เย่ว์สืออวี้มีนิสัยเด็ดเดี่ยว ไม่มีวันถูกขุนนางข้าราชบริพารครอบงำ ตราบใดที่เขาไม่ต้องการก็ไม่มีใครบังคับเขาได้
ทั้งสองมาถึงสถานทูตเป่ยเจาที่มีแสงไฟเจิดจ้า
เสียงตะโกนด่าทอของฮ่องเต้เป่ยเจาดังแว่วมาแต่ไกล
“เจ้าบ้าหน้าไหนที่กล้าครอบงำข้า เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วสินะ!”
“ฮ่องเต้เฒ่าแคว้นใต้แย่งเจาหยางของข้าไปไม่พอ ผีเร่ร่อนตนไหนคิดจะรังแกข้าอีก รนหาที่ตาย!”
“อ๊ากกก เจาหยางของเรา ธิดาคนโตของข้า!” เซวียนผิงตี้พร่ำบ่นและเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
นั่นคือสมบัติล้ำค่าที่ฮ่องเต้องค์ก่อนมอบให้ในความฝัน
กลับถูกแคว้นใต้แย่งชิงไปเสียอย่างนั้น!
“ตราบใดที่เรายังอยู่จะไม่มีผู้ใดรังแกเจาหยางได้! เจาหยางเป็นฮ่องเต้น้อยแล้ว เราเองก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน!” เขาร้องไห้ขณะบ่นพึมพำ
ลู่เจาเจามองแล้วรู้สึกมีความสุขอย่างถึงที่สุด
“ทำไมเขาถึงไม่ถูกควบคุมจิตวิญญาณเล่า”
เด็กหนุ่มพลันลูบศีรษะของนางอย่างอ่อนโยน
นั่นเป็นเพราะเซวียนผิงตี้บูชาหัวใจแห่งเป่ยเจา หัวใจดวงนั้นรักโลกมนุษย์และยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด
พลังของหัวใจแห่งเป่ยเจาแผ่กระจายไปที่ตัวของเขา
“บางที... หลังจากที่พวกเรากำจัดมัน อาจทำให้มันบาดเจ็บสาหัสน่ะ” เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา ลู่เจาเจาจึงเชื่ออย่างไม่สงสัย
“ไปดูเซวียนจี้ชวนกันเถิด”
ในสถานทูตตงหลิงนั้นเงียบสงัด ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
เมื่อทั้งสองไปถึงห้องบรรทมของฮ่องเต้ตงหลิง เซวียนจี้ชวนกำลังนอนหลับอย่างเป็นสุขโดยหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
เด็กหนุ่มหันกลับไปส่ายหน้าให้กับเจาเจา แล้วทั้งสองจึงจากไปอย่างเงียบๆ
เมื่อทั้งสองจากไป
ทันใดนั้นเซวียนจี้ชวนกลับลืมตาขึ้น และมองไปยังจุดที่ทั้งสองเคยยืนเมื่อครู่
ด้วยดวงตามึนงงเล็กน้อย
“เหตุใดเซวียนจี้ชวนถึงไม่ถูกจิตสำนึกภายนอกครอบงำเล่า”
“เพราะจิตวิญญาณของเขามีพลังยิ่งใหญ่”
ลู่เจาเจาคิดอย่างไรก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก มนุษย์ธรรมดาๆ จะมีจิตวิญญาณที่ต่อสู้กับเทพเจ้าได้จริงหรือ
ทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่บนหลังคา
ลู่เจาเจานอนอยู่บนหลังคาพลางมองดวงดาวบนท้องฟ้า บางทีความสงบของโลกใบนี้คงไม่อาจรักษาไว้ได้อีกต่อไป
เด็กหนุ่มพลันหันไปมองอีกฟากหนึ่งของทะเล
ลู่เจาเจามองตามไปด้วยความตกใจ
“เขตแดนอาคมมีการเปลี่ยนแปลง!”
“ดูสิ ทางนั้นคือทะเล!” มีคนอุทานขึ้น
“คนลือกันว่ามีประตูอยู่เหนือทะเล เป็นสถานที่ที่แยกเทพเซียนและปีศาจออกจากกัน” มันจึงเรียกว่าเขตแดนอาคม เมื่อมีประตูนี้ เทพเจ้าจะมาได้ก็ต่อเมื่อถูกอัญเชิญเท่านั้น
มารและปีศาจจึงถูกแยกออกไป
แม้ว่าจะมีปีศาจบางตนข้ามเขตแดนอาคมมาบ้าง แต่ไม่ได้สร้างปัญหาใหญ่หลวงให้กับแดนมนุษย์นัก
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมวิญญาณชั่วร้ายจึงปรากฏตัวขึ้นในโลกมนุษย์เป็นครั้งคราว
“กลับไปที่วังก่อน ส่งคนมาปลอบโยนราษฎร ข้าจะไปดูเขตแดนอาคม!” เมื่อลู่เจาเจารีบกลับไป ขันทีก็มารอรายงานอยู่นอกประตูพระราชวังแล้ว
“ฝ่าบาท ขุนนางหลายร้อยคนมารอเข้าเฝ้ากลางดึก กล่าวว่ามีบางอยากจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”
ลู่เจาเจารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปที่ตำหนักหมิงกวง เหล่าขุนนางต่างร้อนใจจนนั่งไม่ติด
“เขตแดนอาคมต้องถูกทำลายแล้วแน่ๆ!”
“อีกด้านหนึ่งของทะเลมีเขตแดนอาคมของแดนมนุษย์อยู่ หากเขตแดนอาคมถูกทำลาย พวกเราควรทำอย่างไรกันดี เทพเจ้ากับปีศาจยังมีความสามารถในการต่อสู้ แต่คนทั้งใต้หล้า…” ใต้เท้าหมิงถอนหายใจยาว
“เขตแดนอาคมถูกทำลายกะทันหันได้อย่างไร?”
“หายนะของโลกมนุษย์กำลังมาถึงแล้ว!”
เมื่อลู่เจาเจาปรากฏตัวขึ้น ทุกคนจึงเงียบและเก็บซ่อนความกังวลใจเอาไว้ให้ลึกที่สุด
“ฝ่าบาท พื้นที่บริเวณทะเลเป็นเขตดูแลของแคว้นใต้ กระหม่อมอยากทูลขอให้ไปตรวจสอบเรื่องเขตแดนอาคมเสียก่อน!” แม่ทัพโหลวลุกยืนขึ้นเป็นคนแรก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...