังมาถึงแล้ว!”

เมื่อลู่เจาเจาปรากฏตัวขึ้น ทุกคนจึงเงียบและเก็บซ่อนความกังวลใจเอาไว้ให้ลึกที่สุด

“ฝ่าบาท พื้นที่บริเวณทะเลเป็นเขตดูแลของแคว้นใต้ กระหม่อมอยากทูลขอให้ไปตรวจสอบเรื่องเขตแดนอาคมเสียก่อน!” แม่ทัพโหลวลุกยืนขึ้นเป็นคนแรก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์